ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว"ไอลอว์"ฟ้องนายกฯกับพวก เพิกถอนพรก.ฉุกเฉิน ศาลชี้ไม่มีเหตุผลเพียงพอ จำเป็นต้องบังคับใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว คดีที่ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ (iLAW) กับพวกรวม 3 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 5 คน เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ฉบับที่ 3 ข้อ 2 - 4 ฉบับที่ 5 และฉบับที่ 11 และให้ไม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้น และขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสาม รวม 4.5 ล้านบาท และขอให้ศาลไต่สวนคำร้องฉุกเฉินขอคุ้มครองชั่วคราว โดยขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวและห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่ง หรือการกระทำใดๆ ที่สั่งการตามประกาศดังกล่าวมาใช้กับโจทก์ทั้งสาม และประชาชนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ศาลแพ่งไต่สวนพยานหลักฐานแล้วมีคำสั่งสรุปว่า จำเลยที่ 1 ออกข้อกำหนดดังกล่าวห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกันในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปัจจุบันยังพบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบุคคลกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ อีกทั้งสถานการณ์ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จำเลยที่ 2 จึงออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบมาบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเว้นระยะห่าง และการป้องกันการสัมผัสของบุคคลอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศกระจายไปในวงกว้างและสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งปัจจุบันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังพบว่ามียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต แม้โจทก์ทั้งสามจะอ้างว่าไม่มีหลักฐานใดชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดมาจากการชุมนุมสาธารณะ แต่การรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมของบุคคลจำนวนมากย่อมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดได้ง่าย เจือสมกับที่โจทก์ที่ 2 เบิกความว่ารู้สึกกลัวการแพร่ระบาดของโรค ต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือและหน้ากากอนามัยในการมาชุมนุม ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ยังมีความจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศกระจายไปในวงกว้าง
กรณีตามคำร้องของโจทก์ทั้งสามเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว จึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอและยังไม่มีความจำเป็นก่อนพิพากษา ให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสาม (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ไอลอว์’ฟ้องดะ‘บิ๊กตู่’ ขอเพิกถอนมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรียก 4.5 ล้าน)
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี