พระมหากษัตริย์คือ‘จอมทัพไทย’
ผบ.ทบ.ปลุกทหาร
ปัดแนวคิดสาธารณรัฐ-ไม่มีในหัว
วอนอย่าทำร้ายกันหยุดทำร้ายปท.
“บิ๊กบี้” ผบ.ทบ.ลั่น สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ “จอมทัพไทย” จุดศูนย์รวมเป็นหน้าที่ “ทหาร-คนไทย” ต้องปกป้องสถาบันเอาไว้ให้มั่นคง เพราะเป็นสถาบันหลักของชาติ เพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข ปัดตอบแนวคิดตั้ง “สาธารณรัฐ” วอนคนไทยต้องช่วยกัน อย่าทำร้ายกัน-ทำร้ายประเทศ “นายกฯ” ยัน “บิ๊กช้าง” นั่งกก.สมานฉันท์ แต่แรก แจงต้องมีฝ่ายมั่นคง “บิ๊กป้อม” ปัดปรับเปลี่ยนชื่อ เผย ครม.ส่ง “บิ๊กช้าง-เทอดพงษ์” “ชวน” หวังฝ่ายค้านร่วมวง ขณะที่เรือนจำปล่อย “เต้น-ณัฐวุฒิ” พ้นคุก เสื้อแดงแห่รับให้กำลังใจ “กวิ้น 3 นิ้ว” รีบโพสต์ยินดี โอด 2 ปี โดนแล้วกว่า 40 คดี เฉพาะ มาตรา 122 เจอไป 12 คดี ไม่มีเวลาทำกิจกรรม-พักผ่อนเลย
เมื่อวันที่ 18ธันวาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ถึงสถานการณ์บ้านเมืองหลังพนักงานสอบสวนใช้มาตรา112 ดำเนินคดีกับผู้หมิ่นสถาบันว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ตนไม่ใช่นักกฎหมาย แต่เป็นนักการทหาร มีหน้าที่ป้องกันประเทศและช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเทิดทูนสถาบัน ทั้งนี้ทหารกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันตั้งแต่ก่อตั้งประเทศนี้มา พระมหากษัตริย์ คือ ผู้นำจอมทัพไทย และรบราป้องกันอริราชศัตรู สร้างอาณาเขต สร้างความมั่นคงให้แผ่นดินนี้ จนพวกเรามานั่งอยู่ตรงนี้ เรามีสิทธิ์ มีงานทำ มีบ้านอยู่ มีความสุขอยู่บนแผ่นดิน เนื่องจากพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ในอดีตที่ได้รวมชายไทยในอดีต ซึ่งต้องทำหน้าที่ทหาร รักษาแผ่นดินและความมั่นคงให้เราอยู่จนมาถึงทุกวันนี้ รวมถึงคนอื่นจากแผ่นดินอื่น ศาสนาอื่นมาอาศัยอยู่ร่วมกัน
ผบ.ทบ.ชี้ทหารต้องจงรักภักดี
“เพราะฉะนั้นพระมหากรุณาธิคุณนั้นจึงยิ่งใหญ่ไพศาลและมหาศาลเหลือเกิน หลายร้อยปีมาแล้ว ในส่วนของทหาร จึงเป็นผู้ต้องถวายความจงรักภักดี ผู้ต้องมีความกตัญญู เป็นเลิศต่อแผ่นดินไทย ที่จะต้องรักษาความมั่นคงที่บรรพชนรักษาและทำมาให้แผ่นดินนี้มีความสงบร่มเย็น ภายใต้พระบารมีและบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าและดูแลช่วยเหลือประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข เมื่อประเทศอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ทุกอย่างก็ดี เพราะฉะนั้นเราควรช่วยรักษาความสงบร่มเย็นให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้และทำมาหากินได้ ยิ่งในสภาพการณ์ตอนนี้คือต้องช่วยเหลือกันและบริโภคกันภายในประเทศ อย่าทำร้ายกัน อย่าทำร้ายประเทศชาติ อย่าทำร้ายประชาชน”ผบ.ทบ.ย้ำ
ไม่มีเรื่องตั้งสาธารณรัฐอยู่ในหัว
เมื่อถามว่าพูดได้เลยว่าแนวคิดเรื่องสาธารณรัฐจึงเป็นไปไม่ได้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า’ไม่ทราบครับ เรื่องนี้ไม่มีในหัวผม’ถามย้ำว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า’ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้จักคำนี้’ เมื่อถามต่อว่า ที่บอกว่าต้องเทิดทูนสถาบัน เราต้องปกป้องสถาบันไม่ให้ครก้าวล่วงใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ทุกคนมีหน้าที่ปกป้อง ใครมีหน้าที่ด้านไหนก็ทำไปด้านนั้น ผมพูดได้แค่ว่าทุกคนมีหน้าที่กันหมด เมื่อจุดมุ่งหมายคือประชาชนร่มเย็นเป็นสุขและการที่ประชาชนประเทศชาติจะร่มเย็นเป็นสุขได้นั้น สถาบันหลักเป็นจุดศูนย์รวมต้องอยู่อย่างมั่นคง ทุกคนจึงมีหน้าที่ คนถือกฎหมายก็มีหน้าที่เช่นกัน’ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมยังกล่าวถึงสถาบันฯอยู่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า คงไม่ตอบเรื่องการเมือง ตนไม่เชี่ยวชาญเรื่องการเมือง
สื่อมีส่วนสำคัญทำให้ชาติสงบ
เมื่อถามต่อว่าช่วงรอยต่อปีใหม่เกรงจะมีมือที่สามฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ช่วงหยุดยาวหน่วยงานความมั่นคงก็ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว ทุกคนเสียสละอุทิศตน เพียงแต่เราไม่รู้ การที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขในขณะนี้ เราต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่เหล่านั้น เพราะทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ไม่มีภัยอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับประชาชนช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สื่อถือว่ามีความสำคัญ เพราะตนเองพูดคนก็ไม่เชื่อ สื่อจะเขียนให้คนรักกัน ให้ประเทศสงบเขียนได้ แต่ถ้าเขียนบนความคิดให้มันไม่ดี มันก็ไม่ดี ดังนั้นสื่อต้องคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก
ผบ.ทบ.กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ว่า ไม่มีคำว่าเหนื่อย หรือหนักใจ ในเมื่อเราอุทิศตนและตั้งใจมาเป็นทหาร ถ้าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะที่ทำเพื่อประชาชนก็ทำไปเลยและไม่เหนื่อยเพราะเราเป็นทหาร เมื่อหมดภาระหน้าที่ไป ก็จบก็เป็นหน้าที่คนต่อไปที่จะเข้ามาทำต่อ
บิ๊กป้อมลั่นไม่เปลี่ยนกก.สมานฉันท์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีส่งชื่อ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปเป็นกรรมการสมานฉันท์ในสัดส่วนรัฐบาล ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเป็นชื่ออื่น ว่า รายชื่อดังกล่าวไม่ได้มีการปรับ เป็นเรื่องของคนที่เสนอเข้ามาและเป็นเรื่องของการตัดสินใจในคณะรัฐมนตรี(ครม.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 รายชื่อดังกล่าวจะทำให้การปรองดองสมานฉันท์ไปได้สวยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราต้องเอาคนที่ดีๆ เข้าไป คาดหวังว่าจะคุยกันรู้เรื่อง
บิ๊กตู่ยันบิ๊กช้างนั่งสมานฉันท์แต่แรก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงรายชื่อคณะกรรมการสมานฉันท์ที่จะเสนอชื่อ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ก็ตามนั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรตั้งแต่ต้น ซึ่งคิดว่าต้องมีฝ่ายความมั่นคงเข้าไปด้วย จึงให้ พล.อ.ชัยชาญ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ เชื่อว่าไม่ได้เข้าไปสร้างความขัดแย้งอะไร เพียงแต่ต้องมีการอธิบายและรับฟังซึ่งกันและกันบ้าง ทั้งการเมืองและอะไรต่างๆก็แล้วแต่ จึงต้องมีฝ่ายความมั่นคงเข้าไปร่วม เมื่อถามว่า คิดว่าจะสำเร็จหรือไม่ เพราะฝ่ายเห็นต่างไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามผู้ที่เห็นต่างด้วย มาถามฝ่ายที่ไม่เห็นต่างได้อย่างไร จึงต้องไปถามฝ่ายเห็นต่างว่าทำอย่างไรถึงจะหาวิธีการที่ทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ กฎหมาย และรัฐธรรมนูญมากนัก
“ไม่อยากให้ทุกอย่างขัดแย้งกันไปเรื่อยๆ เมื่อวานในที่ประชุมการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ประชุมเพียงชั่วโมงเดียว ผมได้รับรายงานว่ามีอีกฝ่ายไปก้าวล่วงมากมายในที่ประชุม เหตุการณ์จะไม่ดี ไม่เหมาะสม จึงต้องให้หยุดไปก่อน เพราะฉะนั้นต้องพูดให้อยู่ในกรอบ อะไรควรทำก่อนหรืออะไรที่ไม่ควรทำต้องรู้ ขอให้นึกถึงหัวอกคนไทยทั้งประเทศบ้าง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
‘ชวน’หวังฝ่ายค้านร่วมวงด้วย
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.)เสนอชื่อพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.ร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่า ครม.เสนอชื่อมาแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้รังเกียจ 2บุคคลที่ครม.ส่งมาก่อนหน้านี้และไม่ได้มีปัญหาใด ๆ มั่นใจว่าทุกคนมีประสบการณ์ สามารถให้ความเห็นสร้างความปรองดองสมานฉันท์ได้ ส่วนกรณี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เตรียมหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อพิจารณาทบทวนส่งบุคคลเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ผู้นำฝ่ายค้านรับปากจะนำไปหารือต่อ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะการส่งผู้แทนร่วมเป็นกรรมการฯ เพื่อระดมความเห็น แก้ปัญหาบ้านเมืองเท่านั้น ไม่ต้องลงมติ ส่วนจะเริ่มประชุมนัดแรกเมื่อใดนั้น นายชวน กล่าวว่า ต้องรอให้ได้รายชื่อจากฝ่ายที่เสนอตัวแทนเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์มีความพร้อมก่อน แต่ไม่มั่นใจว่า จะสามารถประชุมนัดแรกทันปีนี้หรือไม่ ซึ่งในวันที่ 20ธันวาคม ที่ประชุมอธิการบดีสถาบันการศึกษาจะประชุมคัดเลือกผู้เข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ตามสัดส่วน
ปล่อย’เต้น’พ้นคุก-เสื้อแดงแห่ยินดี
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งผ่านขั้นตอนพิจารณาหลักเกณฑ์พักโทษครบถ้วน หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8เดือน ในคดีการชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์เมื่อปี2550 พร้อมกับ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นพ.เหวง โตจิราการและนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล
หลังได้รับการปล่อยตัว นายณัฐวุฒิ สวมเสื้อลิเวอร์พูล ขึ้นรถตู้ของเรือนจำเดินทางไปติดกำไลอีเอ็ม ที่กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยมี น.ส.สิริสกุล ใสยเกื้อ (ภรรยา), นพ.เหวง โตจิราการ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมากที่มารอรับให้กำลังใจ ขณะที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับอิสรภาพของพี่เต้น ขอขอบคุณพี่เต้นมากๆที่ช่วยดูแลผมระหว่างที่ผมไปผจญภัยในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และต้องขออภัยจริงๆที่ผมไม่สามารถไปร่วมต้อนรับพี่เต้นด้วยตัวเองได้เพราะผมติดภาระต้องจัดการคดีของผมเอง ยังคงเคารพการต่อสู้ของพี่เต้นและคนเสื้อแดงเสมอครับ
‘กวิ้น’ครวญโดนแจ้งความกว่า40คดี
ที่ สน.บางโพ เวลา 13.00น.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวินพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งเจ้าพนักงานตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ หลังจัดชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนแจ้งกับทนายความว่า จะแจ้งความนายพริษฐ์ เพิ่มเติมในความผิดมาตรา116และมาตรา215 มั่วสุมเกินสิบคนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายเกี่ยวกับความมั่นคงและกฎหมายการชุมนุม โดย นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโดนคดี ทั้งที่กลุ่มผู้ชุมนุมฝั่งตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทั้งยิงปืนขว้างระเบิดกลับถูกคดี แต่ฝั่งตรงข้ามกลับไม่มีคดีความ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีกิจกรรมการชุมนุมตลอด 2ปีที่ผ่านมา ตนถูกคดีความ40กว่าคดี ปีนี้เฉพาะคดี112 มีคดีรวม12คดี มองว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ทำให้ตนไม่มีเวลาทำกิจกรรม หรือพักผ่อนเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี