"เพนกวิน"นอนคุกต่อ ศาลยกคำร้องประกันตัวอีกรอบ หลังเเม่อ้างเหตุใกล้สอบ-เจ็บป่วย ศาลระบุ ยังไม่มีอาการเจ็บป่วยมากมาย รักษาในรพ.เรือนจำได้ ส่วนเรื่องเรียนก็เป็นคาดเดา ถ้าศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมต้องมีเหตุผลชัดเจนและความจำเป็นมากกว่านี้
วันที่ 4 มีนาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และร่วมกันชุมนุมเดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์ ที่ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดีชุมนุมม็อบเฟสต์ โดยวันนี้เตรียมหลักทรัพย์จำนวน 1 ล้านบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ที่ก่อตั้งโดยนายอานนท์ นำภา มายื่นคำร้องต่อศาลประกันตัวแบ่งเป็น 2 คดี คดีละ 500,000 บาท (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'แม่เพนกวิน'หอบเงินล้านประกันตัวลูกครั้งที่ 4 เชื่อศาลเมตตาเพราะใกล้สอบ)
ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งขอประกันตัวของนายพริษฐ์โดย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและศาลนี้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเช่นกันโดยให้เหตุผลเกรงว่า จำเลยจะไปก่อเหตุร้ายอีกหลังจากนั้นผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวอีกหลายครั้งต่อศาล เห็นว่าการที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและได้ให้เหตุผลไว้แล้วศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมเป็นการยุติว่าคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้วแม้กฎหมายจะอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ แต่การยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่เพื่อจะมีผลให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้นั้นต้องปรากฏว่า เป็นกรณีที่มีพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าในเหตุลักษณะคดี เช่น มีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วปรากฎพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 อนุสอง หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวกับจำเลยอันแสดงว่า จำเลยนั้นจะไม่หลบหนีหรือไม่สามารถไปก่อเหตุร้ายอื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไปย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ศาลหาจำต้องระบุเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1ใหม่ไม่เพราะเท่ากับจะเป็นการคัดลอกข้อความที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้เคยมีคำสั่งไว้แล้ว ยิ่งเมื่อศาลนี้ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง หากศาลจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งโดยไม่มีเหตุย่อมเป็นการวินิจฉัยคดีตามอำเภอใจย่อมไม่เป็นแนวทางที่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 อาจเจ็บป่วยเพราะมีโรคประจำตัวนั้นขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยจริงจนถึงขนาดไม่สามารถรักษาพยาบาลภายในเรือนจำได้ ส่วนที่จำเลยที่ 1 เป็นนักศึกษานั้นมีเพียงเหตุผลให้คาดคะเนได้ว่าจะไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้นยังไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจนว่าจะกระทบต่อการเรียนของจำเลยที่ 1 อย่างชัดเจนร้ายแรงอย่างไร
สำหรับการดูแลครอบครัวและการประกอบอาชีพของจำเลยอื่นก็เป็นเหตุความขัดข้องทั่วไปของบุคคลซึ่งต้องคดียังไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมว่า จำเลยทั้งหมดได้รับความเสียหายเป็นพิเศษจนถึงขนาดที่จะมีผลเพราะให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลเคยสั่งไว้โดยชอบแล้ว ยกคำร้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี