ศาลไต่สวนคำร้อง ขอเพิกถอนประกันตัว 4 แกนนำคณะราษฎร"อานนท์-รุ้ง-ไมค์-แอมมี่" หลังอัยการโจทก์ยื่นคำร้องกระทำผิดเงื่อนไขศาล กรณีชุมนุมปักหมุดสนามหลวงเมื่อ 19-20 กันยาฯปี 63
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพิจารณาคดีปักหมุดสนามหลวง หมายเลข ดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ กับพวกรวม 22 คน และไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัว นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน , น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล โฆษกกลุ่มราษฎร , นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ จำเลยร่วมในคดี กรณีการชุมนุม "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ที่นำโดย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 19 - 20 กันยายน 2563 (ปักหมุดสนามหลวง ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 , 116
ขณะเดียวกัน มีมารดาของนายพริษฐ์ , มารดาของ น.ส.ปนัสยา และมารดาของนายไชยอมร เดินทางมาศาล เพื่อรับฟังการพิจารณาและไต่สวนคดีด้วย
ขณะที่ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ "หมอลำแบงค์" หนึ่งในจำเลย ได้มีเหตุกระทบกระทั่งไม่พอใจเจ้าหน้าที่ แสดงอาการไม่พอใจบริเวณบันไดทางขึ้นศาล จนเจ้าหน้าต้องเข้าเจรจาให้สงบสติอารมฌ์
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลนัดพิจารณาคดีนายพริษฐ์ และเพื่อนอีก 22 คน คดีปักหมุดคณะราษฎร โดยนัดแนวทางการสอบพยาน และกำหนดระยะเวลาสืบพยานกี่ปาก และเมื่อไหร่บ้าง นอกจากนี้ ศาลยังนัดไต่สวนคำร้องที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว นายอานนท์ , นายภาณุพงษ์ , น.ส.ปนัสยา และนายไชยอมร ซึ่งวันนี้เราคงขอฟังเหตุผลจากอัยการโจทก์ ว่าจะถอนประกันเรื่องอะไร
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งถอนประกันไปแล้ว 2 คน คือ นายพริษฐ์ และนายภาณุพงศ์ ทนายเตรียมจะสอบถามว่า คำสั่งที่ถอนประกันไปโดยไม่ฟังเหตุผลของจำเลย เป็นเพราะอะไร เราคงจะขอให้ศาลรื้อฟื้นขึ้นมาพิจาณาใหม่ อยากฟังเหตุผลของศาลที่ชัดเจน เพราะเราเห็นว่าลูกความเราไม่ได้ทำผิดอะไร เมื่อให้ประกันไปแล้ว การถอนประกันควรฟังสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถ้าจำได้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ศาลถอนประกันไปโดยให้เหตุผลว่า คำร้องของอัยการโจทก์นั้นฟังได้ชัดเพียงพอแล้ว ซึ่งผิดหลักการพิจารณาคดีอาญาที่ต้องฟังทั้ง 2 ฝ่าย เพราะการถอนประกันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ถือว่าเป็นการพิจารณาคดี
"การกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่น ถ้ากลัวหลบหนีก็กำหนดเขตเดินทาง หรือห้ามเข้าสถานที่ที่ไม่เหมาะสม แต่ในกฎหมายเขียนว่า ต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระอันไม่จำเป็นให้กับผู้ต้องหาหรือจำเลย เพราะเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ อย่างกรณีเงื่อนไขที่เรารับ เพราะถือว่าเงื่อนไขพวกนี้ถ้ามันผิดต่อกฎหมาย เราก็อาจจะต้องไปร้องศาลรัฐธรรมนูญหรืออะไรกันต่อไป เช่น ตอนนี้มีการออกเงื่อนไขกำหนดกับผู้ชุมนุมหลายคน เช่น มีการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม และกำหนดห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 15.00 - 04.00 น.ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่ทำกัน เพราะผู้คนต้องทำมาหากิน ต้องเรียนหนังสือ หากศาลจะสั่งก็สั่งไปเลยว่าไม่ให้ออกไปไหน บางครั้งเขาต้องกลืนเลือดที่จะยอมรับเงื่อนไขที่ไม่ถูกต้อง เพราะคนมีอำนาจบอกว่าถ้าคุณไม่รับก็ไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องให้ประกัน แต่ความจริงแล้วคงต้องปฏิรูปหรือแก้ไขเรื่องคำสั่งประกันพวกนี้อีกมาก" นายกฤฎางค์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่นั้น นายกฤฎางค์ กล่าวว่า ตนกังวลใจทุกๆ วัน แต่เมื่อรับเป็นทนายของเขาแล้ว ก็คงต้องฟังเหตุผลของเขา เมื่อลูกความยืนยันว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ เราก็ต้องการพิสูจน์ อาจจะยากลำบากนิดหน่อย ถ้าผิดก็ติดคุก ถ้าชนะคดีก็เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ทั้งสื่อมวลชนที่จะมาใช้สิทธิ์ในการเคลื่อนไหวในระหว่างที่รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนขอศาล ว่าจริงๆ แล้วให้เด็กๆ ได้ออกมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ดีกว่า ถ้าเราจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความผิดตามมาตรา 112 จริงหรือไม่ หรือเป็นกรณีที่รัฐเอามาตรา 112 มากลั่นแกล้งเด็ก
ด้าน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่า พวกน้องๆ อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการติดโควิด และเป็นอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติ เนื่องจากเขายังต่อสู้คดีอยู่ จึงอยากให้ศาลพิจารณาให้ประกันตัวเพื่ออกมาต่อสู้คดี พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ส่วนกรณีไต่สวนคำร้องขอถอนการประกันตัวทั้ง 4 คน หากมีการถอนประกันในวันนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าเสรีภาพของเราสูญสิ้นเกือบหมด สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานเสียหาย จึงอยากให้มีการไต่สวนรายละเอียดเรื่องสิทธิพลเมือง ในระบอบประชาธิปไตย การชุมนุม การแสดงออกความคิดเห็นต่างๆ เป็นสิทธิที่สำคัญที่สุด
ส่วน นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ กล่าวว่า สิ่งที่เรากังวลคือ เราได้รับอนุญาตให้นำญาติเข้าได้ 1 คนเท่านั้น ถือว่าเป็นการขัดต่อสิทธิที่เราจะได้รับการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย ไม่ต่างอะไรกับการพิจารณาโดยลับ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าการมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสังคมใหม่ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย สุดท้ายเราก็ยินยอมที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ศาลควรจะให้ความยุติธรรมในการที่เราจะได้รับการพิจารณาโดยเปิดเผย สาธารณชนต้องสามารถเข้ารับฟังการพิจาณาคดีได้ในทุกขั้นตอน นี่เป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เราเป็นห่วง และกังวลในเรื่องนี้ อาจจะต้องแถลงต่อศาลต่อไปว่ากรณีเราถือว่าถูกละเมิดสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย - 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี