‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่รู้จักคนอยู่นอกปท.
ไม่ให้ราคา‘แม้ว’
หลังอาสาคุย‘ปูติน’ช่วยหาวัคซีน
‘แรมโบ้–สิระ’ดาหน้าถล่มซ้ำ
อย่าดูถูก/เลิกพูดเอาดีใส่ตัว
นายกฯจัดทัพรมต.คุมรายจว.
“ทักษิณ”วิจารณ์“ประยุทธ์”เป็นทหารมาทั้งชีวิต อยู่กับระเบียบ วินัย สั่งการแบบบนลงล่าง ใช้งบประมาณรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่คนเก่งเศรษฐกิจอะไร บริหารเศรษฐกิจไม่ได้ “แรมโบ้”สวนกลับ‘โทนี่’ป้อง‘บิ๊กตู่’อย่าพูดเอาดีใส่ตัวชี้วิกฤติโควิดทั่วโลกกระทบหมด รัฐบาล ต้องบริหารวินัยการเงินการคลังให้เหมาะสมเพื่อให้ปชช.พ้นวิกฤต ยัน‘ประยุทธ์’ต่างจาก’ทักษิณ’ที่หากหารายได้เอาเข้ารัฐ ไม่ได้เอาเข้ากระเป๋า เหมือนอดีตนายกฯบางคน ปัดรับเครื่องตรวจดีเอ็นเอ ถ้าอยากช่วย ขอให้บอกลูกๆ ส.ส.เพื่อไทย หยุดโจมตีรายวัน‘สิระ’ซัด’โอ๊ค’เมาน้ำแข็ง หายมึนแล้วช่วยตอบ พฤติกรรม หญิงร้าย ชายชั่ว คือใครโกง จนถูกไล่ออกนอก ปท.เ แนะเอาเงินโกง ซื้อวัคซีนให้คนไทยดีกว่า สภาฯตรวจโควิด220คน กันตัว14วัน
เมื่อวันที่ 21เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ Tony Woodsome หรือพี่โทนี่ ได้พูดคุยกับบรรดาแฟนๆในคลับเฮาส์ (Clubhouse) เวลา 20.00น.วันที่ 20เมษายนที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งในรายการอดีตนายกฯทักษิณ พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า ‘ประยุทธ์’เป็นข้าราชการทหารมาทั้งชีวิต อยู่กับระเบียบวินัย อยู่กับการสั่งการแบบบนลงล่าง ใช้งบประมาณรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่คนเก่งเศรษฐกิจอะไร เราต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่พูดแล้วประยุทธ์ฟัง แล้วถ้าเราเอาธรรมชาติแบบประยุทธ์มาบริหารเศรษฐกิจ มันทำไม่ได้หรอก หากไม่มีทีมเศรษฐกิจที่เชื่อใจได้ก็ไปไหนไม่ได้เลย แล้วยิ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองด้วย เท่ากันกับ คุณประวิตร แจกขันเลย”
‘ทักษิณ’แนะส่ง’เจ้าสัว’คุยวัคซีน
ประเด็นของวัคซีนนั้น เราสามารถไปพ่วงกับหลายๆ ประเทศที่เขามีได้ เนื่องจากนักธุรกิจไทยหลายคนมีคอนเน็กชันและมีความสามารถในการเจรจาอยู่แล้ว เช่น ธนินท์ เจียรวนนท์ ไปคุยกับรัฐบาลจีนได้ หรือไม่เพราะฝั่งนั้นมีกำลังการผลิตเยอะ ที่ตะวันออกกลางก็ใช้ หรือ Pfizer สามารถไปบอก เจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ไหม ว่าให้สิงคโปร์สั่ง Pfizer มาเผื่อได้หรือไม่“ภาคเอกชนเขากว้างขวาง จะให้ผมไปคุยกับท่านปูตินเพื่อเอาสปุตนิกมาไหม บอกมา เราช่วยกันได้ แต่รัฐบาลเองต้องตื่นตัวมากกว่านี้ และเมื่อได้มาแล้วต้องรีบกระจายการฉีด ไม่ใช่กระจุกที่เดียว โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกับร้านอาหารที่ต้องฉีดก่อนจะได้ให้บริการอย่างปลอดภัยได้” ทักษิณ กล่าว
ชงขายเครื่องตรวจโควิดทีละ50คน
พร้อมกับแนะนำDNA Nudge อุปกรณ์ทดสอบโควิด-ที่รู้ผลใน 90นาทีและให้ผลแม่นยำ 99.9 เปอร์เซ็นต์ เพราะการตรวจโรคระบาดนั้นต้องเน้นความแม่นยำเป็นหลัก อย่าไปเน้นราคาถูก ไม่เช่นนั้นจะเกิดความผิดพลาดได้เยอะโดยอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องอาศัยบุคลากรทางการแพทย์ และยังตรวจได้ครั้งละถึง 50คน ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกขึ้นมาก เช่น ร้านอาหารสามารถตรวจพนักงานรายวันแล้วยืนยันให้ลูกค้าเห็นว่าร้านนี้ปลอดโควิด
บิ๊กตู่ไม่ตอบคำถามคนนอกประเทศ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเสนอตัวประสายเรื่องวัคซีนโควิดกับ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคน ที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้เรื่องเขา”
‘แรมโบ้’ทวงเอาเงินโกงมาซื้อวัคซีน
ขณะที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยืนยันว่า เป็นการพูดเอาแต่ดีใส่ตัวโยนชั่วให้คนอื่นของนายทักษิณ มากกว่า วันนี้ทั่วโลกประสบวิกฤตโควิด และยังมาเจอวัคซีนขาดแคลนอีก ถามว่ามีรัฐบาลไหนบ้างที่มีแต่รายจ่าย มีแต่ใช้งบประมาณโดยไม่หารายได้ นายทักษิณ พูดเกินความจริง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้หลักบริการวินัยการเงินการคลังอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์โควิด ที่สำคัญที่สุดคือเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง เพื่อเยียวยาให้ทั่วถึงและภาระความเดือดร้อนให้น้อยที่สุด ภาวะเช่นนี้ยากลำบากทั้งโลก ไม่มีการซื้อการขายการเดินทางไปมาหาสู่ การท่องเที่ยวก็หยุดชะงัก อดีตนายกฯควรเสนอไอเดียว่า จะช่วยหาเงินที่มีข่าวคนบางคนเคยโกงไป ทั้งยุครัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยุคยิ่งลักษณ์ กลับคืนให้ประเทศ เพื่อนำไปซื้อวัคซีนและเยียวยาประชาชน ดีกว่าจะพูดเพื่อเอาคะแนนให้ตัวเองดูดี หรือเอาดีใส่ตัว ฟัดคนอื่นให้เลวร้ายในสายตาประชาชน เช่นนี้ใช้ไม่ได้
บิ๊กตู่หาเงินเข้าคลัง-‘แม้ว’ใส่กระเป๋า
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า การกล่าวหาว่านายกฯเป็นทหาร ถนัดแต่ใช้งบประมาณ หารายได้ไม่เป็นนั้น เป็นการพูดที่เกินความจริง แม้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทหาร ไม่ใช่นักธุรกิจเหมือน นายทักษิณ จึงไม่มีแนวคิดการหากำไรหรือการคดโกง หาก พล.อ.ประยุทธ์ หารายได้มาก็เอาเข้ารัฐเข้าคลัง แต่บางคนหารายได้เก่งแต่เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง เอาเข้ากระเป๋าตระกูลและครอบครัว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ทำไม่เป็น
เมินเครื่องตรวจโควิด-หยุดพูดตีกิน
ส่วนที่ นายทักษิณ จะเอาเครื่องตรวจดีเอ็นเอที่ผลิตขายมาให้ อย.ใช้ตรวจโควิดนั้น นายเสกสกลกล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะวันนี้เรามีเครื่องไม้เครื่องมือตรวจโควิดพร้อม เราได้รับพระราชทานรถตรวจโควิดที่มีประสิทธิภาพ ให้บริการทั้งคนไทยและคนต่างด้าวฟรีอยู่แล้ว นายทักษิณ ไม่ต้องมาเสนอเพื่อหวังผลตีกินทางการเมือง หากอยากทำความดีขอให้สั่งบรรดาสมุนหรือลิ่วล้อทั้งหลาย ตลอดจนบรรดา สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ช่วยหุบปากหุบคำกล่าวหาโจมตีรายวัน ปล่อยให้รัฐบาลได้มีสมาธิในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจะดีกว่าออกมาวิพากษ์วิจารณ์รายวัน“วันนี้คุณพ่อ เมื่อวานคุณลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หรือไม่ก็ลิ่วล้อในพรรคเพื่อไทยทั้งหลายที่เรียงหน้าออกมา หวังผลตีกินทางการเมืองเพื่อกลับมามีอำนาจอีกครั้งใช่หรือไม่ อย่าคิดว่า ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่รู้ไม่ทัน ถ้าอยากกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ช่วยถามหัวใจคนไทยส่วนใหญ่ดูก่อนว่า ยินยอมหรือเปล่า’ นายเสกสกล กล่าว
ดีดปาก’พานทองแท้’อย่าสอนนายกฯ
นายเสกสกล ยังกล่าวถึงกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์เฟซบุ๊กถึงปัญหาบริหารจัดการวัคซีนของนายกฯและรัฐบาลว่า หากนายกฯ ทำงานไม่เป็น ที่ผ่านมาก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาประเทศได้มากมายเช่นนี้ นายกฯ ทำงานเพื่อบ้านเมืองเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ได้เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาหาคะแนนเสียงให้ตัวเอง ส่วนเงินที่กู้มาถือเป็นการกู้เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนในยามเดือดร้อน สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ตนพูดมาหลายครั้งแล้วว่า นายกฯได้เร่งจัดหาวัคซีนและให้เข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ไปจนถึงสิ้นปีในทุกเดือนจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาเพื่อฉีดให้ประชาชนให้ได้ตามแผนที่วางเอาไว้ นายพานทองแท้ เป็นเด็กเป็นลูกคุณหนู ไม่ต้องมาพูดลักษณะเป็นการสอนนายกฯ
กู้เงินแจกประชาชนดีกว่ากู้มาโกง
‘นายพานทองแท้ ไม่เข้าใจถึงหัวอกคนที่มีรายได้น้อย แต่นายกฯเข้าใจประชาชนทุกคนดีและรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ต้องทำเช่นไรเพื่อช่วยประชาชนบรรเทาความเดือดร้อน ได้กินดีอยู่ดี ที่ นายพานทองแท้ บอกนายกฯกู้เงินมาแจกชาวบ้าน การกู้มาแจกเยียวยาชาวบ้านก็ยังดีกว่ากู้มาใส่กระเป๋าตัวเอง จนครอบครัวญาติพี่น้องร่ำรวยกันถ้วนหน้า ชาวนาถูกโกงเดือดร้อนกันมากมาย ผูกคอตายไปหลายคน อย่ามัวเอาเวลามาพูดหรือกล่าวหานายกฯเลย เอาเวลาไปดูแลพ่อและอาที่เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศจะดีกว่า
‘สิระ’ซัดเอาเงินโกงซื้อวัคซีนดีกว่า
นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กวิจารณ์การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรวม.กลาโหม ว่า ก่อนที่ นายพานทองแท้ จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ช่วยหันกลับไปดูประวัติของนักโทษหนีคดีอย่าง นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เอาเงินภาษีของคนไทยไปเป็นของตัวเองเท่าไหร่ ที่ นายพานทองแท้ ใช้ชีวิตบนกองเงินกองทองอย่างสุขสบายทุกวันนี้ ไม่ได้กำลังใช้เงินภาษีของคนไทยหรอกหรือ นายพานทองแท้ ควรเก็บคำพูดพล่อยๆที่ไม่ได้ผ่านออกมาจากรอยหยักของสมอง ไปแนะนำตระกูลของตัวเองให้เอาเงินของคนไทยที่โกงไปอย่างมหาศาล กลับมาซื้อวัคซีน หรือมาให้เป็นขวัญกำลังใจแพทย์น่าจะเข้าท่ามากกว่า
แนะเก็บปากไว้สอน’พ่อ-อา’ตัวเอง
“ส่วนที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์นำเงินที่ไปกู้มาแจกชาวบ้านนั้น ผมคิดว่านายพานทองแท้อาจจะโดนสารเคมีหรือเมาน้ำแข็งมากไปหรือไม่ จึงทำให้ระบบความคิด วิเคราะห์ของสมองเสียหายไป ขอให้สังคมเปรียบเทียบดูว่า การแจกเงินให้ถึงมือประชาชน กับตระกูลที่คอรัปชั่นไปเป็นแสนๆ ล้าน ใครกระทำชั่วต่อประเทศกันแน่ ผมขอแนะนำให้นายพานทองแท้เก็บปากไปสั่งสอนนายทักษิณกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดีกว่า เพราะถ้าผมเป็นคุณ ผมคงไม่สิ้นคิดที่ออกมาพูดจาอวดรู้ อวดเก่ง แต่สุดท้ายกลับเปิดช่องให้คนเขาขุดตระกูลตัวเองขึ้นมาด่า ไม่ทราบว่านายพานทองแท้พูดเอง หรือมีระบบไอโอเขียนให้ ถ้าเป็นอย่างหลังก็แนะนำให้เลือกคนที่ฉลาดกว่านี้มาทำงาน อย่าออกมาขุดหลุมฝังคนในครอบครัวตัวเองเช่นนี้”นายสิระ กล่าว
สภาตรวจโควิด220คนกันตัว14วัน
ที่รัฐสภา ฝั่งส.ว. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้าทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับบุคลากรส่วนต่างๆ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับบุคลากรของรัฐสภาที่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก (Swap) หรือ PCR รวมจำนวน 220 คน ประกอบด้วยบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 190คน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 30คน โดยมี นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา เข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค ที่เข้าทำการตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ สำหรับผลการตรวจหาเชื้อจะทราบภายใน 3 วัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ผู้ที่เข้ารับการตรวจจะต้องกักตัวเพื่อรอดูอาการให้ครบระยะเวลา 14วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
‘สมศักดิ์’กักตัวเองใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กCSI LA โพสต์ข้อความว่า บุคคลใกล้ชิด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ติดเชื้อโควิดหลังร่วมรับประทานอาหารกับ รมว.ยุติธรรม ที่ร้านอาหารใน จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ล่าสุด นายสมศักดิ์ ยอมรับว่า ไปร่วมงานเลี้ยงวันดังกล่าวจริงและทราบข่าวว่าบุคคลใกล้ชิดที่ไปร่วมงานเลี้ยงติดโควิด จึงสั่งการให้สำนักรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมทำหนังสือลาประชุมครม.ทันทีและได้ให้เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และสาธารณสุขโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้ามาที่บ้าน เพื่อตรวจคัดกรองตนและบุคคลในบ้านทั้งหมด ซึ่งต่อมาวันที่ 20เมษายน ผลตรวจทั้งหมดออกมาเป็นลบ จากนี้คงต้องกักตัวอยู่บ้าน 14วัน เพื่อความปลอดภัยของผู้มาร่วมงานเลี้ยงทั้งหมดและนัดตรวจโควิดอีกครั้งวันที่ 27เมษายนนี้
นายกฯแบ่งพื้นที่จว.ให้รมต.ดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายกฯมีคำสั่งที่85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรี รับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแบ่งงานให้รัฐมนตรีแต่ละคนแต่ละพรรครับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง ซึ่งที่เห็นเด่นชัดคือ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เดิม ดูแลพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู พะเยาและจ.เชียงราย แต่เปลี่ยนมาเป็นดูแลพื้นที่ จ.สงขลา นครศรีธรรมราชและจ.ภูเก็ต ซึ่งทำให้เห็นว่าอาจเป็นการเตรียมพื้นที่เลือกตั้งในอนาคต หลังจากก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครศรีธรรมราช เขต3 และ ทำให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชนะการเลือกตั้ง ต่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมมาแล้ว อีกทั้งยังมีกระแสข่าวภายในพปชร.ว่า ให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหัวหน้ากลุ่มดูแล14สส.ภาคใต้ ซึ่งเดิมยังกระจัดกระจายและไม่มีหัวหน้ากลุ่มดูแลอย่างเป็นทางการ
คาดเตรียมแม่ทัพลุยเลือกตั้งทั่วปท.
ในส่วนพื้นที่เดิมที่ร.อ.ธรรมนัส ดูแลพื้นที่ จ.พะเยาและจ.เชียงราย ในคำสั่งฯได้มอบหมายให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เข้าไปดูแลแทน ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ยังได้รับผิดชอบพื้นที่เดิมคือ จ.เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์และจ.พิจิตร ส่วน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ได้ดูแลพื้นที่ จ.ขอนแก่น จากเดิมที่ดูแล จ.นครราชสีมาและจ.ชัยภูมิ ส่วน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการ พปชร.ได้ดูแลพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพิ่มขึ้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จากเดิมดูแลพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์และจ.มหาสารคาม เปลี่ยนมาดูแลพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานีและจ. ระนอง ขณะที่รัฐมนตรีของ พปชร.คนอื่นๆก็ดูแลพื้นที่จังหวัดเดิมที่รับผิดชอบอยู่
ขณะที่4รัฐมนตรีใหม่ที่น่าสนใจคือ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ดูแลพื้นที่ จ.สระแก้ว นครสวรรค์และจ.พิษณุโลก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดูแลพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เพชรบุรีและจ.กาญจนบุรี นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ดูแลพื้นที่ จ.สกลนครและจ.มุกดาหาร จากเดิมดูแลพื้นที่ อุบลราชธานีและจ.ศรีสะเกษ แต่ในคำสั่งฯมอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ดูแลแทน นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ดูแล จ.หนองบัวลำภูและจ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า นายสินิตย์ เป็นสส.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโควตาภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี