"ปชน."กระทุ้งต่อ! ปูด"งบสภาฯ"มีโครงการพิสดารสร้าง"คลังแสง"ใต้อาคาร เหน็บสงสัยใช้สู้รัฐประหาร-ปราบ สส.กันเองหรือไม่ เปิดชื่อย่อ ผู้บริหาร "พ." เอี่ยวโยกงบสภาฯ ทำคำขอไปแจก ตั้งตัวเอง-เพื่อนั่งคุม คกก. ลั่นอย่าคิดว่าไม่ได้เป็น รมต.ไม่มีใครอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วจะรอด เหตุมีหลักฐาน ทำให้ได้รางวัลทุจริต-พาไปกินข้าวที่ ป.ป.ช.ได้แน่ ด้าน"พิเชษฐ์"ลุกโต้ทุกดอก ลั่นมีปัญหา จะเอาข้อมูลอะไร ยินดี
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเป็นวันที่ 2 โดย นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) ลุกขึ้นอภิปรายถึงนายพิเชษฐ์ ว่า "ไม่ต้องโกรธกันครับท่านประธาน ผมก็อภิปราย เพื่อประโยชน์ของพวกเราและพี่น้องประชาชน และหากท่านจะชี้แจงอย่างไร ขอให้เป็นตอนจบทีเดียว ฟัง ใจร่มๆ"
นายภัณฑิล กล่าวเน้นไปที่งบของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในฐานะผู้แทนราษฎร หน้าที่หลักคือ การตรวจสอบ ควบคุมการใช้เงิน ซึ่งต้องพิจารณาว่าเงินเหล่านั้น จะถูกใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม และคุ้มค่ากับที่ประชาชนทุกคนต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายภาษีหรือไม่
"เราสามารถไปตัดงบหน่วยงานอื่นได้ทั่วประเทศ แต่หน่วยงานที่เราสังกัดอยู่เอง จะใช้ภาษีอย่างฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่าแล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ประชาชนและข้าราชการในหน่วยงานอื่น เขารับไม่ได้"
นายภัณฑิล กล่าวอีกว่า ขอยกตัวอย่าง อาทิ การใช้ประโยชน์พื้นที่สภาที่ไม่คุ้มค่ากับงบลงทุน โดยเฉพาะการปรับปรุงอาคารรัฐสภา ในส่วนการเปิดยื่นข้อเสนอ 10 วัน สำหรับการออกแบบอาคาร และพื้นที่จอดรถใต้ดิน ว่าทำไม เราจึงไม่คิดหาทางเลือกอื่น เนื่องจากยังมีทางเลือกที่ถูกกว่า คือการสร้างอาคารในพื้นที่ค่ายทหาร ที่อยู่บริเวณติดกันที่ยังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไม่เต็มศักยภาพ ซึ่งใช้เก็บรถถัง ปืนใหญ่ จริงๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าการนำมาเก็บตรงนี้ จะเอาไปออกรบกับใคร และแม้จะมีการประกาศผู้ชนะการออกแบบไปแล้ว ก็มีคนมาคัดค้านว่า มีการเร่งรัดผิดปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นคู่แข่งที่เข้ามาร้องกันเอง เนื่องจากกลุ่มกิจการร่วมค้าที่ชนะการประกวดนั้น เคยมีประวัติรับงานแล้วโดนยกเลิกสัญญาเพราะส่งมอบสัญญาณไม่สำเร็จ
นายภัณฑิล กล่าวว่า การพยายามใช้เงินเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และคนทำเอง ก็ยังย่ามใจพยายามดันให้สุดซอย ทั้งยังมีความพยายามสร้างอะไรประหลาดพิสดาร อย่างโครงการคลังแสงอาวุธยุทธภัณฑ์ และการบริหารจัดการด้านอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ที่อยู่บริเวณใต้ห้องประชุมสุริยัน จะนำมาทำเป็นคลังอาวุธ
"มีไปทำไมคลังแสงอาวุธ จะไปสู้รัฐประหารหรือ ท่านมาสู้อะไรตอนนี้ ท่านก็ไปแก้รัฐธรรมนูญเอา ถ้ามีคนทำรัฐประหาร หรือจะเอามาปราบพวกเรากันเอง อยู่ข้างใต้พวกเรา ขึ้นลิฟต์มาชั้นเดียว น่ากลัวจริงๆ"
นายภัณฑิล ยังกล่าวถึงงบฯ อบรมสัมมนาอีกว่า เงินในส่วนนี้มีการใช้แบบไม่บันยะบันยัง ในแผนยุทธฯ พัฒนาและเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 เท่า ในระยะเวลา 3 ปี พร้อมย้ำถึงข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ระบุว่า ห้ามกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้ สส.มีส่วนไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่าย ก่อนย้ำว่า "คุกนะครับ" พร้อมอธิบายว่า การของบในส่วนนี้เป็นไป เพื่อการนำไปแจก เป็นเงินทุน เงินบริจาค เงินสนับสนุนให้กับประชาชนโดยตรง ซึ่งมีลายเซนต์ของผู้บริหารสภากำกับไว้เรียบร้อย ขนาดข้าราชการเองยังลำบากใจเลย มาบอกกับตนว่า ผู้บริหารสภาฯ ชงแจกเงิน เพราะมันทำไม่ได้ แต่คนจะเอาก็จะเอาให้ได้ กดดันข้าราชการจนมีคำแนะนำว่า ถ้าจะทำให้ได้ก็ต้องจัดเป็นการอบรมสัมมนา จึงมีการแก้เอกสารในโครงการนี้ ซึ่งภายหลังเมื่อโดนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไป ก็ไม่พอใจ ก็ยังมีการขอแปรเพิ่ม ได้มาครึ่งนึงของจำนวนเงินที่ขอไป เมื่อได้งบมาแล้ว ก็ตั้งคณะกรรมการมาดูแลโครงการโดยตั้งตัวเอง ชื่อย่อ "พ." และเพื่อน สส.พรรคเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน มานั่งติดกัน
"ท่านประธานอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกปีหนึ่งจัดสัมมนากว่า 1,300 งาน เป็นไปได้ครับ เพราะมีคนมากระซิบ ว่าเอาเงินไปก่อน ทำโครงการลงไป ให้เงินมันเหลือ เพื่อให้ถูกโยก ไปใช้ในโครงการอื่น" นายภัณฑิล กล่าว
นายภัณฑิล กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังมีการให้จัดตั้งกองเกียรติยศเจ้าหน้าที่ตำรวจสภาฯ เพื่อใช้ในงานพิธีต่างๆ อย่างเท่ จะจัดสวนสนาม หรือทำอะไรกัน ทำไมต้องมีการลงไปซ้อม แล้วเงินมาจากไหน นำมาจากโครงการที่ไปล้วงกระเป๋าเยาวชนมาหรือไม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็ใช้ไม่หมด และในอนาคต ก็ได้ยินมาว่า จะมีแผนโยกงบในส่วนนี้ไปใช้ในโครงการก่อสร้างอีก ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน การส่อทุจริตเช่นนี้ ต้องรีบจัดการ เพราะสภาฯ ควรเป็นแบบอย่างในการบริหารงบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้แนวคิดจากฐานศูนย์ที่จำเป็นเท่านั้น อย่าไปยึดติดกับอดีต ใครตั้งมาอย่างไร ก็บวกเพิ่มขึ้นไป
"ถ้าสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ยังมีมโนสำนึก ความละอายต่อประชาชนที่เขาเลือกท่านผู้ทรงเกียรติเข้ามาทั้งหลาย เราควรสำรวจตัวเอง ติดตามประเมินการใช้งบประมาณในทุกรายการอย่างเข้มงวด ทำให้เป็นตัวอย่าง เข้าใจครับ เราไม่อยากมาเผาบ้านตัวเอง กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด ก่อนไปตรวจสอบหน่วยงานอื่น ช่วยกันจับทุจริต ประหยัดงบสภาฯ หาเงินช่วยรัฐบาลเขา อย่าคิดว่าไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะอยู่เหนือการตรวจสอบ ไม่มีใครสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ สามารถพาท่านไปทานข้าวแถวสนามบินน้ำได้แน่นอน เพราะถูกรางวัลทุจริต เจอกันที่ ป.ป.ช.ครับ" นายภัณฑิล กล่าว
จากนั้น นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า ตอนนี้ของบยังไม่ได้ เพราะแบบกำลังทำจะเสร็จแล้ว สำหรับที่จอดรถสภาฯ ถูกยกเลิกไป 1 ชั้น จากธรรมดามีใต้ดิน 3 ชั้น เพราะเราถูกลดงบประมาณ ฉะนั้น ถ้าทำที่จอดรถที่บอกจบแล้ว ก็จะไม่มีที่ก่อสร้างใดๆ แล้วในสภาแห่งนี้ ส่วนพื้นที่ใช้สอยที่มีเยอะแยะมากมาย แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ปล่อยทิ้งร้างนั้น เมื่อมาถึงสมัยนี้กำลังคัดเลือกประธานสโมสร และร่างระเบียบสโมสร เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ
"ส่วนของสภาฯ ที่ท่านพูด ถูกต้อง กว้างขวาง แต่ประโยชน์น้อย ท่านเดินไปตามกลุ่มงานต่างๆ นั่งหลังชนกัน เดินแทบจะไม่ได้ การออกแบบเขาก็ไม่ได้คิดว่าใช้ประโยชน์อย่างไร ที่กว้างแต่ใช้สอยได้น้อย เจ้าหน้าที่ต้องแออัดกันอยู่ โต๊ะทำงานก็แคบๆ เหมือนกันหมด ฉะนั้น ถ้าเราขยับขยายได้ พื้นที่ที่เราพัฒนาก็จะจบไป" นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคลังแสง สภาฯ ใหม่ของเราวันนี้ ตำรวจทุกคนไม่มีอาวุธ ถ้ามีผู้ก่อการร้าย และเอาอาวุธครบมือมา เราตายหมด ทั้งหมดนี้เมื่อเกิดเหตุเราจะไม่มีใครป้องกันตัวได้ และสภาฯ ทั่วโลกจะมีกองเกียรติยศ คือ ตำรวจชุดที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ฉะนั้น ถ้าเราไม่ทำของเราให้พร้อม ตนคิดว่าก็ไม่มีโอกาสที่จะทำอีก ขณะที่เรื่องของประชาธิปไตย หลังจากที่เราถูกปฏิวัติรัฐประหาร ความเชื่อมโยงการติดต่อประชาชน เราขาดการติดต่อจากประชาชน ฉะนั้น การอบรม เยาวชนก็เป็นคุณค่าที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะลงสู่พื้นที่ และท่านสามารถไปตรวจสอบได้ว่า ทุกอย่างเพื่อให้นิติบัญญัติ ได้มีโอกาสเข้าถึงประชาชน
นายพิเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมจะคุยกับท่าน ถ้ามีปัญหาจะเอาข้อมูลอะไร เราก็ยินดี และผมก็จะตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่บริหารสภาฯ"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี