เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2564 พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กำลังคิดว่าเงิน ๑ ล้าน ๆ บาทที่หมดไปแล้วจะทำแบบไหนให้เจ็บแล้วจบจริง ๆ ไม่ใช่เจ็บแล้วเจ็บอีกแถมไม่จบแบบนี้ ลองมาคิดกันดู
ไม่คิดเองแล้วขออ้างถึงแหล่งที่อ้างอิงได้กันมีอัตราค่าวัคซีน อัตราค่าน้ำยาตรวจ ราคารถตรวจโควิดเชิงรุกแบบทำได้ ๓ เครื่องพร้อมกัน (๒๑๐ รายต่อรอบ ๓ ชั่วโมง) เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่สำหรับห้อง ICU เครื่องติดตามสัญญานชีพ เครื่องช่วยหายใจชนิดครอบจมูก เครื่องช่วยหายใจชนิดสอด เครื่องช่วยหายใจแบบเคลื่อนย้ายได้ โดยเครื่องมือแพทย์นี้อ้างอิงราคาจาก ร.พ.ราชวิถี ซึ่งกำลังขอบริจาคอยู่
ขอทำตัวเป็นรัฐบาลหรือ ศบค. สักรอบนะครับ
ขณะนี้เรามีความสามารถรับผู้ป่วยได้วันละ ๑ พันราย จะพบว่าเมื่อจำนวนเพิ่มเป็น ๓ พันรายจึงมีการล้นระบบ นั่นหมายถึงอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเหมือนในยุโรป
เอาอัตราการระบาดในยุโรปมาตั้ง เทียบกับประชากรและถือว่าประชากร ๖๐ กว่าล้านคนมีระบบเดิมอยู่แล้ว ๑ พันแห่ง เราต้องเพิ่มขีดความสามารถอีก ๕ พันเตียงต่อวันจึงจะมีอัตราการติดเชื้อไม่เกิน ๖ พันรายต่อวัน
โดยต้องทำไปพร้อมกันทั้งขยายระบบสาธารณสุข เร่งตรวจให้ครอบคลุมและจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ
เอาระบบการปกครองส่วนภูมิภาคมาดู เรามี ๗๗ จังหวัด ๘๗๘ อำเภอและ ๕๐ เขต
ตีตัวเลขระดับส่วนกลางและจังหวัดหน่วยพยาบาลศูนย์และมหาวิทยาลัย ๑๐๐ แห่ง
ระดับอำเภอและเขตตัวเลขกลม ๆ ๑,๐๐๐ แห่ง เพื่อครอบคลุมทั่วประเทศ
วัคซีนมีราคาให้ดูหลายชนิด AZ ถูกที่สุด ให้ไว้ ๓๐ ล้านคน SV อาจจำเป็นสำหรับรัฐบาลด้วยบางเหตุผลให้ไว้ ๒๐ ล้านคน ที่เหลืออีก ๓๐ ล้านคน รวมแรงงานและชาวต่างชาติด้วย เป็นทั้งหมด ๘๐ ล้านคน ฉีดฟรี เป็นเงินกลม ๆ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท
น้ำยาตรวจเพื่อให้คนออกมาทำงานได้เมื่อจำเป็น เช่นคนส่งของ การซื้ออาหาร เป็นเวลาไม่เกิน ๓ เดือน หมุนเวียนตรวจเดือนละ ๒๐ ล้านรายทุก ๆ ๓ วัน หรือ ๒๐๐ ล้านครั้งต่อเดือน ราคาชุดตรวจละ ๓๐๐ บาท เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาทต่อเดือน ใช้เวลา ๓ เดือนต้องจบ เป็นเงิน ๑๘๐,๐๐๐ ล้านบาท (ปกติ ๒ เดือนต้องเห็นผลแล้ว)
รถตรวจเคลื่อนที่ รัฐบาลต้องจัดหามาโดยดูตัวอย่างรถตรวจพระราชทาน ๒๐ คันนั้น ถ้าใช้เครื่องมือชุดใหญ่ชุดละ ๑ ล้านบาท ๓ ชุด ตรวจได้ ๒๑๐ รายต่อ ๓ ชั่วโมง ๑ วันจะตรวจได้คันละ ๑,๖๐๐ รายตีเสีย ๑,๐๐๐ รายโดยประมาณ ควรมีกระจายกันไปทุกเขตและอำเภอก็จะเป็น ๑,๐๐๐ คัน เฉลี่ยรวมตัวรถแล้วราคา ๔.๕ ล้านบาท เป็นเงิน ๔,๕๐๐ ล้านบาท
เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ใช้ในห้อง ICU ให้ ร.พ.ขนาดใหญ่ ๑๐๐ แห่ง ๆ ละ ๑๐๐ ชุด ๆละ ๑ ล้านบาท เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
เครื่องติดตามสัญญานชีพ ให้ระดับอำเภอ ๑,๐๐๐ แห่ง ๆ ละ ๑๐๐ ชุด ๆ ละ ๙๐,๐๐๐ บาทเป็นเงิน ๙,๐๐๐ ล้านบาท
เครื่องช่วยหายใจแบบครอบ ให้ระดับอำเภอ ๑,๐๐๐ แห่ง ๆ ละ ๑๐๐ ชุด ๆ ละ ๒๕๐,๐๐๐ เป็นเงิน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท
เครื่องช่วยหายใจแบบสอด ให้ระดับอำเภอ ๑,๐๐๐ แห่ง ๆ ละ ๑๐๐ ชุด ๆ ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท
เครื่องช่วยหายใจชนิดเคลื่อนย้ายได้ เพื่อเป็นกองหนุนช่วยในที่เกิดการระบาดหนักกว่าที่อื่น จัดไว้ ๕๐,๐๐๐ ชุด ๆ ละ ๔๗๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๒๓,๕๐๐ ล้านบาท
ประกาศล็อคดาวน์เป็นเขต ๆ เพื่อระดมทรัพยากรได้ ขอความร่วมมือไม่เคลื่อนย้าย แต่ซื้อของและทำงานได้ตามปกติโดยมีการตรวจโควิด ใครไม่ต้องออกจากบ้านให้ใช้บริการส่งของแทน ใครจะไปศูนย์การค้า ไปสถานที่ราชการให้นัดโดยมีคิวไม่ให้หนาแน่น
ทั้งหมดนี้ใช้เงินเพื่อเรื่องสาธารณสุขไม่รวมการช่วยเหลือด้านการเงินที่ควรออกพระราชกำหนดเรื่องอัตราดอกเบี้ย เรื่องพักชำระหนี้ ฯลฯ แต่ละบ้านควรมีอาหารให้บ้านละ ๒ มื้อตามจำนวนผู้อยู่จริง
มาดูว่าต้องใช้เงินเพื่อการล็อคดาวน์ที่ควรเตรียมการมาตั้งแต่ต้นปี มีวัคซีนพร้อม มีชุดตรวจ มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวนี้เป็นเงินเท่าไร
รวมเป็นเงิน ๓๗๒,๐๐๐ ล้านบาท ตัวเลขกลม ๆ คือ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ควรจะลดการระบาดและอัตราการเสียชีวิตลงได้ โดยมีระดับความสามารถในการรองรับผู้ป่วยรายวันไม่เกิน ๖,๐๐๐ รายต่อวัน
โดยมีสมมติฐานว่าสามารถฝึกบุคลากรทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉินนี้เพิ่มเติมโดยยังไม่กระทบต่อโรคที่มีมาแต่เดิม และไม่รวมยารักษาการติดเชื้อที่ปอดซึ่งสามารถขายเชิงพาณิชย์ได้โดยไม่ฟรีเช่นนี้
ถ้าไม่ได้มีการเตรียมเช่นนี้มาก่อน เงินกู้ใหม่ ๕ แสนล้านบาทก็ควรนำมาใช้ตามนี้ก็น่าจะได้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี