ควันหลงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลรวม 10 คน หลังจาก ส.ส. เสียงข้างมากโหวต ไว้วางใจนายกฯ-9 รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2564 ยังคงไม่จบง่าย เมื่อฝ่ายค้านเตรียมยื่นองค์กรอิสระ อย่างป.ป.ช. และ ศาลรัฐธรรมนูญ ไล่บี้สอบประเด็นในศึกซักฟอกต่อเนื่อง
บทสรุปทางการเมืองที่น่าสนใจในศึกซักฟอกครั้งนี้ พรรคที่ เสียหาย หนักที่สุด ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล แต่กลับกลายเป็น พรรคร่วมฝ่ายค้านเสียเอง?
เริ่มจากพรรคก้าวไกลที่ เสียหายหนักสุด เพราะมีสมาชิกพรรคถึง 4 ราย โหวต ไว้วางใจ ให้กับ 2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย คือ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข “รมต.โอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทั้งที่พรรคก้าวไกลคือ แกนนำสำคัญในการอภิปราย หมอหนู-รมต.โอ๋ ประเด็นการจัดซื้อวัคซีนโควิดฯ-การยกเลิกประมูลสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ไม่นับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีชื่อไม่ลงคะแนนเสียง โหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่ล่าสุดทำหนังสือถึง ชวน หลีกภัย ประธานสภา ทักท้วงว่า เครื่องกดคะแนนมีปัญหาและเปลี่ยนเป็นกดไม่ไว้วางใจ นายธรรมนัส
หากใครยังจำกันได้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563 พรรคก้าวไกลสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ มี ส.ส.ออกมาหลายคนเช่นกัน และภายหลังการอภิปรายครั้งนั้น พรรคอนาคตใหม่ถูกวินิจฉัยยุบพรรคไป จากกรณี ปล่อยกู้พรรค ปัจจุบันอดีตแกนนำในนามคณะก้าวหน้า ยังโดนปมนี้ตามหลอกหลอนติดบ่วงคดีอาญาอยู่ด้วย
ส่วน 4. ส.ส.ของก้าวไกล ที่แหกมติพรรค เลขาธิการพรรคฯ ยืนยันว่า ไม่ไล่ออก 4 ส.ส.ดังกล่าว อ้างว่า ไม่ต้องการเพิ่มคะแนนให้พรรคร่วมรัฐบาล แต่ความเป็นจริงพรรคร่วมรัฐบาล 18 พรรค มีคะแนนเสียง "เกินครึ่ง" ของสภาไปตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำ 4 ส.ส.ก้าวไกล ดังกล่าวมาร่วมด้วยซ้ำ?
พรรคที่เสียหายรองลงมาหนีไม่พ้นพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ โดนสอยหมัดตรงเข้าปลายคาง ในประเด็นองค์การคลังสินค้า (อคส.) จัดซื้อถุงมือยาง ทำสัญญาลวง กว่า 2.2 พันล้านบาท จน หมอชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย สรุปการปิดอภิปรายว่า เป็นการยอมรับมีการ ทุจริตภายใน อคส. และเตรียมชง ป.ป.ช.สอบต่อไป
ยังมี ส.ส.ประชาธิปัตย์อย่างน้อย 3 ราย “งดออกเสียง” ในการลงคะแนน “จุรินทร์” ทั้งที่เป็นหัวหน้าพรรค ส่งผลให้เกิดรอยร้าวในพรรคสีฟ้าเก่าแก่เริ่มปริแตกระลอกใหม่ เปลี่ยนสโลแกนใหม่ “ยามศึก-ยามสงบเราก็รบกันเอง” เสียแล้ว?
พรรคที่เสียหายน้อยลงมาหน่อยคือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะกลุ่ม ‘ส.ส. 6 รายภายในพรรคของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ส.ส.ดาวฤกษ์” นำโดย “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี และอีก 1 สส. พปชร. รวมเป็น 7 คน ไม่นับรวมพรรคร่วมอื่นอีก 4 ราย ที่ไม่ยอมทำตามข้อตกลงภายในพรรคร่วมรัฐบาลเรียกว่า แหกมติ แม้มีการหารือภายในกันแล้วกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พปชร. นี่จึงเป็นความท้าทายบารมี “ลูกพี่ป้อม” ว่า “เสื่อมสิ้นมนต์ขลัง” ลงแล้วหรือไม่?
ล่าสุดจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร พปชร. ในเร็วๆนี้ เพื่อจัดการเรื่องนี้ และเยียวยาความรู้สึกพรรคร่วมรัฐบาล อย่างภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ ด้วยการตั้งคกก.ขึ้นมาสอบสวนสรุปมาตรการเคาะโทษ
เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย แม้มีการ เตรียม ข้อมูลมาอภิปรายอย่างเต็มที่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถูกข้อครหา “ข้อสอบรั่ว” ส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจงได้ เกือบทุกเป้า นอกจากนี้ยังมี “งูเห่า” อย่างน้อย 2 คน ที่โหวตลงมติ ไว้วางใจ แก่ “บิ๊กป้อม-ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ด้วย
กลับกลายเป็นว่าพรรคที่ได้กำไรมากที่สุดหนีไม่พ้น พรรคภูมิใจไทย นำโดย 2 รัฐมนตรี “หมอหนู-รมต.โอ๋” ที่ตอบชี้แจงในสภาได้ชัดเจน แถมบางห้วงบางตอนตอกกลับไปยังฝ่ายค้านแบบไปไม่เป็น เนื่องจากมีการนำ ข้อมูลเท็จมาอภิปรายด้วย ส่งผลให้มี ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน หักมติพรรคตัวเอง หันมาโหวต “ไว้วางใจ” ขณะเดียวกัน พรรคสีน้ำเงิน ย่านบางเขนแห่งนี้ยังโชว์เอกภาพ 61 เสียงมอบให้รัฐมนตรีทุกคนที่ถูกซักฟอก
บทสรุปศึกซักฟอกครั้งนี้ จะเป็นการปูทางนำไปสู่แรงกระเพื่อมปรับ ครม.หรือไม่ คงต้องรอลุ้นกันในโอกาสต่อจากนี้ไป..?
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี