วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘บิ๊กตู่’นัดประชุมศบค.10ก.ย. เล็งเลิกพรก.ฉุกเฉิน ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

‘บิ๊กตู่’นัดประชุมศบค.10ก.ย. เล็งเลิกพรก.ฉุกเฉิน ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

วันอังคาร ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : มาตรการล็อกดาวน์ พรก.ฉุกเฉิน
  •  

‘บิ๊กตู่’นัดประชุมศบค.10ก.ย.

เล็งเลิกพรก.ฉุกเฉิน

ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ประเมินสถานการณ์โควิด14วัน

เตรียมยุบศบค.ให้สธ.ดูแลแทน

ย้ำการ์ดตกต.ค.ทะลุ3หมื่นแน่

เข้มแคมป์คนงานผวาระบาดซ้ำ

จับตา“นายกฯ”เรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 10 กันยายนพิจารณาสถานการณ์โควิด-19ครบ 14 วัน ลุ้นยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยุบ ศบค.และมาตรา 9 ที่ใช้ออกข้อกำหนดเปลี่ยนมาใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับยกร่างใหม่แทนโดยโอนภารกิจสู้โควิดให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแม่งานหลัก “เลขาฯสมช.”รับอาจไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินหลังสิ้นสุดกันยายน รอ กม.ใหม่ตอบโจทย์คุมระบาดได้ดีกว่า พร้อมแปรสภาพ ศบค.เป็นส่วนหนึ่งในคณะทำงาน ด้านสถานการณ์ระบาด แนวโน้มติดเชื้อไทยดีขึ้น วันเดียว 13,988 ตาย 187 ผู้ป่วยอาการหนักลดลงต่อเนื่อง ย้ำเฝ้าระวังแคมป์คนงานหวั่นกลับมาระบาดซ้ำ สั่งยกระดับป้องกันสุงสุด ตรวจคัดกรองหาเชื้อเข้ม

เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยรายวัน


ติดเชื้อ13,988-ข่าวดีโคมาเริ่มลด

นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า ไทยตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 13,988 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,527 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,561 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,966 ราย และมาจากเรือนจำ 444 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,294,522 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 17,284 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,132,858 ราย อยู่ระหว่างรักษา 148,622 ราย อาการหนัก 4,601 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,013 ราย ตัวเลขตรงนี้มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ถือเป็นข่าวดี จะได้ใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาลน้อยลง

ตาย187-ฉีดวัคซีนแล้ว35.9ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 187 ราย เป็นชาย 101 ราย หญิง 86 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 131 ราย มีโรคเรื้อรัง 41 ราย มีเด็กอายุ 13 ปีเสียชีวิต 1 ราย พบว่ามีโรคประจำตัวที่ จ.ตาก เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย อยู่ที่ จ.ระยอง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 13,042 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของไทยเมื่อวันที่ 5 กันยายน ฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 325,218 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 35,912,894 โดส ถือว่าเราฉีดมาได้ครึ่งทางของเป้าหมายแล้ว แต่ในส่วนของหญิงตั้งครรภ์ยังต่ำอยู่ จึงขอเชิญชวนให้มาฉีด

โวไทยตายน้อยกว่าภาพรวมโลก

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 221,542,850 ราย เสียชีวิตสะสม 4,581,744 ราย ไทยอยู่อันดับที่ 29 ของโลก อย่างไรก็ตาม ดูจากอัตราผู้ติดเชื้อของประเทศต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้นและลดลงเป็นช่วงๆ จึงไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ตรงไหน เราต้องเรียนรู้ แต่ถ้าดูเฉพาะอัตราการเสียชีวิตของโลกจะอยู่ที่ 2.07% แต่ของไทยอยู่ที่ 1.02% ถือว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งโลก ดังนั้น สิ่งที่เราพยายามทำกันอยู่คือ การพยายามให้วัคซีนจะช่วยลดการเจ็บหนักและเสียชีวิต ซึ่งการเสียชีวิตและอาการหนักเป็นตัวชี้ขาดความรุนแรงของโรค หากตัวเลขเสียชีวิตและป่วยหนักมีจำนวนมาก ต้องใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาลมาก ถือว่าความรุนแรงของโรคมาก

การ์ดตกปลายก.ย.ติดเชื้อพุ่ง3หมื่น

“ถ้าดูฉากทัศน์คาดการณ์ผู้ติดเชื้อที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่ามาตรการที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนระดับหนึ่ง ทำให้สถานการณ์จริงเป็นไปตามคาดการณ์ผู้ติดเชื้อ กรณีประชาชนร่วมมือร้อยละ 25 และวันนี้ถือว่าต่ำกว่ากราฟผู้ติดเชื้อที่คาดการณ์เอาไว้ แต่เมื่อผ่อนคลายมาตรการขอให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้ดี การ์ดอย่าตก ไม่เช่นนั้นแรงเฉื่อยจะทำให้ช่วงปลายเดือนกันยายนต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคมตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นกลับมา และหากคุมไม่ดีอาจไปแตะ 3 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่ผู้เสียชีวิตปัจจุบันก็สอดคล้องกับเส้นกราฟที่คาดการณ์ไว้ในกรณีประชาชนให้ความร่วมมือร้อยละ 25 แต่เดือนตุลาคมยอดอาจพุ่งได้เช่นกัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ลุ้น10ก.ย.ศบค.ถกผลคลายล็อก14วัน

และว่า ขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์จากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ปลายสัปดาห์นี้ หรือ ต้นสัปดาห์หน้า อาจเป็นวันศุกร์ที่ 10 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. จะเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง เพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อในรอบ 14 วันที่ผ่านมา

นพ.ทวีศิลป์กล่าวย้ำว่า วันนี้เรากินบุญเก่าของ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และวันนี้เราต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะมีผลดีในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้กิจการกิจกรรมต่างๆปรับมาตรการ หรือที่สื่อเรียกว่า ผ่อนคลายมาตรการ ขอทุกคนการ์ดอย่าตกเข้มงวดมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการครอบจักรวาล ทุกคนดูแลป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้กราฟกลับพุ่งขึ้นไปอีก เพราะในอดีตเราได้เห็นแล้วว่า กราฟดังกล่าวมีติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นไปถึงวันละ 3 หมื่นคน วันนี้เราทำให้ลดลง และเดินทางกันมาได้ด้วยดีแล้ว ขอให้ร่วมด้วยช่วยกันทุกคน เพื่อเป็นพลังของประเทศไทยขับเคลื่อนสู้โควิด และในที่สุดแล้วเราจะอยู่คู่กับโควิดได้ เพราะขณะนี้ทฤษฎีด้านการแพทย์ไม่ได้หวังว่าจะกำจัดโควิดไปได้ ซึ่งจะเหมือนกับวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ที่ต้องอยู่คู่กับโลกนี้ โควิดก็เช่นเดียวกัน

จับตาเลิกพรก.ฉุกเฉิน-ยุบศบค.

มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายกฯเรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน ซึ่งคาดการณ์ว่านอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรายงานสถานการณ์ระบาดโควิด-19 และประเมินสถานการณ์หลังคลายล็อกกว่า 1 สัปดาห์แล้ว จะพิจารณาทบทวนการใช้อำนาจตามราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งมาตรา 5 การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งจะให้สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน และรวมถึงมาตรา 9 ซึ่งใช้ออกข้อกำหนดต่างๆ โดยจะกลับไปใช้กฎหมายพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แทน ส่งผลให้ ศบค. สิ้นสภาพไปโดยปริยาย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบตามหน้าที่ปกติโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

แย้มอาจไม่ต่อพรก.ฉุกเฉิน

ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศปก.ศบค.กล่าวถึงกระแสข่าวพิจารณายกเลิกพระราชกำหนดฉุกเฉินว่า ทุกอย่างเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ซึ่งนโยบายนายกฯและศบค. ให้เตรียมการไว้อยู่แล้ว ทราบดีว่าสังคมไม่สบายใจกับเรื่องนี้ จะเห็นว่าห้วงเวลาที่ผ่านมาเราอยู่กับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แทบจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำ เพราะใช้เฉพาะมาตรการควบคุมโรคติดต่อ ก็ต้องมีวันสิ้นสุดเป็นการเตรียมการไว้เท่านั้น ส่วนจะสิ้นสุดเมื่อใดขึ้นกับนโยบายรัฐบาล และศบค.

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะครบกำหนดสิ้นเดือนกันยายน พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ถ้าสถานการณ์ทรงๆแบบนี้ก็เป็นไปได้ที่จะไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนดีพอสมควร และประชาชนก็เข้าใจบ้างแล้ว แม้จะมีภาคเอกชนหรือประชาชนส่วนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรการ แต่ภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์รับได้ ถ้าอยู่ระดับนี้ต่อไป หรือดียิ่งขึ้นก็พิจารณาได้ ความจริงแล้วไม่ใช่ตัวตัดสินว่าจะใช้พ.ร.กฉุกเฉินหรือไม่ใช้ หรือสถานการณ์ก็ไม่ใช่ตัวตัดสินทีเดียว เพียงแต่เป็นปัจจัยพิจารณาเท่านั้น ขึ้นกับนโยบายนายกฯ ศบค.และรัฐบาล

พล.อ.ณัฐพลยังยอมรับว่ามีกฎหมายอื่น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพยายามปรับปรุงและพัฒนาพ.ร.บ.โรคติดต่อ ให้ตอบสนองต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ถ้ากฎหมายนี้เสร็จก็พร้อมมาแทนพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ และพร้อมปรับไปใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข

ศบค.จบภารกิจตามพรก.ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศบค.ต้องจบภารกิจไปด้วยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า หากไม่ได้บังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศบค.ก็ต้องจบภารกิจไป แต่ไม่ได้จบหรือหายไปจากระบบ อาจแปรสภาพเป็นระบบอื่นที่มีกฎหมายใหม่รองรับได้ ซึ่งกฎหมายใหม่ที่จะรองรับ รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่ว่าต้องตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ขอประชาชนอย่าเป็นห่วง ถ้าไม่มี ศบค. แล้วจะรับมือโควิดได้หรือไม่ ขอยืนยันว่ากฎหมายใหม่รับมือได้แน่นอน

พล.อ.ณัฐพล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กฎหมายใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยหากระงับการบังคับใช้พ.ร.ก.ในช่วงนี้กฎหมายเก่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ แต่กฎหมายใหม่นั้นสามารถรองรับสถานการณ์ได้ ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาตนคิดว่าเพียงพอ และบางทีอาจดีกว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยซ้ำ เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีแต่ความเข้ม ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกกรณี แต่กฎหมายใหม่ตอบโจทย์ได้ทุกกรณี เพราะกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทราบเรื่องดีที่สุดเป็นคนเสนอว่าอะไรคือปัญหา

เร่งรัดร่างกม.ใหม่มาบังคับใช้แทน

“พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีแต่ความเข้มแข็งแต่ไม่ได้ตอบโจทย์ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินเราใช้ทุกกรณี แต่พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข ตอบโจทย์โรคติดต่อ ทั้งนี้ รัฐบาลเร่งกฎหมายอยู่ เพราะทราบกระแสสังคมว่าที่ผ่านมาการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมโรค ไม่ได้มีผลกระทบประชาชนมาก แต่ทราบดีด้านความรู้สึก ประชาชนไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งรัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจ จึงพยายามเร่งรัดปรับปรุงกฎหมายใหม่ฉบับนี้ให้ทัน ถ้าถึงเวลาจริงๆแล้วไม่ทันก็ค่อยมาว่ากันอีกที ศบค. หรือศปก.ศบค.อยากเตรียมการเอาไว้ให้พร้อม เมื่อรัฐบาลสั่งเราก็ส่งมอบได้ทันที เพราะเพียงแปรสภาพ ศบค.เท่านั้น ส่วนรูปแบบการแปรสภาพแล้วแต่กระทรวงสาธารณสุขและทีมงานของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าจะใช้รูปแบบศบค.ปัจจุบันไปประยุกต์ใช้ หรือจะใช้แบบอื่นเลย”พล.อ.ณัฐพลกล่าว

สธ.ไม่หนักใจภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ติดเชื้อพุ่ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึง 900 คนจะทบทวนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เราดูอยู่ทุกวัน ซึ่งศปก.ศบค.ระชุมร่วมกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แบบวันเว้นวัน เพราะนายกฯสั่งให้ติดตามใกล้ชิด ซึ่งตัวเลขติดเชื้อ 900 คน ยอมรับว่าเป็นจำนวนที่มาก แม้จะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่ในแง่กระทรวงสาธารณสุขไม่น่าหนักใจ เนื่องจากปัจจุบันต้องปรับใช้จาก Pandemic หรือการระบาดใหญ่ เป็น Endemic หรือระบาดเฉพาะถิ่น ซึ่งหลายประเทศปรับตามในสภาพนั้น ฉะนั้นอนาคต ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่ใช่เรื่องความเร่งด่วนสูงสุด เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าพิจารณามาตรการต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตและขีดความสามารถของจำนวนเตียงที่รองรับ และดูลักษณะการระบาดว่าเป็นวงกว้างหรือเฉพาะจุด หากเป็นเฉพาะจุดควบคุมได้ก็ไม่ใช่ปัญหา

เข้มแคมป์คนงานสูงสุดหวั่นระบาดซ้ำ

วันเดียวกัน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงการเฝ้าระวังสังเกตสถานการณ์ระบาดรายวันพบว่า แคมป์ก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้คนงานเริ่มกลับมาปฏิบัติงาน ทำให้เกิดความกังวลใจของคนในพื้นที่ใกล้เคียงว่าอาจเสี่ยงทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงขอให้เจ้าของกิจการหรือนายจ้าง มีมาตรการควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลภายนอก รับ-ส่งคนงาน ควบคุมดูแลความสะอาดที่พักคนงาน พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องน้ำ อุปกรณ์สิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เว้นระยะห่างช่วงทำงานและขณะพัก จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ คุ้มเข้มสวมหน้ากากตลอดเวลา รวมทั้งคัดกรองเบื้องต้น พร้อมสังเกตอาการป่วยของคนงาน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการหรือนายจ้างควรให้คนงานในแคมป์ประเมินความเสี่ยง ผ่าน“ไทยเซฟไทย”ของกรมอนามัย หากเป็นผู้เสี่ยงสูง เช่น สัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อทั้งที่มีและไม่มีอาการ ผู้ที่เริ่มมีอาการสงสัยว่าติดเชื้อ ควรตรวจด้วยชุดตรวจโควิด หรือ Antigen Test kit (ATK) เพื่อคัดกรองเบื้องต้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกัน แยกใช้อุปกรณ์ส่วนตัว งดเดินทางหมั่นล้างมือเป็นประจำ ทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่จับร่วมกันบ่อยๆ ป้องกันติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดไปยังสมาชิกในครอบครัวภายในแคมป์ก่อสร้าง

ไทยโควิด3สายพันธุ์-เดลต้าครองเมือง

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวความคืบหน้าการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิดในประเทศไทยว่า สายพันธุ์ที่อยู่ในไทยวันนี้มี 3 สายพันธุ์คือ อัลฟา เดลตา และเบตา โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา 1,500 ตัวอย่าง พบว่า เป็นอัลฟา 75 ตัวอย่าง เดลตาพบ 1,417 ตัวอย่าง และเบตา 31 ตัวอย่าง โดยภาพรวมประเทศ 93% เป็นเดลตา เฉพาะในกรุงเทพฯ เป็นเดลตาสัดส่วน 97.6% ส่วนภูมิภาคสัดส่วนอยู่ที่ 84.8% ดังนั้น สถานการณ์ปัจจุบันเดลตาครองเมือง โดยเดลตา พบทุกจังหวัดครบทั้งหมด แต่ละสัปดาห์พบมากพบน้อยต่างกันไป ส่วนสายพันธุ์เบตายังจำกัดวงอยู่ภาคใต้ ที่เคยเจอในกทม. และบึงกาฬ จบไปแล้ว ไม่พบจังหวัดอื่น โดยสัปดาห์ล่าสุดพบในเขตสุขภาพที่ 12 คือ นราธิวาส 28 ราย ปัตตานี 2 ราย และยะลา 1 ราย

ตรวจหาเชื้อแล้ว15ล้านตัวอย่าง

“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนปัจจุบันตรวจไปแล้วเกือบ 13 ล้านตัวอย่าง ด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR ซึ่งมีส่วนที่ไม่ได้รายงานเข้าระบบจำนวนหนึ่ง ในช่วงชุลมุนมากๆ บางห้องปฎิบัติการอาจไม่ได้รายงานข้อมูลครบถ้วนเข้าใจว่าอาจถึง 15 ล้านตัวอย่างแล้ว นับเป็นตัวเลขไม่น้อย ยิ่งช่วงหลังระบาดมากก็ตรวจามากขึ้น” นพ.ศุภกิจ กล่าว

WHOจัดชั้น4สายพันธุ์โควิดอน่าห่วง

และว่า วันนี้ในระดับโลกจัดชั้นการกลายพันธุ์ ซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยการกลายพันธุ์ขณะนี้มีเป็นร้อย เป็นหางว่าว แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดชั้น เริ่มต้นเรียกว่า การกลายพันธุ์ที่อยู่ในความสนใจ เช่น อาจกลายพันธุ์ที่อาจแพร่ได้ หรือดื้อต่อวัคซีน หรือผิดปกติมากขึ้น ก็จะจัดชั้นเป็น VOI ก่อน ส่วนชั้นที่น่าห่วงและกังวล VOC ขณะนี้มีอยู่ 4 ตัวคือ อัลฟา เดลตา เบตาและแกมมา ซึ่งแกรมมาเป็นบราซิลเดิม แต่ไม่พบในไทย เคยพบในสเตจควอรันทีน แต่ควบคุมได้ และไม่หลุดออกไป ดังนั้น ไทยจึงมีอัลฟา เดลตา และเบตาโดยลักษณะแตกต่างกัน ส่วนสายพันธุ์มิว (Mu)ยังถูกจัดชั้นว่า น่าสนใจ แต่ยังไม่ใช่สายพันธุ์น่ากังวล รวมไปถึงสายพันธุ์ C.1.2 ก็ยังไม่ได้ถูกจัดชั้นอะไรทั้งหมด และยังไม่ได้ถูกจัดชื่ออะไร

ไทยยังไม่พบสายพันธุ์มิวแต่ต้องจับตา

นพ.ศุภกิจกล่าวอีกว่า สำหรับสายพันธุ์ C.1.2 ที่มาก่อนหน้านั้น โดยนักวิทยาศาสตร์ตรวจพบมีการกลายพันธุ์ในจุดตำแหน่งที่เคยอยู่ในเบตา แกรมมา เช่น E484K พวกนี้หลบภูมิคุ้มกัน หรือพูดง่ายๆดื้อวัคซีน โดยมีทั้งส่วน N501Y ของอัลฟาเดิมที่แพร่เร็ว ดังนั้น การกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง ทำให้ C.1.2 ต้องจับตาดู แต่ขณะนี้ยังค่อนข้างจำกัด ทั้งโลกพบมากในแอฟริกาใต้ พบ 117 รายคิดเป็น 85% ของที่เจอทั้งหมด สายพันธุ์นี้มีอัตรากลายพันธุ์สูงกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ยังไม่ต้องกังวล พบเราเจอ 3% เท่านั้น สายพันธุ์ส่วนใหญ่ยังเป็นเดลตา ที่สำคัญไทยเฝ้าระวังมาตลอด ปัจจุบันยังไม่เจอสาพพันธุ์นี้ในประเทศ ส่วนสายพันธุ์ Mu (B.1.621) ทั่วโลกยังพบน้อยมาก 0.1% แต่ยังไม่ได้พบในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ในโคลัมเบียเจอเป็นที่แรก ซึ่งเจอสายพันธุ์ Mu ประมาณ 40% อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบแล้วใน 39 ประเทศ องค์การอนามัยโลกจัดอันดับเป็น VOI และ ขอย้ำว่า สายพันธุ์ Mu ยังต้องติดตามต่อไป เพราะมีการกลายพันธุ์ที่พบว่า หลีกหนีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติได้ดีกว่าเดิม เนื่องจากพบการกลายพันธุ์ที่ส่งผลให้ Antigenic change ได้แก่ E484K แต่ยังไม่มีรายงานเรื่องอื่น

ตั้งเป้าตรวจสายพันธุ์หมื่นตัวอย่างธ.ค.นี้

นพ.ศุภกิจกล่าวด้วยว่า สำหรับไทยเราเฝ้าระวังสายพันธุ์สัปดาห์ละพันกว่าราย รวมการตรวจ RT-PCR และตรวจจีโนมทั้งตัว ซึ่งการสุ่มตรวจแบบนั้นเป็นลักษณะหาของใหม่ที่จะหลุดเข้ามา แต่อาจไม่ได้บอกเป็นตัวแทนการติดเชื้อในไทย จึงจะขอปรับกลุ่มเป้าหมาย และตรวจให้มากขึ้น เพื่อให้เห็นความชุกของไทย จากอดีตตรวจกรุงเทพฯมาก ตรวจต่างจังหวัดน้อยกว่า อาจไม่เหมาะในการบอกภาพรวม จึงต้องปรับกลุ่มเป้าหมาย และข้อมูลของเราต้องเป็นตัวแทนภาพรวมของประเทศได้ โดยจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จากนี้ถึงธันวาคม 2564 จะตรวจให้ได้ 1 หมื่นตัวอย่าง จะมีน้ำยาให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์แต่ละพื้นที่ไปตรวจ จากนั้นจะประสานศูนย์ข้อมูลระดับโลก หรือ GISAID โดยจะรายงานทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งการรายงานบ่อยๆ อาจเจอสายพันธุ์ที่พบในไทยได้ อย่าตกใจ

อาสาสมัครวัคซีนใบยาฯครบจำนวนแล้ว

วันเดียวกัน มีความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ใบยาฯ ซึ่งเปิดรับอาสาสมัครวัคซีนใบยาซาร์สโควีทูแวกซ์ 1 (Baiya SARS CoV-2 Vax 1) สำหรับทดสอบวัคซีนระยะที่ 1 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสถานเสาวภา สภากาชาดไทย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน โดยรับอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี และมีอายุระหว่าง 18 – 75 ปี ซึ่งผู้สนใจสมัครได้โดยแกน QR code และกรอกข้อมูลทำแบบประเมินตนเอง หรือกดลิงก์ https://baiya-recruit.clinsearch.co.th/register โดยอาสาสมัครต้องไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน ช่วงบ่ายวันเดียวกันปรากฎว่า บริษัท ใบยา แจ้งว่า ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครโครงการวิจัยวัคซีนใบยาซาร์สโควีทูแวกซ์ 1 ครบตามจำนวนที่กำหนดแล้ว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ครม.’เห็นชอบขยาย‘พรก.ฉุกเฉิน’จังหวัดชายแดนใต้ 3 เดือน ‘ครม.’เห็นชอบขยาย‘พรก.ฉุกเฉิน’จังหวัดชายแดนใต้ 3 เดือน
  • ครม.ต่อ‘พรก.ฉุกเฉิน’ 3 จังหวัดชายแดนใต้ถึง 19 ม.ค.68 ครม.ต่อ‘พรก.ฉุกเฉิน’ 3 จังหวัดชายแดนใต้ถึง 19 ม.ค.68
  • ยกฟ้อง‘พันธมิตรฯ’คดีบุกยึดสนามบิน ลงโทษปรับ 2 หมื่น 13 คน ฐานฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน ยกฟ้อง‘พันธมิตรฯ’คดีบุกยึดสนามบิน ลงโทษปรับ 2 หมื่น 13 คน ฐานฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน
  •  

Breaking News

'หมอวรงค์'สอนมวย'นพดล' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง'คนชั้น 14'

'สืบตม.อุบลฯ'ลุยตรวจสถานประกอบการ สกัดกันค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย

'พิพัฒน์'ขับเคลื่อนความร่วมมือแรงงานอาเซียน พบ'รมว.เกาหลี–มาเลเซีย' เตรียมยกระดับแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล

'สมเด็จพระสังฆราช'ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved