"จิรายุ"กวนโอ๊ย"บิ๊กตู่" ฝ่ายค้านถล่มอย่าโกรธ เป็นผู้นำต้องทนรับฟัง ถ้าไม่ไหวก็พักไปเลี้ยงหลาน จัดหนัก"5 บาป"ชี้เป้าโกง ด้าน"จุติ"ยันบริสุทธ์ใจ พร้อมให้ตรวจสอบ ก่อน ปธ.สั่งพัก ประชุมต่อพรุ่งนี้เช้า

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า คนพุทธเขาไม่ทำบาป แต่นายกรัฐมนตรีกลับทำ 5 บาป เป็นนายกฯ 5 บาป โดย บาปที่ 1 คือ ขโมยความสุข การกินดีอยู่ดี หลอกประชาชนว่าจะคืนความสุข จะทำตามสัญญา บาปที่ 2 คือ มีพฤติกรรมค้าความตายบนคราบน้ำตาของประชาชน ท่านอาจจะเหี้ยมโหดเกินไป ปล่อยประชาชนตายเป็นเบือ ยังมีปัญหาปล่อยให้พวกพ้องทุจริตจนน่ารังเกียจ ยุคปัจจุบัน 2564 เป็นยุคคนเขลาครองเมือง ท่านบริหารงานราชการแผ่นดินแบบอีโก้สูง โอหังคลั่งอำนาจ ฝ่ายค้านต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล บาปที่ 3 คือ นายกฯ พรากลูกพรากเมียผู้อื่นด้วยความตาย เป็นบาปที่น่าตกใจ หลายคนสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะแนวคิดของนายกฯ ทุกคนหาเตียง หาเส้น หาสาย เพื่อซื้อชีวิตตัวเอง

"เวลาฝ่ายค้านอภิปรายท่านอย่าโกรธ คนเป็นผู้นำต้องอดทนรับฟังแล้วรับเอาสิ่งที่ฝ่ายค้านสะท้อนไปแก้ไขปรับปรุง ถ้าท่านไม่ไหว ท่านก็พัก วันนี้ท่านจะ 70 แล้ว ทำไมไม่พักเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน" นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ต่อมา บาปที่ 4 คือ ท่านโกหกพี่น้องประชาชนว่าจะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ท่านกลับไม่ทำ เพราะท่านอยากอยู่ยาว ซึ่งถ้าท่านจะอยู่ยาวแล้วประเทศเจริญคนก็คงจะสรรเสริญ แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีไม่ว่าจะโจ้ เฟอรารี มีทั้งตั๋วภาค ตั๋วเสี่ย ก.ฯลฯ ทั้งที่จะปฏิรูปตำรวจต้องมี ค.ตร.แต่ ค.ตร.แทนที่จะเป็นคณะกรรมการเข้าไปตัดสินการทำหน้าที่ของตำรวจ กลับเข้าไปรับประโยชน์ และใช้เส้นสาย นี่คือการปฏิรูปปราสาททรายแหกตาประชาชน แสดงให้เห็นว่าไม่มีการปฏิรูปใดๆ และบาปที่ 5 คือ มึนเมา มัวมันในอำนาจ ปล่อยข้าราชการชั่วทุจริตซ้ำเติมประชาชนยุคโควิด โดยพรรคเพื่อไทย ได้ติดตามตรวจสอบทุกกระทรวง เริ่มจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กรณีถังน้ำบาดาล ซึ่งสำนวนครบ แต่รัฐบาลกลับปล่อยปะละเลย ซึ่งตนจะส่งเอกสารให้ประธานโดยตรงต่อไป แล้วจะร้องไปยัง ป.ป.ช.และ ปปท.ต่อไป ต่อมาคือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีทุจริตบ้านเคหะสุขประชา กระทรวงคมนาคม กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสุดท้ายคือการดีแต่พูด ดีแต่คุยโม้โอ้อวดว่า ตรวจสอบทุจริต ทั้งนี้ วันเสาร์นี้ตนจะดูว่าสมาชิกจะโหวตให้นายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมากน้อยแค่ไหน

จากนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนเคารพกติกาของสภาผู้แทนราษฎร มีรัฐบาลก็ต้องมีผู้ตรวจสอบ แต่เมื่อมีการกล่าวอ้างว่ามีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล ตนก็จะเป็นต้องแสดงความบริสุทธ์ใจ ว่า ไม่มีอะไรที่เราจะละเลยไม่ตรวจสอบและเชื่อว่าตนและนายจิรายุจะคิดเหมือนกันว่าต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ยืนยันว่าตนยึดมั่นประโยชน์ของประชาชนและประเทศ พร้อมยินดีให้ตรวจสอบ และจะนำผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ มาชี้แจงด้วยเพื่อจะได้รู้ว่าใครเป็นคนโกหก

กระทั่งเวลา 21.00 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นชี้แจงถึงกรอบเวลา ว่าวันนี้หมดรายชื่อผู้อภิปรายแล้ว จาก นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าประธานการประชุม จึงสั่งพักการประชุมในเวลา 21.07 น.และให้สมาชิกกลับมาประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) เวลา 09.00 น.