‘พท.’จัดทัพ! สั่งสมาชิกไปศึกษาแก้ม.112 อ้างเน้นที่กระบวนการบังคับใช้กม. ตั้งกก.กลั่นกรอง’วาระ-เนื้อหา’ รับจ้อเปิดประชุมสภาฯ ขู่เตือน ‘ครม.’ โดดร่มชิ่งตอบกระทู้ เจอฟ้องศาลแน่

2 พฤศจิกายน 2564  ที่พรรคเพื่อไทย (พท.)นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานวานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงผลการประชุมส.ส.พรรคพท. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงทิศทางการทำงานในสภาฯ ที่จะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยจะมีปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ในส่วนของงานสภาฯ ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นหนึ่งชุด เป็นชุดกลั่นกรองวาระการประชุมสภาฯ ทุกเรื่อง เพื่อวิเคราะห์รายละเอียดในเชิงวิชาการ ศึกษาวาระต่างๆ ที่เป็นผลกระทบกับประชาชนทั้งในแง่บวกและลบ เพื่อนำไปอภิปรายในสภาฯ อย่างมีคุณภาพ มั่นใจว่ากลไกการทำงานในสภาฯ จะดีขึ้น ส่วนกระทู้ถามสดจะถูกกลั่นกรองโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการทำงานของพรรค ในส่วนขององค์ประชุม เรามีกลไกในการอำนวยความสะดวกสมาชิก ทั้งเรื่องเวลา การเดินทาง และข้อมูลต่างๆ

นายสุทิน กล่าวว่า โดยในการประชุมสัปดาห์นี้จะมีกระทู้ถามสด ซึ่งเราพิจารณาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และในที่ประชุมพรรคได้ลงมติว่า กระทู้ที่จะนำเข้าสู่การซักถาม คือเรื่องข้าว เสนอโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย ซึ่งราคาตกต่ำมากเหลืแค่ 7 บาท แต่ปุ๋ยราคา 120 บาท ส่วนกระทู้สำรอง คือเรื่องราคาน้ำมัน เสนอโดยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่มาตอบกระทู้ ส่งผลเสียต่อการตรวจสอบถ่วงดุลของฝ่ายค้าน ทำให้กระทู้ค้าง พอเลื่อนไปก็กระทบกับโควตาของพรรคอื่น

"ฝากไปยังรัฐบาลในสมัยนี้ ขอให้รัฐบาลเคารพกระบวยการทำงานของสภาฯ เคารพการถ่วงดุลตรวจสอบ หากรัฐมนตรีไม่มาตอบ ต้องเป็นมติ ครม. หากปฏิเสธดื้อๆ เท่ากับท่านทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายค้านจะไม่ยอมเหมือนที่ผ่านมา เราจะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเอาผิดรัฐบาลต่อไป” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่ าในที่ประชุมมีการหารือถึงการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คนที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ โดยนายชัยเกษมได้อธิบายและให้สมาชิกไปศึกษาแถลงการณ์ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำไปบิดเบือน และเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่มีเจตนาดี เนื่องจากกระบวนการบังคับใช้กฎหมายมีปัญหา ซึ่งเราโฟกัสจุดนี้ ส่วนจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ได้หรือไม่ ต้องพูดคุยกันหลายระดับ ซึ่งวันที่ 3 พฤศจิกายน หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมเพื่อหารือถึงเรื่องดังกล่าว ส่วนจะเข้าสภาฯ ได้หรือไม่ต้องติดตาม

ทั้งนี้ เราจะฟังเสียงประชาชนและสังคมให้รอบด้าน ฝ่ายการเมืองเสนออะไรก็ได้ แต่ต้องฟังเสียงสังคมและประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เฉพาะฝ่ายค้านหรือพรรคเพื่อไทย แต่ควรจะผลักดันกันทั้งสังคมและรัฐบาลด้วย หากสังคมคิดว่าไม่จำเป็นหรือเห็นว่าควรนำเรื่องเข้าสภาฯ ก็ต้องฟัง และยืนยันที่พูดมาจตรงนี้ คือการนำไปหารือในที่ประชุม ยังไม่พูดถึงการแก้ไข

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่พรรคพท.ผลักดันประเด็นดังกล่าวในช่วงนี้ เพราะอยากแย่งคะแนนจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นั้นนายสุทินกล่าวว่า การแย่งคะแนนไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก การที่เรานิ่งดูดายต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองไม่ควรทำ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะกลุ่มไหน พรรคไม่ควรนิ่งดูดาย

-001