‘บุญเกื้อ’เอาคืน‘ช่อ’
จ่อแจ้งข้อหาฉ้อโกง
ปมอมเงินบริจาคฯ
ตรวจข้อมูลพิรุธอื้อ
ศาลนัดพร้อม-ตรวจหลักฐานคดี“ช่อ” ฟ้องหมิ่น “หมอวรงค์-บุญเกื้อ”กล่าวหาอมเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ นัดสืบพยาน 11 ก.พ.65 ‘บุญเกื้อ’ปูดมีข้อมูล ปชช.บางราย ได้เงินบริจาคไม่ครบ มีพิรุธอื้อ จ่อเอาคืนข้อหา ฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน ได้เงินไม่ครบ โครงการดังกล่าว
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 5 เมษายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ อ.1732/2563 ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี และนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยภักดี นพ.วรงค์และนายบุญเกื้อ เป็นจำเลยแยกสำนวนกัน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีทั้งสอง หมิ่นประมาทใส่ความ น.ส.พรรณิการ์ และคณะก้าวหน้า อมเงินบริจาคในโครงการ“คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์ เมย์เดย์ เราช่วยกัน พร้อม เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท
โดยในวันนี้ นพ.วรงค์และนายบุญเกื้อ เดินทางมาตามศาลนัด ขณะที่น.ส.พรรณิการ์ ไม่ได้เดินทางมาโดยได้ส่งทนายความมาแทน
คดีนี้โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่าเมื่อระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.2563คณะก้าวหน้าได้จัดโครงการ#MAYDAYMAYDAY เพื่อสนับสนุนศิลปินนักดนตรีอิสระที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในช่วงเวลารักษาระยะห่างทางสังคม โดยรายได้จากการระดมทุนเงินบริจาคระหว่างคอนเสิร์ตจะถูกส่งต่อไปให้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือความเดือดร้อนจากโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นเงินคนละ 3 พันบาท ภายใต้ชื่อกิจกรรมว่า “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” คณะก้าวหน้าได้รับเงินบริจาคจำนวนทั้งสิ้น 7,282,897.34 บาท และได้ทำการส่งมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากโควิด-19 จำนวน 2,427 คน
โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2563 จำเลยในฐานะเจ้าของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุญเกื้อ ปุสสเทโว”ได้ลงภาพและข้อความในเฟซบุ๊ก ทำนองว่า คุณช่อและคณะก้าวหน้ากลบเกลื่อนความผิดเรื่องอมเงินบริจาค อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ รายชื่อผู้ได้รับเงินมีพิรุธ สเตทเมนต์ลวงโลก ตรวจสอบทางทะเบียนราษฎรแล้วไม่พบว่ามีตัวตน จากข้อความดังกล่าว โจทก์มีชื่อเล่นว่าช่อ และเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะก้าวหน้าซึ่งเปิดบัญชีรับเงินบริจาคสำหรับโครงการ การที่จำเลยใส่ความโจทก์และคณะก้าวหน้าต่อสาธารณชนว่าอมเงินบริจาค เป็นอาชญากรรมทิ้งร่องรอย และจัดทำบัญชีรายชื่อผู้รับเงินอันเป็นเท็จ ย่อมทำให้โจทก์และคณะก้าวหน้าได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ภายหลังศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีดังกล่าว นายบุญเกื้อ กล่าวว่าคดีนี้ เนื่องจากตนเองได้ไปติดประกาศหมายศาลที่ตึกไทยซัมมิทเพื่อขอรายละเอียดในโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ ระดมทุนช่วย นักดนตรี ช่วงโควิด-19 ปรากฏว่า รายชื่อผู้ที่ขอเข้ามา เมื่อเรียงตามลำดับหลายรายชื่อแล้ว มีหลายคน ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จากนี้ทีมงานจะมีการไปรวบรวมรายชื่อ 2,427 คนแรกว่า ยังมีใครที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือมาเปิดเผยต่อสาธารณชนโดยรายชื่อทั้งหมดและหากพบว่าใครยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือให้ติดต่อมาที่ตน เพื่อเอาผิดทางคณะก้าวหน้าในข้อหาหลอกลวงประชาชนต่อไป
ขณะที่ น.พ.วรงค์ กล่าวว่าจากการปรึกษากับทีมทนายความ พบว่าหลักฐานที่ส่งมาจากฝั่งของโจทก์เป็นไฟล์ มีประชาชนขอรับการช่วยเหลือ 3 ล้านรายชื่อ แต่เงินที่คณะก้าวหน้าจ่ายมีเพียง 2,427รายชื่อ เมื่อเทียบกับ3 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนที่ต่างกันมาก เมื่อมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่าอาจจะมีบางส่วนในจำนวน 2,427รายชื่อไม่ได้รับเงินจึงจะให้นายบุญเกื้อประกาศรายชื่อของบุคคลลำดับ 2,427รายชื่อแรก มีใครไม่ได้รับเงิน ก็ขอให้ประสานแจ้งมายังนายบุญเกื้อ
“คาดว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์โจทก์อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นจำเลย ส่วนจำเลยจะเปลี่ยนเป็นโจทก์ เพราะนายบุญเกื้อจะแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาหลอกลวงประชาชนต่อไป ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในไฟล์ในโทรศัพท์มือถือแล้ว จำนวน ประมาณ 1.5แสน จาก3ล้านรายชื่อจากการตรวจสอบพบข้อพิรุธขึ้นเรื่อย ๆ”นพ.วรงค์ ย้ำ
ทั้งนี้ ในส่วนการนัดสืบพยานศาลได้นัดหมายอีกครั้งในวันที่ 11ก.พ.2565
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี