เบิกเนตร!‘อัษฎางค์’เลคเชอร์วิชาพื้นฐาน กระตุกพวกถูกแหกตา ทำผิดกม.ติดคุก หมดอนาคต
15 พฤศจิกายน 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” มีเนื้อหาดังนี้...
ปฏิรูป ไม่เท่ากับ ล้มล้าง
กบฏ คือ ผู้ที่พยายามล้มล้างการปกครอง
แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะถูกจับได้เสียก่อน
นักเรียนนิสิตนักศึกษาของไทยที่ผ่านการศึกษา แต่ทำตัวเหมือนคนไร้การศึกษา เพราะฉะนั้นกลับมาศึกษาเรื่องที่ศึกษากันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาอีกครั้ง
…………………………………………………………………….
ปฏิวัติ (Revolution)
หมายถึงการยึดอํานาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตาม รัฐธรรมนูญ เป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครอง อุดมการณ์ทางการเมือง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อทางศาสนา และระบบสังคมโดยรวม
…………………………………………………………………….
รัฐประหาร (coup d’état)
หมายถึง การยึดอํานาจโดยวิธีการที่ไม่ถูกตูองตาม รัฐธรรมนูญเป็นการใช้ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน
โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่”การเปลี่ยนตัวหัวหน้ารัฐบาล หรือผู้ปกครองประเทศ” แล้วจัดตั้งคณะรัฐบาล ชุดใหม่ที่อยู่ภายใต้ผู้ก่อการรัฐประหารขึ้นมา “โดยที่รูปแบบการปกครองไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด” มีแต่ตัวผู้นําและคณะผู้นําเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป
คณะรัฐประหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง หรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพียงแต่เข้ามาทำงานในหน้าที่ผู้บริหารไม่ใช่เข้ามาเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้บริหารบ้านเมืองในช่วงหนึ่งเพียงชั่วคราว ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลชั่วคราว หรือรัฐบาลเฉพาะกาล ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
…………………………………………………………………….
กบฏหรือขบถ (Rebellion)
หมายถึง การที่กลุ่มคนพยายามทําการปฏิวัติ หรือ รัฐประหาร หรือกลุ่มบุคคลที่พยายามล้มล้างการปกครอง แต่กระทําไปไม่สําเร็จ จึงได้ชื่อว่าเป็นกบฏ
ความผิดฐานเป็นกบฏ ได้แก่
•1 ความผิดทางอาญาฐานกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร
•2 โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
•3 เพื่อล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติอำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ
•4 หรือแบ่งแยกราชอาณาจักร
•5 หรือยึดอำนาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร
…………………………………………………………………….
“รัฏฐาธิปัตย์”
หมายถึงผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองแผ่นดิน จากฐานะที่เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน อำนาจของรัฏฐาธิปัตย์นั้นต้องมีลักษณะสมบูรณ์ (absolute) มีอำนาจนั้นอยู่ในตนเอง เพราะรัฏฐาธิปัตย์คือผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดี๋ยว
รัฏฐาธิปัตย์จะทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีก ความสัมบูรณ์ของอำนาจนี้ส่งผลให้รัฏฐาธิปัตย์ออกคำสั่งใดๆเพื่อบังคับใช้แก่ไพร่ฟ้าในอาณาจักรของตนในโอกาสใดและเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ย่อมได้
คณะยึดอำนาจ ไม่ว่าคณะปฏิวัติหรือคณะรัฐประหาร จะสถาปนาตัวเองเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เพื่อแต่งตั้งผู้บริหารราชการแผ่นดิน
นอกจากนี้ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง อำนาจอธิปไตย ที่เป็นอำนาจปกครองสูงสุดของรัฐ
และ รัฏฐาธิปัตย์ ยังหมายถึง รัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งผู้ใดไม่อาจจะละเมิดได้ และกฎหมายอื่นไม่อาจจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้
ส่งผลให้คำสั่งของรัฏฐาธิปัตย์ไม่ว่าจะใช้ชื่อใดย่อมมีผลเป็น “กฎหมาย” แต่ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ”
…………………………………………………………………….
ซึ่งมีผู้เข้าใจผิดว่า องค์รัฏฐาธิปัตย์คือพระมหากษัตริย์
โดยยกตัวอย่างว่าทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร จะมีการขอเข้าเฝ้าเพื่อถวายรายงานพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเท่ากับการยอมรับในความเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ของพระมหากษัตริย์ยังคงมีอยู่ไม่ขาดตอน องค์รัฏฐาธิปัตย์ไม่ใช่คณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
พระมหากษัตริย์คือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน ผ่านทางรัฐสภา รัฐบาลและศาล
แต่ผู้มีอำนาจอธิปไตยตัวจริงคือประชาชน มิใช่พระมหากษัตริย์
ในขณะที่คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติคือ ผู้ที่ทำการสิ่งใดไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมหรืออาศัยอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจมาจากผู้ใดอีกต่อไป เป็นความสัมบูรณ์ของอำนาจ ซึ่งหมายความว่า คณะรัฐประหารหรือคณะปฏิวัติ คือ รัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้ทรงสิทธิ์ในการประกาศใช้กฎหมาย ในการบังคับใช้ในรัฐนั้นๆ อย่างสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะมีรัฐสภาหรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหรือในการปฏิวัติและการรัฐประหาร พระมหากษัตริย์ไม่ใช่ผู้มีอำนาจที่แท้จริง
…………………………………………………………………….
สรุป
•1 ก่อน 2475 รัฏฐาธิปัตย์คือ พระมหากษัตริย์
แต่หลังจาก 2475 เป็นต้นมา รัฏฐาธิปัตย์ คือคณะปฏิวัติหรือคณะรัฐประหาร
เพราะอำนาจของรัฏฐาธิปัตย์นั้นต้องมีลักษณะอำนาจที่สมบูรณ์อยู่ในตนเอง (absolute) ดังนั้นรัฏฐาธิปัตย์คือผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดี๋ยว
•2 คณะรัฐประหาร คือการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหาร หรือก็คือการล้มล้างรัฐบาล เท่านั้น
•3 คณะปฏิวัติ คือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือล้มล้างการปกครอง
•4 ส่วนกบฏ คือ ผู้ที่พยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือล้มล้างการปกครอง แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะถูกจับได้เสียก่อน
…………………………………………………………………….
เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่วิชาที่สอนในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก แต่เป็นวิชาพื้นฐานซึ่งบรรจุอยู่ในวิชาสังคมศาสตร์ ที่สอนกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา และเรียนซ้ำๆ จนถึงมหาวิทยาลัยก็สอนอยู่ในหมวดวิชาพื้นฐานของเด็กปี 1 หรือปี 2 แต่กลับไม่มีภูมิความรู้เอาไว้ป้องกันตนที่จะโดนแหกตาปลุกปั่น สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง จนถึงขั้นทำผิดกฎหมายต้องติดคุกติดตาราง หมดอนาคต
ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่สุดที่ต้องทำในทันทีคือ การปฏิรูปการศึกษา
…………………………………………………………………….
อัษฎางค์ ยมนาค
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี