‘2แกนนำตัวเป้งม็อบราษฎร’ ฟ้อง ‘กมธ.ป.ป.ช.’ ถูกอายัดตัวจากเรือนจำ-ทำร้ายร่างกาย ลั่นมิชอบด้วยกฎหมาย ทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง โต้เดือด ‘เอ๋ ปารีณา’ ว่าด้วย ‘เด็กเลี้ยงแกะ-เล้าไก่-เลี้ยงหมู’
3 ธ.ค.2563 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง 2แกนนำจากกลุ่มราษฎร2563 เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน กมธ. กรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจากการควบคุมตัวนายพริษฐ์ และนายภาณุพงศ์ จากเรือนจำพิเศษกทม. โดยที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังแล้ว และถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลิปเดือด! ‘ปารีณา-กวิ้น’ปะทะคารมกลางกมธ. ว่าด้วย‘เล้าไก่-หมู’)
โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ได้เคลื่อนไหวมาปรากฏว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยเฉพาะการถูกจับจ้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เช่น มีการส่งคนเข้ามาสังเกตการณ์ระหว่างทำกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไปจนถึงมีการติดกล้องวงจรปิดถึง 8 ตัว ที่บริเวณบ้านเช่าที่อาศัยรวมกันกับเพื่อน ย่านเชียงราก จ.ปทุมธานี ซึ่งปกติมีอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่เคยได้รับการดูแลอย่างดีแบบนี้มาก่อน ขณะนี้ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 27 คดี ซึ่งบางคดีตำรวจใช้วิธีการแจ้งข้อหาหลายๆ ข้อหารวมกันเพื่อสร้างความลำบากในการแก้ข้อกล่าวหาเนื่องจากตัวเองยังมีภารกิจต้องเรียนหนังสืออยู่ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 17 คดี เป็นคดีเกี่ยวกับมาตรา 116 และ 112 ซึ่งบางข้อหามองว่าเป็นการแจ้งข้อหาโดยมิชอบทำให้ไม่สามารถสู้คดีได้
ขณะที่นายภาณุพงศ์ ระบุว่า ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 6 คดี ล่าสุดคือ มาตรา 112 สำหรับกรณีที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขัง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาแต่มีการอายัดตัวเนื่องจากมีคดีที่จ.นนทบุรี อยุธยา และอุบลราชธานี โดยถูกนำตัวไปที่ สน.ประชาชื่น
นายพริษฐ์ กล่าวว่า วันดังกล่าวตนเองได้ร้องพบทนายตามสิทธิขั้นพื้นฐานเพราะมองว่าเป็นหมายจับที่สิ้นผลไปแล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หลอกล่อว่าน.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำราษฎร ซึ่งถูกแยกขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ยอมไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาขออายัดตัวตนเอง กับนายภาณุพงศ์ จึงยอมขึ้นรถไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ สน.ประชาชื่น
ทั้งนี้ ก่อนที่จะขึ้นรถไปยังสน.ประชาชื่น นายภาณุพงศ์ ระบุว่า ตนเองและนายพริษฐ์ ได้ยินเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดว่า ”สงสัยต้องใช้กำลัง” จากนั้นมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 นาย มากระชากตัวเพื่อนำขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา โดยไม่ได้แสดงตัวและไม่ได้แสดงหมายจับ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ 3 นายขึ้นรถไปด้วย และได้กดตัวไว้เพื่อไม่ดิ้นและไม่ให้เปิดกระจกรถทำให้ตนเป็นลมในที่สุด
ส่วนนายพริษฐ์ ระบุว่า มีเศษกระจกบาดตามตัวแต่จำไม่ได้ว่ากระจกแตกจนบาดตามตัวได้อย่างไร เพราะขณะเกิดเหตุชุลมุนกันมาก มารู้ตัวอีกทีคือถูกนำตัวลงมาจากรถควบคุมผู้ต้องหาแล้ว และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแสดงหมายจับจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา และอุบลราชธานี
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างให้ทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายทราบชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 6 นายแล้วแต่ยังไม่สามารถหารูปเพื่อให้ตน และนายภาณุพงศ์ ยืนยันตัวบุคคลได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองและนายภาณุพงศ์ เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม และผู้เห็นต่างทางการเมือง จึงขอเรียกร้องกมธ. ให้เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายมีการโต้เถียงกัน ระหว่างน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการฯ กับนายภาณุพงศ์ และนายพริษฐ์ โดยน.ส.ปารีณา ได้สอบถามทั้ง 2 คนเกี่ยวกับการปล่อยตัวว่าการจะปล่อยตัวได้นั้นจะต้องมีหมายศาลมาที่เรือนจำก่อนจึงจะสามารถปล่อยตัวได้ใช่หรือไม่ ซึ่งนายภาณุพงศ์ ยอมรับว่า ใช่ และพยายามจะอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่น.ส. ปารีณาได้แย้งขึ้นมาว่า ไม่ต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำอีก เพราะได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ พยายามอธิบายเสริม และลุกขึ้นชี้มือไปทาง น.ส.ปารีณา ทำให้ น.ส. ปารีณา ลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วกลับไปว่า อย่าชี้หน้าที่นี่ไม่ใช่ม็อบ ทำให้นายพริษฐ์ โตกลับว่า “ที่นี่ไม่ใช่เล้าไก่” โดยน.ส.ปารีณา ตอบกลับว่า “ดิฉันเคยเลี้ยงไก่แต่ดิฉันไม่ชอบเลี้ยงหมู”
ต่อมาน.ส.ปารีณา ได้ถามว่าจะมีการดำเนินการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ ที่กระทำการโดยมิชอบตามที่กล่าวหาหรือไม่ โดยนายภาณุพงศ์ กล่าวว่า การที่ถามเช่นนี้ไม่ได้ฟังในสิ่งที่ตนได้ชี้แจง กมธ.ไปก่อนหน้านี้ว่ากำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่ง น.ส.ปารีณา กล่าวว่า “ดิฉันไม่ชอบฟังเด็กเลี้ยงแกะก็เลยฟังบ้างไม่ฟังบ้าง” โดยนายพริษฐ์ ได้สวนขึ้นมาอีกว่า“ต้องเลี้ยงไก่ใช่ไหมครับ” ขณะที่น.ส.ปารีณา ย้ำอีกว่า “ดิฉันเลี้ยงไก่ค่ะแต่ไม่เลี้ยงหมู”
จากนั้นนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการ กมธ. ได้ตัดบทว่า ผู้มาชี้แจงทั้ง 2 คน ไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถามหากคำถามไหนตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบ แต่สามารถส่งเป็นเอกสารมาชี้แจงในภายหลังได้ต่อ
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวสรุปว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะดำเนินการเรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ทั้ง 2 คนกล่าวถึงมาชี้แจงต่อ กมธ. ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี