มติรัฐสภาท่วมท้น
ผ่านกม.ประชามติ611ต่อ4
‘บิ๊กตู่’ไม่ขัดประชุมแก้ไขรธน.
ขอสส.รัฐบาลร่วมมือพิจารณา
ฝ่ายค้านจัด30ขุนพลอภิปราย
ปชป.หนุน13ร่าง/ภท.รับ8ฉบับ
มติที่ประชุมร่วมรัฐสภาเห็นชอบด้วยเสียงท่วมท้นผ่าน พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ 611 ต่อ 4 “บิ๊กตู่”ไม่ขัดแก้รธน. ขอพรรคร่วมรัฐบาลร่วมมือพิจารณา “ฝ่ายค้าน” จัด 30 สส.อภิปรายแก้รธน. “สุทิน” ขอขยายเวลาถกเพิ่ม 1 วัน หนุน 4 ร่างฯ ส่วนฉบับ พปชร.-พรรคร่วมรบ.รอฟังอภิปราย ก่อนลงมติ เตรียมวัดใจ ครม.ทำประชามติ “จุรินทร์” เผย ปชป.มติชัดหนุน13 ร่างแก้ รธน.ชี้เข้า3หลักเกณฑ์ เป็น ปชต.มากขึ้น-ไม่แตะสถาบัน-เป็นประโยชน์กับประชาชน‘ภูมิใจไทย’ย้ำจุดยืน หนุน 8ร่างพรรคร่วมรบ.-ไม่เอา4ร่างฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ วาระที่2 ซึ่งค้างการพิจารณาจากสมัยประชุมรัฐสภาครั้งที่แล้ว
‘ชวน’สั่งคุมเข้มโควิด/ต้องไม่ประมาท
โดยก่อนเข้าสู่วาระประชุม นายชวนได้ขอความร่วมมือสมาชิกให้เว้นระยะห่างเท่าที่ทำได้ ใครที่ยังไม่อภิปรายให้อยู่นอกห้องประชุม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19ของกระทรวงสาธารณสุข แต่ต้องไม่ประมาท ถ้าเราทำได้อย่างนี้ สามารถประชุมต่ออีก3เดือนได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ทำให้หน้าที่ของเรามีปัญหาและโควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติภารกิจของเรา
จากนั้น ได้เข้าสู่วาระการประชุมพิจารณา เรื่องด่วน พิธีสารแก้ไขข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยว อาเซียน ตามที่ครม.เป็นผู้เสนอ มี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ชี้แจงใช้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบพิธีสารดังกล่าวด้วยคะแนน 600 ต่อ0 งดออกเสียง2 ไม่ลงคะแนน 4
เริ่มถกกม.ออกเสียงประชามติ
จากนั้น เวลา11.45 น.ที่ประชุมได้เริ่มการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติวาระที่สอง โดยเริ่มพิจารณาจากการลงมติม าตรา53 และ54 เรื่อง การคัดค้านการออกเสียงประชามติ ที่ค้างมาจากการประชุมรัฐสภาสมัยที่แล้วซึ่งที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบ
ต่อมา ได้เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 55 เรื่องบทกำหนโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติ หน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ ที่ใช้อำนาจมิชอบในการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ20,000-200,000บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ปรากฎว่ามี ส.ส.หลายคนลุกอภิปราย
ติงจ้องเล่นงานจนท.ระดับล่าง
โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทักท้วงว่า เป็นการมุ่งลงโทษ เฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ แต่ไม่มีบทลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐในระดับสูงที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบให้การออกเสียงประชามติ ไม่เป็นกลาง จึงควรขยายขอบเขตบทลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐให้ครอบคลุมถึง ส.ส. ส.ว.และผู้บริหารท้องถิ่นด้วย ซึ่งที่ประชุม ลงมติเห็นชอบมาตรา55 ด้วยคะแนน 374ต่อ124 งดออกเสียง3 ไม่ลงคะแนน10
ขณะที่มาตรา 60 เรื่องการกระทำใด ที่เป็นความผิดในการออกเสียงประชามตินั้น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอให้ตัดข้อความ“เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะออกเสียงประชามติอันเป็นเท็จ”ตามที่ กมธ.เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเป็นการเขียนไว้กว้างเกินไป สามารถตีความได้หมด เกรงว่าจะเป็นการใช้กฎหมายมาปิดปากประชาชน ทำให้การรณรงค์ประชามติอาจถูกปิดกั้น มีการให้ข้อมูลประชาชนแค่ฝ่ายเดียว ไม่มีความ จำเป็นต้องเพิ่มข้อความดังกล่าวขึ้นมาเพราะสามารถใช้การเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ มาตรา 60 ด้วยคะแนน 479 ต่อ35 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน6
มติโหวตผ่านท่วมท้นเสียง611ต่อ4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมช่วงบ่าย เป็นไปอย่างราบรื่น มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานซึ่งสมาชิกทั้ง ส.ส.และส.ว.อภิปรายแสดงความคิดเห็นในมาตราต่างๆ กันอย่างกว้างขวาง โดยไม่มีการตีรวนใดๆทำให้การพิจารณาเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง เวลา15.00น.ที่ประชุมได้พิจารณารายมาตราจนครบทั้ง 67มาตรา
ในที่สุด ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ในวาระที่สามด้วยคะแนน 611 ต่อ 4 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เพื่อรอการบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยที่ประชุมได้ใช้เวลาอภิปรายทั้งหมด 3.15ชั่วโมง หลังพิจารณาเสร็จสิ้น ประธานสั่งพักการประชุม 30 นาที
‘บิ๊กตู่’ไม่ขัดแก้รธน.ขอร่วมมือพิจารณา
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ได้พูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมรัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 13 ร่าง ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.ว่า ตัวเองไม่มีปัญหาอะไร หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยเหตุและผล จึงขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณา ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ฝ่ายค้านจัด30สส.อภิปรายแก้รธน.
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.)และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ว่า สำหรับการประชุมพ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ คาดว่าจะจบภายในวันนี้ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีทิศทางชัดเจน ว่า เห็นชอบให้ผ่าน เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายประชามติ
ส่วนในวันพรุ่งนี้(23มิ.ย.)จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเวลาเพียง 2 วัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน คงจะใช้ผู้อภิปรายไม่เกิน 30คน พรรคเพื่อไทยประมาณ 13 คน ซึ่งหากไม่จบภายใน 2วัน ก็จะขอหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ขยายเวลาเพิ่มไปถึงวันที่ 25 มิถุนายน
พท.หนุน4ร่าง/ฉบับพปชร.รอฟังก่อน
นายสุทินกล่าวถึงทิศทางการลงมติของพรรคเพื่อไทยว่าส่วนร่างของพรรคเพื่อไทยจะเห็นชอบทั้ง4ร่างไม่นับรวมร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา256ที่ไม่ถูกบรรจุในวาระการประชุมส่วนร่างอื่นๆไม่ว่าจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกพรรคเพื่อไทยมีมติว่าจะรอฟังการอภิปรายแต่ละร่างก่อนถึงจะมีมติไปทางใดทางหนึ่งในวันสุดท้ายเนื่องจากร่างของทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนที่ตรงกันกับร่างของพรรคเพื่อไทย ส่วนที่ตรงกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนที่ไม่ตรงจะดูและฟังว่าสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการวาระที่2ได้หรือไม่ หากมีโอกาสที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ก็คงจะพิจารณารับหลักการไปแต่หากเรื่องใดที่ไม่สามารถปรับปรุงได้และขัดกับเราชัดเจน แน่นอนว่าก็คงจะเห็นชอบไม่ได้
ไม่ติดใจปมไม่บรรจุญัตติ ม.256
ส่วนญัตติ มาตรา256 ที่ไม่สามารถบรรจุเข้าวาระประชุมได้ หาก พ.ร.บ.ประชามติผ่านความเห็นชอบจากสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีการพูดคุยกันหรือไม่ ว่าจะขอมติจากสภาเพื่อทำประชามติมาตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) นายสุทิน กล่าวว่า แน่นอน สำหรับกรณี ม.256ที่ไม่ถูกบรรจุและยังไม่ตก เรามองในแง่ดีว่าเป็นเพราะยังไม่มี พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ก่อนพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะหารือกับประธานรัฐสภาในที่ประชุมว่าหากพ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้วจะใช้วิธีใดในการดันเรื่องนี้เข้าเพื่อให้สภามีมติส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำประชามติ
เตรียมวัดใจ ครม.ทำประชามติ
เมื่อถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติก่อน แต่พรรคเพื่อไทยยังมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรานี้ นายสุทิน กล่าวว่า เราเสนอเข้ามา เจตนาเพื่อเป็นต้นเรื่อง ต้นทางที่จะนำไปสู่การทำประชามติ หากเราไม่เสนอเข้ามาเลย ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรถึงจะมีการทำประชามติ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมีการระบุว่าจะให้สภายื่นเรื่องให้ครม.จัดทำประชามติ ได้พูดคุยกันถึงประเด็นนี้แล้วหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า แบบนี้ก็ได้ เพราะเป็นแนวทางตรงกันอยู่แล้ว ว่าเราคงจะต้องให้สภายื่นเรื่องให้ครม. แต่จะต้องรอ พ.ร.บ.ประชามติ หากไม่ผ่านแนวปฏิบัติก็ไม่ได้
จุรินทร์ย้ำมติปชป.หนุน13ร่างแก้รธน.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าการประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาในวันพรุ่งนี้(23มิ.ย.)ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีมติชัดเจนแล้วว่า จะสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ร่าง ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นร่างของพรรคประชาธิปัตย์ 6 ร่าง ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา 2 ร่าง และเป็นของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทย 4 ร่าง ของพลังประชารัฐอีก 1 ร่าง เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติสนับสนุนทั้ง 13 ร่าง เพราะต้องการแสดงจุดยืนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นซึ่งเป็นจุดยืนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์
ยึด3หลักเกณท์สำคัญ/ไม่แตะสถาบัน
หัวหน้าพรรคปชป.กล่าวอีกว่า พรรคถือหลักว่า จะถือร่างไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 3 ข้อคือร่างนั้น ต้องสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ต้องไม่มีผลเปลี่ยนแปลง หมวด 1 กับหมวด 2 เรื่องรูปแบบการปกครองของประเทศ ต้องยืนหยัดการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่แตะหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะต้องเป็นประโยชน์กับประชาชน
“สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ที่สำคัญ คือ อย่างน้อยประชาธิปัตย์ ก็ต้องสนับสนุน6ร่างของพรรค และ2ร่างที่เป็นของภูมิใจไทย เพราะได้ลงนามร่วมกัน ในการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากลำพังพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียว ไม่สามารถเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะมีเพียง 50-51 เสียงต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า100เสียง จำเป็นต้องเสนอร่วมกับพรรคการเมืองอื่น หลักสำคัญนอกจากต้องสนับสนุน 6+2 ร่าง แล้ว และร่างอื่นถ้ามีหลักการที่ใกล้เคียงกัน ก็พร้อมสนับสนุน เมื่อดูร่างอื่นๆแล้วไม่ว่าจะเป็นของพลังประชารัฐ เพื่อไทย ถือว่ามีหลักการใกล้เคียงกันจึงมีมติสนับสนุนทั้ง13ร่าง ส่วนรายละเอียดหากมีประเด็นใดที่คิดว่าจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียด พรรคจะเข้าไปร่วม เป็นกรรมาธิการและจะแปรญัตติแก้ไขในรายละเอียดต่อไป”นายจุรินทร์ กล่าว.
ภท.รับ8ร่างรบ./ไม่เอา4ร่างฝ่ายค้าน
นายภราดร ปริศนานันกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงแนวทางการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 13 ร่างที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะมีการพิจารณาและลงมติในวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ว่า สำหรับแนวทางพรรคภูมิใจไทยเท่าที่พูดคุยกันเบื้องต้น เราเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ส่วนประเด็นอื่นๆพรรคจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือพรรคการเมือง โดยเฉพาะเรื่องบัตรเลือกตั้ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะลงมติเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 8ฉบับที่ลงชื่อสนับสนุนไว้หรือไม่นั้น พรรคจะหารือก่อนลงมติอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแนวทางการลงมติของพรรคภูมิใจไทย เบื้องต้นจะยกมือสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 8 ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่ส.ส.ของพรรคได้ลงชื่อไว้ ส่วนร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวน 4 ร่างนั้น พรรคภูมิใจไทย จะไม่เอาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี