ม็อบปะทะเดือดแยกดินแดง
เผาป้อมตร.วอด
ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยางสกัด
คาร์ม็อบเดินสายป่วนรัฐบาล
ตรึงกำลังห้ามเฉียดบ้านนายกฯ
กดดัน‘อนุทิน’หน้าซิโน-ไทย
‘กวิ้นกับเพื่อน’ยังนอนคุก
คาร์ม็อบมาตามนัด ตระเวนกรุง เขย่ารัฐบาล“บิ๊กตู่”ทั้งเยือนตึกซิโน-ไทย ฐานที่มั่น “เสี่ยหนู” บ้าน“ธรรมนัส” ตึก“คิง เพาเวอร์” ในขณะที่“กวิ้น”และพวก เข้าเรือนจำหลังศาลถอนประกัน ส่วน“ทนายอานนท์” มีลุ้นจ่อคิวพิจารณาฝากขัง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ควบคุมตัว “ภูมิ หัวลำโพง” เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชน
และครอบครัวกลาง ที่ จ.26/2564 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ในความผิดฐาน
“ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันฝ่าฝืน พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ” ส่งฝากขังศาลเยาวชนฯ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 7สิงหาคม ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกมาที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม.ก่อนรื้อทำลายป้ายบริเวณด้านหน้าจนได้รับความเสียหายตัวหนังสือหัก และหลุดออกจากกรอบป้ายสำนักงาน ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องการชุมนุมตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อเนื่องอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสามเหลี่ยมดินแดง โดยหลังเกิดเหตุได้มีการแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน และฝ่ายสืบสวนได้ไล่ล่าหาตัวผู้กระทำผิดอย่างใกล้ชิด
ต่อมา เวลา 20.30น.วันที่ 9สิงหาคม เยาวชนชาย อายุ 17ปี ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อมาให้การว่า ผู้ต้องหาอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7สิงหาคม เวลา 19.00น.หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6ได้แสดงหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้ผู้ต้องหาดู ซึ่งผู้ต้องหาดูแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายภูมิกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีความกังวลแต่อย่างใด แต่ต้องรอการพิจารณาของศาล โดยขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับแกนนำทุกคนด้วย ยังยืนยันพร้อมเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป
ส่ง”กวิ้น”และพวกเข้าเรือนจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบ ฐานกระทำผิดเงื่อนไขการประกัน ทำให้นายพริษฐ์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีนั้น
ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” โพสต์ข้อความว่า “สาส์นสั่งลาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านจากเพื่อนนักสู้เพื่อประชาธิปไตยของเรา เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกพรากอิสรภาพไปเพียงเพราะต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ เพื่ออิสรภาพ เพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความหวัง เป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นที่ที่ทุกคนจะมีความเท่าเทียมกันทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาจากชนชั้นไหน ตระกูลใดก็ตาม ขอให้พี่น้องทุกคนจงยึดมั่นในแนวทางการต่อสู้ของพวกเราต่อไป เพื่อที่ซักวันนึงประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์”
เลื่อนฝากขังทนายอานนท์
วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำตัว นายอานนท์ นำภา เเกนนำกลุ่มราษฎร ฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังจากเข้ามอบตัวตามหมายศาล กรณีชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน” หรือม็อบแฮรี่พอตเตอร์2 ที่หน้าหอศิลป์ฯ เมื่อวันที่ 3สิงหาคม2564 โดยตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วย ความผิดตามมาตรา112, ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นนายอานนท์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ต่อมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน และกล่าวว่าตำรวจจะมีอำนาจควบคุมตัวนายอานนท์ไว้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง แต่จากการพูดคุยสอบถามทราบว่า ได้ทำบันทึกจับกุม พิมพ์มือ พร้อมทั้งสอบสวนและแจ้งสิทธิ์ครบถ้วนแล้ว เสร็จสิ้นกระบวนการหมดแล้ว แต่กลับได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจะคุมตัวไว้อีก 1 วัน ซึ่งจากที่สอบถามนายอานนท์ เวลานี้ไม่ได้ทำอะไร นอกจากนั่งคุย นอนรอเวลาที่จะให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง
คาร์ม็อบมาตามนัดป่วนกทม.
บ่ายวันดียวกันสี่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่ง ขับรถยนต์ รถกระบะ รถออฟโร้ด มาจอดริมทางเท้า บนถนนราชดำริหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เดินเท้าเข้ามาประชาสัมพันธ์ว่า เป็นเขตห้ามจอด หรือสามารถจอดได้ แต่ขออนุญาตออกใบสั่งเพราะต้องปฏิบัติตามหน้าที่
นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก และกลุ่มเพื่อนปักหลักบรรเลงและขับรถดนตรี มีเนื้อหาเรียกร้อง ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ บางส่วนทยอยนำรถยนต์ จักรยานยนต์ และรถกระบะเข้าพื้นที่ โดยมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ ธงสีแดง, ดาวกระดาษมีข้อความ ‘ราษฎร’ รวมถึงช่วยกันตัดแบ่งผ้า คาดว่าสำหรับเตรียมรับมือการสลายชุมนุม ขณะที่เพจ‘กระเทยแม่ลูกอ่อน’เตรียมข้าวราดพะแนงแจกจ่ายผู้ร่วมกิจกรรม
จากนั้น เวลา 13.26น.มีการประกาศกลับหลังขบวนไปทางแยกราชประสงค์ โดยมวลชนค่อยๆ ปรับทิศขบวน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด โดย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ประกาศผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า ขบวนคาร์ม็อบไล่ทรราชตั้งขบวนแล้ว ที่หน้าห้างเกษรพลาซ่า หันหน้าไปทางเพลินจิต แล้วเราจะเคลื่อนขบวนพร้อมกัน 14.00น.
ตำรวจป้องกันถกสาดสี
พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ตรวจความพร้อมรับมือการชุมนุมที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำผ้าสีขาวมาคุมป้ายที่ถูกรื้อทำลายไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ส่วนที่ด้านข้างประตูทางเข้าได้นำผ้าใบพลาสติกมาปิดบริเวณป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำลายหรือสาดสีใส่ป้าย ขณะที่ภายในตร. ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับบรรยากาศภายใน ตร.ได้มีกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน(คฝ.) กองร้อยน้ำหวาน จำนวน 2 กองร้อย เดินทางเข้ามาสแตนด์บายรอคำสั่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง จำนวน 1 คัน และรถน้ำ 1 คัน รถควบคุมผู้ต้องหา 1 คัน รถเครื่องขยายเสียง 1 คัน เข้ามาจอดอยู่ภายในรั้ว ตร.
ยึดลูกแก้ว-ง่ามยิงหนังสติ๊กเพียบ
ด้านตำรวจ กก.สส.บก.น.6 พร้อมตำรวจ สน.ปทุมวัน ตรวจยึดลูกแก้วบรรจุอยู่ในถุง 90 ถุง รวมจำนวน 9,000ลูก หนังสติ๊กง่ามไม้ จำนวน 80 อัน กล่องพัสดุที่ใช้บรรจุลูกแก้ว จำนวน 4 กล่อง กระเป๋าสะพายแบบเป้สีดำ จำนวน 1 ใบ ได้บริเวณสวนปทุมวนานุรักษ์ ถนนราชดำริ
ก่อนตรวจพบตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวการชุมนุมปราศรัยคาร์ ม็อบ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่ง ถ.ราชดำริ ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ได้รับแจ้งพบกล่องพัสดุต้องสงสัยวางอยู่บริเวณบนทางเดินเท้าหน้า “สวนปทุมวนานุรักษ์” ถ.ราชดำริฯ ไม่ทราบว่ามีผู้ใดนำมาวางทิ้งไว้ จึงร่วมกันทำการตรวจสอบและร่วมกันทำการตรวจยึดไว้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ประกาศบุกซิโนไทยทาวเวอร์
เวลา 13.35น.แกนนำกลุ่มได้ประกาศว่า ให้ปรับขบวนใหม่ โดยให้รถยนตร์ที่ร่วมกิจกรรมกลับรถเพื่อหันหัวขบวนไปไปทางแยกราชประสงค์แทน โดยการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมให้กลุ่มมอร์เตอร์ไซด์นำขบวนเลี้ยวซ้ายไปทางแยกเพลินจิต ตรงไปเส้นทางฝั่งสุขุมวิทขาออก โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ไม่มีแกนนำที่ชัดเจน มีรถยนตร์กระบะประชาสัมพันธ์ติดเครื่องเสียงของกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี เป็นรถอำนวยการเส้นทางการชุมนุม โดยขณะที่บางช่วงมีเสียงการสื่อสารจากภายนอกผ่านโทรศัพท์เข้ามา และใช้เสียงต่อเข้าลำโพงในการแจ้งทำกิจกรรมต่างๆกับผู้ชุมนุม สำหรับสภาพการจราจรในพื้นที่โดยรอบติดขัด โดย เวลา 14.25 น.หัวขบวนถึงสถานีบีทีเอสนานา โดยผู้ชุมนุมที่อยู่บนรถขยายเสียงได้ประกาศเดินทางไปที่ชิโนไทยทาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในตระกูลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯรมว.สาธารณสุข
ตามมาด้วยบุกบ้าน”ธรรมนัส”
ต่อมาเวลา 15.00 น.แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบสถานีต่อไปคือบ้านพัก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย่านถนนพระราม9 จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังตึกคิงค์พาวเวอร์ ซอยรางน้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี