โควิดลามเข้าสภา

จนท.ทีวี/ขรก.วุฒิสภา/ช่างไฟฟ้า

‘ชวน’ย้ำมาตรการคุมเข้ม

รองปธ.วุฒิต้องกักตัวเอง

หลังขรก.หน้าห้องติดเชื้อ

โควิดลามเข้าสภาแล้ว “ชวน” รับมี 3 คน ช่างไฟฟ้าก่อสร้างสภาติดเชื้อ สั่งคุมเข้มสภาทำความสะอาด ยันมีมาตรการเข้มงวด “เลขาธิการสภา” ยันจนท.ทีวีสภาฯติดโควิด 1 ราย สั่งปิดสตูดิโอซอยอารีย์ฯพ่นฆ่าเชื้อทันทีส่งเพื่อนร่วมงานเสี่ยงสูง ตรวจหาเชื้อ ส่วนวุฒิสภา เร่งฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ หลังขรก.วุฒิสภาติดโควิด1คน‘ศุภชัย’รอง ปธ.วุฒิสภาคนที่ 2 รับหน้าห้อง ติดโควิด สั่งกักตัว14วัน พร้อมทีมงานยกทีมกลุ่มเสี่ยง ถ้ามีอาการ รีบแจ้งทันที ส่วนตัวฉีดวัคซีนแล้ว เผยตรวจผลเป็นลบ

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ช่างไฟฟ้าที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภา ติดเชื้อไวรัสโควิดจำนวน 3คนว่าได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เข้าใจว่าไม่ได้เข้ามาปฏิบัติงานในสภา โดยทางบริษัทซิโน-ไทยได้ ดูแลอย่างเข้มงวดเพราะช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีการประชุม เจ้าหน้าที่ ดูแลความสะอาด ก็ต้องปฏิบัติตนอย่างเข้มงวดและที่พนักงานติดเชื้อ ถือเป็นเรื่องภายในบริษัท โดยปกติแล้ว พนักงานที่เข้ามาทำงานในรัฐสภา ต้องตรวจคัดกรองทุกคน ตนพยายามบอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าไปเกรงใจ เช่นการลืมหน้ากากอนามัย ก็ให้บอกได้เลย มีหน้ากากอนามัยบริการให้สามารถมาขอได้ มีที่ตรวจวัดอุณหภูมิ หากผิดปกติ ก็ไม่ให้เข้ามาในอาคารสภาอยู่แล้ว การตรวจพนักงานทุกคนเพื่อหาเชื้อโควิดนั้นก็เป็นเรื่องของบริษัทซิโน-ไทย

ประธานสภาผู้แทนฯกล่าวว่าในการประชุมในสภา ก็ยังดำเนินไปตามปกติโดยมีการใช้ประชุมแบบทางไกล ไม่เช่นนั้นงานจะค้างอย่าไปหวังให้โควิดหมด ต้องอยู่กับความจริง โดยใช้วิธีป้องกัน ส่วนคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ชุดต่างๆช่วงนี้ก็มีการประชุมน้อยซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่มีการประชุม ก็ใช้การประชุมด้วยระบบทางไกล

‘จนท.ทีวีสภาฯ’ติดโควิดอีก1ราย

ด้าน นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่เทคนิคของสถานีวิทยุ และโทรทัศน์รัฐสภา ติดเชื้อโควิด – 19ว่า ยืนยันว่า มีเจ้าหน้าที่เทคนิคของสถานีฯติดเชื้อโควิด-19จริง โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทราบผลตรวจว่าติดเชื้อจึงได้แจ้งมายังสำนักงานฯและตนได้รายงานให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบแล้ว

สั่งปิดสตูดิโอซอยอารีย์ฯพ่นฆ่าเชื้อ

โดยมาตรการเร่งด่วนเบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ ปิดสตูดิโอ 1 ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา ที่ตั้งอยู่ภายในซอยอารีย์สัมพันธ์แล้ว พร้อม ทั้งทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดสตูดิโอดังกล่าว เนื่องจากเป็นสตูดิโอที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเข้ามาปฏิบัติงานเพียงครึ่งวัน เพราะหลังจากทราบว่าแฟนติดเชื้อโควิด-19ได้ เดินทางกลับบ้านพักทันที ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจหาเชื้อ และหลังจากนั้นไม่ได้เข้ามาที่ทำงานเลย ทั้งนี้ทางสำนักงานฯยังได้ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่ได้พบปะพูดคุยกับผู้ติดเชื้อในวันที่16เม.ย.ที่ผ่านมา ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19เป็นกลุ่มแรกเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยทางสำนักงานฯเร่งดูแลในส่วนนี้อย่างใกล้ชิด

เลขาฯสภายันมีมาตรการเข้มตลอด

เลขาธิการสภาผู้แทนฯกล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19ของทางสำนักงานฯด้วยว่าเรามีมาตรการที่เข้มข้นมาตลอดอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่จะเข้า-ออก อาคารต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ต้องผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอาคารอย่างเด็ดขาด และภายในอาคารจะมีจุดให้บริการแอลกอฮอล์สำหรับพ่นความสะอาดมืออยู่ทั่วทุกจุด

ขณะเดียวกัน เราปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรของสำนักงานฯ ทำงานที่บ้าน 70 เปอร์เซ็นต์ และเดินทางมาทำงาน 30 เปอร์เซ็นต์ และยังได้สั่งการไปว่าข้าราชการ และบุคลากร ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงวันหยุดสงกรานต์ ให้ทำงานที่บ้านไม่ต้องเข้าที่ทำงาน โดยมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจให้ทำงานที่บ้านได้มากขึ้น

ฝั่งวุฒิสภาเร่งฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอาคารสถานที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา ภายในห้องประชุมกรรมาธิการต่างๆห้องอาหารและบริเวณโดยรอบ รวมถึงบันไดหนีไฟทุกชั้น ที่เจ้าหน้าที่และลูกจ้างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างใช้เป็นทางขึ้นลงอาคาร หลังปรากฏ มีพนักงานราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ติดเชื้อโควิด-19จำนวน 1 คน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจต่อบุคลากร ที่ยังต้องมาปฏิบัติหน้าที่ภายในรัฐสภา ขณะเดียวกัน ได้แจ้งเตือนพนักงานทำงานสะอาดภายในรัฐสภาให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าตลอดเวลาปฏิบัติหน้าที่ด้วย

รองปธ.วุฒิกักตัวหลังหน้าห้องติดเชื้อ

นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวยอมรับว่าทีมงานของตนเองติดเชื้อไวรัส โควิด-19จริง โดยเป็นทีมงาน ที่อยู่หน้าห้อง แม้ตนไม่ได้ใกล้ชิดมากนักเพราะอยู่คนละห้อง แต่ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงขอกักตัว 14 วัน ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมอยู่แล้วและได้ไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลแล้วพบว่าผล ออกมาเป็นลบ

ส่วนตัวได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็มแรกจากโรงพยาบาลรามาฯ แล้ว ตอนนี้สุขภาพแข็งแรงดีไม่มีอาการใดๆซึ่งทราบว่าผู้ที่ติดเชื้อไปติดมาจากที่อื่น จึงสั่งให้ทีมงานทุกคนกักตัวถึงวันที่30 เม.ย.นี้และให้เวิร์คฟอร์มโฮม หากใครมีอาการก็ขอให้รีบแจ้งให้ทราบเพื่อตรวจสอบและทำการรักษาต่อไป

‘บิ๊กป้อม’ไม่รีบประชุมใหญ่พปชร.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงความคืบหน้าการกำหนดการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐว่ายังไม่ทราบจะประชุมเมื่อใด เพราะต้องรอให้สถานการณ์โควิดคลี่คลายก่อน ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องประชุมพรรค

เมื่อถามถึงที่ประชาชนเรียกร้องให้เอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยประละเลยให้เปิดผับผิดกฎหมายย่านทองหล่อรวมทั้งเอาผิดประกอบการด้วย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ว่าจะดำเนินการอย่างไร หากผิดกฎหมายก็ทำตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว

ปธ.วิปรัฐพักคุยการเมืองรอเปิดสภา

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพรรคเล็กเรียกร้องให้วิปรัฐบาลหารือถึงทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากที่ขณะนี้ไม่ทราบถึงทิศทางที่ชัดเจนของรัฐบาลว่า“เรื่องนี้พวกผมคุยกันได้ ตอนนี้ขอพักรบก่อนและเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา รอให้เปิดสมัยประชุมสภาฯก่อน ขณะนี้ผมทำงานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว”

‘ชินวรณ์’เชื่อแก้รธน.3ฝ่ายต้องผนึก

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มส.ส.พรรคเล็กร่วมรัฐบาลเรียกร้องให้วิปรัฐบาลยกประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญหารือร่วมกันเพื่อให้การแก้ไขเป็นจริงว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าต้องได้รับความเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งคิดว่าก่อนเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เดือน พ.ค.นี้ ทุกฝ่ายคือวิปรัฐบาล,วิปฝ่ายค้านและวิปวุฒิสภา ต้องหารือร่วมกัน เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้จริง เพื่อถอดสลักปัญหา

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตราแล้วนั้นเชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะเมื่อเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาก็มีสิทธิออกเสียงสนับสนุนได้และส่วนตัวเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ อย่างไม่มีปัญหา แต่ต้องแสวงหาความร่วมมือเพื่อให้การแก้ไขกติกาสูงสุดของบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยตามหลักการสากลมากขึ้น