ไม่เชื่อลมปาก‘แม้ว’
จะวางมือการเมือง
แรมโบ้แนะหยุดจ้อ
“แรมโบ้อีสาน” ไม่เชื่อแม้ว จะเลิกยุ่งการเมือง แค่คำพูดลมๆ แล้งๆแนะหยุดพูด 2 ปี ลดขัดแย้ง ชาติสงบ “หมอวรงค์” ระบุปัญหาประชาธิปไตยไทยป่วนมาจากคนทำผิดไม่ยอมรับผิด จ้องปลุกปั่นเปลี่ยนระบบ เตือนถึงน้องๆ สามนิ้วต้องทบทวนได้แล้ว
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อ’ไทยเอ็นไควเออร์’ยอมรับก่อนรัฐประหารปี2549ยังเดียงสาทางการเมือง ไม่รู้ว่าไทยเป็น’รัฐซ้อนรัฐ’ชี้การลุกขึ้นประท้วงของนักศึกษาคือภาพสะท้อนความต้องการประชาธิปไตย ไม่เอาทหารและไม่เอาการรับรองรัฐประหาร จากสถาบันฯว่าไม่อยากให้นายทักษิณมองอย่างนั้นแต่อยากให้ดูที่ต้นเหตุถึงการขับไล่มากกว่า ว่านายทักษิณ ได้ทำอะไรลงไปบ้างและสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างไรจะต้องยอมรับความจริงในเรื่องนี้ ไม่มีใคร เชื่อว่านายทักษิณ จะอ่อนเดียงสา แต่เชื่อว่าเป็นเพราะ ดื้อและมีอัตตา เชื่อมั่นในตัวเองสูงเกินไป ไม่ยอมรับฟังคนที่หวังดีที่เตือนสติมากกว่า จนทำให้เกิดปัญหามากมายนำมาสู่ความขัดแย้งและความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง ปล่อยให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริวารและพวกพ้องอย่างมากมาย
ส่วนที่นายทักษิณบอกว่าอยากไปให้ไกลจากการเมืองแต่มีผู้มีอำนาจยังคงรังแกเขาอยู่ ผู้มีอำนาจหวาดกลัวเขา เหมือนเป็นผีดิบทางการเมืองนั้น นายสุภรณ์ ระบุว่าส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง เพราะส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณยังคงอยากมีอำนาจ ทางการเมือง โดยเห็นจากพฤติกรรมที่ผ่านมา ไม่เคยหยุดที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แม้การเลือกตั้งท้องถิ่นระดับ อบจ.ที่ผ่านมายังเข้าไปยุ่งในการหาเสียงเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่และ จ.เชียงรายซึ่งคำพูดดังกล่าว ถือเป็นการพูดใส่ร้ายกล่าวหาคนอื่นและให้ตัวเองดูดีเท่านั้น
“ถ้าต้องการยุติบทบาททางการเมืองอย่างจริงจัง ควรนั่งแถลงข่าวให้ชัดเจนเลยว่าจะล้างมือและไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดๆและนักการเมืองหน้าไหนทั้งสิ้นแม้แต่กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลายหรือพวกแดงล้มเจ้าที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศก็จะไม่มีวันช่วยเหลือสนับสนุนอีกต่อไปซึ่งอาจทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเชื่อใจขึ้นมาบ้าง”
นายสุภรณ์กล่าวว่าสำหรับการลุกขึ้นมาชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในประเทศไทยเวลานี้ ขอนายทักษิณ คิดทบทวนให้ดีว่า เป็นการชุมนุมที่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการชุมนุมที่ก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หวังคิดล้มล้างสถาบันซึ่งนายทักษิณก็รู้แก่ใจว่ามีกลุ่มบุคคลใดเป็นอีแอบหนุนหลังอยู่ ซึ่งเรื่องก้าวล่วงสถาบันนี้ เป็นที่กระทบกับจิตใจของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีวันที่คนไทย จะยอมเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน ประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขวิกฤติของประเทศดังนั้นขอร้องให้นายทักษิณ อย่าคิดสนับสนุนหรืออยู่เบื้องหลังของกลุ่มผู้ชุมนุมเลย ทั้งนี้ ตนเองก็ไม่มั่นใจว่าที่มีการชุมนุมนั้น แกนนำต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเองที่ได้ท่อน้ำเลี้ยงจากใครมาทำการชุมนุมหรือชุมนุมเพื่ออนาคตของประเทศ หรือ ของบุคคลที่เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังกันแน่ เหมือนดังเช่นการชุมนุมในอดีตที่ผ่านมา
“ในอดีตการชุมนุมของกลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง เราก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใครและได้รับทุนสนับสนุนน้ำเลี้ยงจากใครและต่อสู้เพื่อใคร เป้าหมายคืออะไร ใครคือผู้รอรับผลประโยชน์ ผมคงไม่ต้องไปเล่าเรื่องราวฟื้นฟูความทรงจำในอดีตให้กลับขึ้นมาอีก เพราะผมไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องราวการต่อสู้ในอดีตที่เคยเจ็บปวด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ถูกหลอกให้มาลงถนนต่อสู้เพื่อได้มา ซึ่งอำนาจของกลุ่มคนบางคนซึ่งนายทักษิณรู้ดีแก่ใจ”นายสุภรณ์ ย้ำ
นายสุภรณ์ยังระบุว่า จึงขอร้องนายทักษิณว่าถ้ารักและห่วงใยประเทศจริง อยากไปให้ไกลจากการเมือง ควรหยุดพูดวิพากษ์วิจารณ์เสียที เพราะยิ่งพูดยิ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันจบสิ้น ยืนยัน ไม่มีอำนาจไหนไปรังแกท่าน อย่าไปคิดว่ามีอำนาจไหนมารังแก จิตคงสับสน คิดมากเลยวิตกกังวลไปเองมากกว่า นายทักษิณเองต่างหาก ที่ต้องยอมรับความจริงว่าได้รังแกและคิดร้ายทำร้ายตัวเองตลอดมา สาเหตุเกิดจากความเชื่อในอำนาจที่ครอบครองอยู่ จนเกิดความคิดเก่งกล้าท้าทายอำนาจประชาชนมากกว่าจึงนำไปสู่การชุมนุมขับไล่ นายกฯและรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถ้านายทักษิณ ลองตั้งใจหยุดพูด หยุดวิพากษ์วิจารณ์ สักปีสองปีและไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองจริงๆอีกเลย ตนเชื่อว่าประเทศไทย จะลดความขัดแย้ง ความสงบสุขและสันติสุข จะกลับคืนมามากกว่านี้อย่างแน่นอน
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า“ช่วงเวลาที่สามนิ้วต้องทบทวน ประชาธิปไตยของอเมริกา กำลังเกิดปัญหา เพราะตัวคน คนแพ้เขาไม่ยอมแพ้ แต่ปัญหาของประชาธิปไตยของไทยเรา ก็เกิดจากคน คนทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แม้ศาลจะตัดสินไปแล้ว และพยายามปลุกปั่น เพื่อล้มเจ้า เปลี่ยนระบบ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ตึกรัฐสภาของอเมริกา จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยมาถูกทาง ทั้งเรื่องรากเหง้าและวิถีไทย ปัญหาใหญ่จึงเกิดจากคน ช่วงเวลาโควิดนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่น้องๆสามนิ้ว ได้ทบทวนหลักคิด ศึกษาความเป็นมา ของความเป็นชนชาติไทย บนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเทียบกับอเมริกา อย่างน้อยจะได้นำพลังที่มีของน้องๆ มาช่วยผลักดันประเทศ ไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี