สยบลูกทีมชิงพื้นที่ลงสส.
‘จุรินทร์’คิดบวก
บอก‘ประชาธิปัตย์’ขาขึ้น
ทุกอย่างจบลงที่มติพรรค
‘ธรรมนัส’แจงโพลล์พปชร.
“จุรินทร์” ปัดเคลียร์ใจ “นิพิฏฐ์-ราเมศ” ปมคัดเลือกผู้สมัครสส.พื้นที่ภาคใต้ คิดบวก เรื่องปกติ คนแย่งลง กระแสพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น ย้ำทุกอย่างจบที่มติพรรค ที่ยึดมากว่า 70 ปีเชื่อทุกคนเข้าใจ ด้านธรรมนัส อธิบายโพลล์ พปชร. เพื่อประเมินจุดแข็ง-ปรับแก้จุดอ่อนเพื่อนำไปสู่ชัยชนะเลือกตั้ง ลูกทีมสายใต้ชี้ไร้สาระ โว กระแสบิ๊กตู่ยังมาแรง
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป.ออกมาแสดงความไม่พอใจในการตัดสินใจในการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต2พัทลุงว่าเชื่อว่า จะไม่เป็นปัญหา มองเป็นด้านบวก หากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นว่าการหาตัวผู้สมัครของพรรค ยังอยู่ในภาวะที่มีคนปฏิเสธจำนวนมาก อีกทั้ง มีผู้ที่แสดงความจำนงจะไม่ลงสมัครหลายคน แต่มาถึงวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไป หลังมีคนรุ่นใหม่“เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ”รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ที่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจจำนวนมาก
จุรินทร์ ปัดเคลียร์/ปกติคนแย่งลง
“หากเขตไหนมีผู้สมัครเกินกว่า1คนจึงเป็นเรื่องปกติของคนที่แสดงความจำนงแล้ว อยากได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค ซึ่งสุดท้ายก็มีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้วตามข้อบังคับพรรค และที่สุดจะมีข้อยุติโดยมติพรรค ที่เป็นแนวปฏิบัติที่ทำกันมา”หัวหน้าพรรค ปชป.ย้ำ
ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกับนาย นิพิฏฐ์ หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ตอบว่า“ขอไม่พูดถึงตัวบุคคลและทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเลือกคนในตระกูลเดียวกันลงสมัครนายจุรินทร์กล่าวย้ำว่าพรรคจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครมีความเหมาะสมที่สุดซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคมีดุลพินิจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับพรรคอยู่แล้ว
ทุกอย่างจบทีมติพรรคทำมา70ปี
ส่วนกรณี นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีปัญหาการลงสมัคร ส.ส.พื้นที่จ.พังงา นายจุรินทร์กล่าวว่า“ทุกกรณี จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน “พรรคไม่ได้เพิ่งมาคิดตอนนี้ คิดมากว่า70ปี และได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง ไม่มีปัญหา พร้อมเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะสามารถหาข้อยุติได้”
“เป็นเรื่องธรรมดา หากเขตไหนมีผู้ให้ความสนใจลงสมัครหลายคน ก็จะต้องมีการแย่งกันลง แต่ยืนยันเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดรอยร้าวภายในพรรคเพราะพรรคยึดกระบวนการตัดสินใจแบบนี้มายาวนาน ไม่เช่นนั้นคงไม่ยั่งยืนมาได้ถึงวันนี้ ซึ่งที่สุดแล้วมติพรรคจะเป็นผู้ตัดสิน”นายจุรินทร์ กล่าว
โว’จุรินทร์ออนทัวร์’กระแสตอบรับดี
ด้าน นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาคอีสานและผู้อำนวยการคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคอีสานอย่างต่อเนื่องของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ภายใต้โครงการ “จุรินทร์ออนทัวร์ ภาคอีสาน ขณะนี้ได้รับการตอบรับจากพี่น้องชาวอีสานเป็นอย่างดีในเรื่องนโยบายประกันรายได้เกษตรกร รวมถึงทุกนโยบายของรัฐมนตรีทุกกระทรวงที่พรรครับผิดชอบ นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้สั่งการรัฐมนตรีเเละบรรดาเครือข่ายพรรค ให้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคอีสาน
ปชป.เตรียมอีสานพร้อมสู้ศึกลต.
นายภูมิสรรค์ยังกล่าวอีกว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำภาคอีสานได้ขอบพระคุณพี่น้องชาวอีสานมาที่สนับสนุนและให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์ในการทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องปะชาชน จากนี้ไปจะเริ่มทยอยเปิดตัวผู้สมัครภาคอีสาน และทีมภาคอีสานซึ่งผสมผสานของคนทุกรุ่น ทุกวัย ในการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งและประกาศนโยบายระดับจังหวัด นโยบายเฉพาะถิ่น ตามอัตลักษณ์ของพื้นถิ่นนั้นๆโดยการระดมความคิดเห็นพี่น้องชาวอีสาน และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอาชีพ เพื่อให้ได้นโยบายที่ดีที่สุดจากคนในพื้นที่ที่ถือเป็นเจ้าของบ้านโดยตรง
“ส่วนตัวมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ เเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ในขณะนี้ได้นำพาพรรคสู่ยุคขาขึ้น โดยนายจุรินทร์มีภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือกอบกู้พรรค ให้กลับมาสู่ความนิยมที่ยั่งยืนเเละเป็นที่พึ่งหวังของพี่น้องชาวไทยได้ตลอดไป”นายภูมิสรรค์ กล่าว
‘ธรรมนัส’เคลียร์ทำโพลวัดเรตดิ้งสส.
ที่ จ.นครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.เขต 1จ.พะเยา ลขาธิการพรรคพลังประชาชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.นครราชสีมา ถึงการทำโพลล์ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐทั้งประเทศหรือภาคอีสานว่าโพลล์ที่เราจะนำมาทำจะต้องเป็นโพลล์ที่มีมาตรฐาน และเป็นสำนักโพลล์ที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนซึ่งการจัดทำโพลล์เป็นเรื่องปกติที่พรรคต้องทำ เพื่อประเมินการทำงานของสมาชิกพรรคทั้งผู้สมัคร ทั้ง ส.ส.ทั้ง ว่าที่ผู้สมัครว่า ในอนาคตพรรคเราชนะ จะต้องปรับปรุงเรื่องอะไรบ้าง ในการหาจุดอ่อนของพรรค เพื่อเราไปแก้ไข พรรคเราจะได้มีความเข้มแข็งกลายเป็นสถาบันอย่างที่หัวหน้าพรรคต้องการ
ยังอุบไต๋หนุน’ลุงตู่’นั่วนายกฯอีกสมัย
เมื่อถามว่าการจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ เนื่องจากพรรคเราเป็นสถาบันการเมือง การจะทำอะไรก็ตาม อย่าพูดไปโดยส่งเดช ฉะนั้น จะต้องผ่านกรรมการบริหารพรรค นำเสนอท่านหัวหน้าพรรคฯท้ายสุดจะต้องฟังจากปากท่านหัวหน้าพรรคโดยตรง ลูกพรรค ไม่ควรไปพูด
ยันทุกพรรคต่างก็ทำโพลเรื่องปกติ
เมื่อถามว่าการทำโพลล์เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐได้ส.ส.มากที่สุดเป็นพรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราอย่ามองอย่างนั้น พรรคการเมืองทุกพรรคเขาทำโพลล์เป็นเรื่องปกติของการเมือง ส่วนถ้าจะมีส.ส.จะน้อยใจบ้างนั้นจะน้อยใจเรื่องอะไรส.ส.ที่เข้าใจ เขาไม่น้อยใจหรอก จริงๆแล้วถ้าเป็นตนก็จะถือว่า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง จ.พะเยา ตนก็ได้ทำโพลล์ให้ตัวเองตลอด ตนชอบโพลล์ที่มีตำหนิเพื่อจะได้ปรับปรุงตัวเอง นี่คือ สิ่งที่ตนยืนยันในการเป็น ส.ส. ตนเชื่อว่าพี่น้อง ส.ส.ที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็เช่นเดียวกัน ก็อยากจะฟังว่าเรามีจุดอ่อน จุดด้อยตรงไหนจะได้ปรับปรุงตัวเอง
แจงทำโพลเพื่อปรับแก้จุดอ่อน
“การทำโพลล์ คือ การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ชื่อบอกชัดเจนว่า เป็นตัวแทนของพี่น้องปวงชนชาวไทย ดังนั้น การทำโพลล์ก็เป็นสิ่งที่จะบอกตัวเองว่าเราผ่าน หรือไม่ผ่าน เราอ่อนตรงไหนและจะต้องปรับปรุงตรงไหน เพื่อที่จะนำนโยบายของพรรค ไปสู่ภาคการปฏิบัติ เป็นประโยชน์กับพี่น้องในแต่ละเขต หรือแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด ส่วนผลโพลล์นั้น ยังไม่ออกมาจะไปรู้ได้อย่างไร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
‘ชัยวุฒิ’รับทุกพรรคก็ทำโพล
วันเดียวกันที่พระลานพระราชวังดุสิต นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการทำโพลประเมินความนิยมในการทำงานของ ส.ส.ในพรรคว่า ทุกพรรคการเมือง ก็ทำโพลมาตลอดอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรค ไม่ได้ไปออกสื่อ และไม่ทราบว่าได้ข้อมูลดังกล่าวมาได้อย่างไร
สส.เมืองคอนพปชร.ชี้โพลไร้สาระ
ด้านนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐทำโพลสำรวจ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ผลปรากฏว่า ส.ส.ภาคใต้มี 14 คน แต่คะแนนผ่านเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นว่า ส่วนตัวไม่ได้สนใจ มองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่า ประเด็นนี้ จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเนื่องจากคะแนนไม่ผ่านนั้น ตนไม่ได้หวั่นไหวและไม่เห็นว่าส.ส.ใต้ของพรรค จะมีใครรู้สึกวุ่นวายคิดอะไรกับเรื่องนี้ คนทำเขารู้ดีว่าทำเพื่ออะไร ทำไมต้องมาทำในพื้นที่ภาคใต้ ถามว่าบ้านเกิดตัวเอง ทำไม ไม่ทำ
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะสร้างจุดแคลงใจกันในพรรคหรือไม่นายสัณหพจน์ตอบว่า“ใครจะยึดพรรคก็ให้ยึดไปแต่ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนตัดสินใจผมไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไรคนที่ทำเขารู้ว่าเขาต้องการอะไร”
ลั่น‘ทองแท้ ก็คือ ทองแท้’
เมื่อถามต่อว่า เกิดเหตุแบบนี้แล้ว เลือกตั้งสมัยหน้ายังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อหรือไม่ นายสัณหพจน์ กล่าวว่าตนเชื่อว่าได้ลงพื้นที่มากที่สุด ชาวบ้านรัก และมั่นใจในตัวเรา ที่ผ่านมาก็มีการทำผลการสำรวจมาตลอด โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้งส.ส.ที่มีชื่อได้เก้าอี้ ส.ส.ใต้ตอนนั้น มีแค่คนเดียว แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมา ก็ได้ส.ส.10กว่าที่นั่งจึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร
“ชาวบ้านเขารู้ เขาไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าใครทำอะไรเพื่อพื้นที่ ผมสาบานว่าที่ได้เป็น ส.ส.ครั้งนี้ ไม่เคยซื้อเสียงเลยสักบาท มั่นใจว่าทองแท้ก็คือทองแท้ ไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรน แต่ต้องนิ่ง และชัดเจน ไม่เต้นตามเรื่องต่างๆปัญหาที่เกิดนี้คือคนต้องการอำนาจ”
โวกระแส“บิ๊กตู่”ที่ใต้ยังดีไม่มีสู้ได้
นายสัณหพจน์ยังระบุว่า“ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่มีปัญหา ผมไม่หนักใจ ไม่ยึดติดกับหัวโขนแค่ได้ทำงานให้กับประชาชนก็พอใจแล้วและมั่นใจว่ามีผลงานมากมาย จะอยู่พรรคไหนก็ได้เพราะคนใต้เอาที่ตัวบุคคล ถ้าพรรคดีแต่ไม่ทำงาน เขาก็ไม่เอา ตอนนี้กระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯในพื้นที่ภาคใต้ ยังดีอยู่ ท่านยอมเหน็ดเหนื่อย อดทนทำงานเพื่อประเทศ ไม่มีใครเข้มแข็งกว่าพล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี