“นิกร” ยึดแนวทางกฎหมายลูกเลือกตั้งนับคะแนน เหมือนรธน.50 ปิดช่องระบบ MMP พร้อมใช้ระบบกึ่งไพรมารี่โหวต เหมือนปี62
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการเสนอร่างการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองภายหลังโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่า ต่อจากนี้เราจะเดินหน้าทำกฎหมายลูกทั้งสองฉบับได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการตกลงกันว่าให้แต่ละพรรคต่างคนต่างยื่น แต่ตอนหลังวิปรัฐบาลมาคิดร่วมกันว่า ให้ยื่นรวมกันดีกว่า จึงตั้งคณะกรรมการที่มีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้งนี้หลักการในการแก้ไขไม่มาก โดยจะแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข โดยจะแก้เรื่องวิธีการนับคะแนนที่จะคล้ายรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แก้ไขปี 2554 คือการรวมคะแนนทั้งประเทศและมาหารรวมด้วย ส.ส. 100 คน ดังนั้นรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 92 ที่ระบุว่า ส.ส.พึงมีจึงไม่เกิดผลอะไร ซึ่งหมายความว่า การนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) จึงใช้ไม่ได้ และพรรคชาติไทยพัฒนาก็จะเสนอร่างแก้ไขไปในแนวทางนี้ เพื่อเสนอเป็นร่างเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคไหนเห็นต่างก็ไปแปรญัตติ และคิดว่าจะมีของฝ่ายค้านอีก 2 ร่างก็ต้องไปดูกันว่าจะแก้ไขอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เสียเปรียบในการใช้วิธีนับคะแนนแบบรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แก้ไข ปี 2554 หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ไม่เสียเปรียบ เรายอมรับตั้งแต่ต้นว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่พรรคขนาดกลางและขนาดใหญ่ และตอนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นบัตรสองใบเรารู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น เพราะเราถือว่า เป็นหลังการที่ประชาชนสะดวกในการลงคะแนน ประกอบกับการเลือกตั้งบัตรสองใบ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ทำไว้ตั้งแต่เดิมเราจะปฏิเสธได้อย่างไร เชื่อว่า พ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะไม่มีปัญหา
นายนิกร กล่าวว่า ส่วนที่จะมีปัญหาคือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขมาตราที่ระบุส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่เดิมเขียนไว้ 150 คน จะต้องแก้ให้เหลือ 100 คน รวมทั้งมองว่า การทำไพรมารี่โหวตไม่สอดคล้องกันเลย และจะเสนอแก้ไขให้เป็นกึ่งการทำไพรมารี่โหวต ให้เหมือนตอนเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้ที่มีตัวแทนทำกลุ่มหนึ่งแต่ครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่งถือว่า เป็นการพบกันครึ่งทาง
เมื่อถามว่า กฎหมายลูก 2 ร่างดังกล่าวจะเสนอสภาฯได้เมื่อใด นายนิกร กล่าวว่า จริงๆทำกันเกือบเสร็จแล้ว และให้ฝ่ายกฎหมายของสภาฯดูอยู่ และเตรียมขอความเห็นต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะรัฐบาลก็ยื่นของตัวเองด้วยเพื่อที่จะให้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ขัดกับร่างรัฐบาล ซึ่งการยื่นร่างของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะรอสักนิด เพราะขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงเลขาฯกกต.
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ากฎหมาย2ฉบับนี้จะผ่านรัฐสภาเมื่อใด นายนิกร กล่าวว่า ต้องไม่เกิน180 วัน เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ส่วนตัวคิดว่า ไม่น่าจะทำถึง
เมื่อถามว่า หาก2กฎหมายดังกล่าวแล้วเสร็จและมีการโปรดเกล้าฯลงมา ควรยุบสภาเลยหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรามีหน้าที่แค่ทำกฎหมายและรอดูไปว่า จะเป็นอย่างไร
- 004
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี