"อรรถวิชช์"ส่งทีมกม.ร้องกลับ"มาดามหลี"ใส่ร้าย ยันไม่เคยดูถูกเพศแม่ ขู่หากยังมีดราม่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด ด้าน ผอ.กกต.กทม.เตือนใช้นโยบายรัฐหาเสียง ระวังเข้าข่ายสัญญาว่าให้ พร้อมเตรียมประชุมร่วมตร.บ่ายนี้ติวเข้มหาข่าวช่วงโค้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคกล้า พร้อมด้วย นายแสนยากร สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรค เป็นผู้แทนเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กกต.) ประจำกรุงเทพมหานคร ขอให้ตรวจสอบการกระทำของ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73(5) กรณีใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมหรือไม่
นายณัฐนันท์ กล่าวว่า นางสรัลรัศมิ์ ได้พูดพาดพิง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร มีข้อความไม่ตรงกับความจริง กล่าวหานายอรรถวิชช์ ว่าดูถูกเพศแม่ และพูดไม่ตรงความจริงว่าดูถูกสิทธิผู้เลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องยื่นให้ กกต.กทม.ตรวจสอบ เพราะทำให้นายอรรถวิชช์เสียหาย
เมื่อถามว่าการกล่าวหาดังกล่าวจะมีหลักฐานใดมาชี้ได้มัดว่าใครกล่าวความจริง หรือใครพูดเท็จนั้น
นายณัฐนันท์ กล่าวว่า หลักฐานนั้นค่อนข้างง่าย เพราะว่าทางผู้สมัครอีกพรรคหนึ่งได้อ้างอิงถึงคลิปการให้สัมภาษณ์คลิปหนึ่งที่มีความยาวไม่กี่นาที โดยระบุว่ามีเนื้อหา 1 , 2 , 3 , 4 เมื่อตรวจสอบเนื้อหาแล้วไม่มีตามที่เขากล่าวอ้าง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่จริง ซึ่งก็มีผู้ที่หลงเชื่อและเข้ามาโจมตีนายอรรถวิชช์ แต่ก็ยังมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอีกหลายคนเข้าใจว่าไม่มีข้อความนี้ โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการสืบสอบสวนของทาง กกต.หากเป็นความผิดก็อาจนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและการดำเนินคดีอาญาต่อไป
"พรรคกล้าเราตั้งใจทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อยากให้นายอรรถวิชช์ มีเวลาหาเสียงเลือกตั้ง ประชาสัมพันธ์นโยบายพรรคอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ถ้ายังมีดราม่าทางการเมืองอีก หรือมีการนำเรื่องนี้ไปขยายความอีก ฝ่ายกฏหมายจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด" นายณัฐนันท์ กล่าวและว่า ส่วนพื้นที่เลือกตั้งใน จ.สงขลา และ จ.ชุมพร ก็มีร่องรอยในเรื่องการกระทำความผิดและมีหลักฐานบางส่วนอยู่ แต่จะยังไม่พูดจนกว่าจะนำเรื่องไปสู่การร้องเรียน
ด้าน นายสำราญ กล่าวว่า หลังได้รับคำร้องแล้วตามระเบียบสืบสวนไต่สวนของ กกต.นั้น ผอ.กกต.ก็จะดำเนินการตรวจสอบคำร้อง พยานหลักฐานประกอบคำร้องว่าเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ซึ่งไม่ว่า ผอ.กกต.จะมีความเห็นรับหรือไม่รับคำร้องก็จะเสนอต่อ กกต.ภายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หาก ผอ.กกต.มีความเห็นไม่รับคำร้อง แต่ กกต.มีความเห็นว่าสมควรรับคำร้อง ทาง กกต.กทม.ก็จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อ ซึ่งการสืบสวนหลังรับคำร้องไว้พิจารณา เบื้องต้นระเบียบฯกำหนดไว้ให้ดำเนินการใน 20 วัน ขยายได้ 2 ครั้งๆ และไม่เกิน 15 วัน รวมอำนาจของจังหวัดในการดำเนินการราว 50 วัน
นายสำราญ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากประเด็นที่ผู้สมัครพรรคกล้าและพรรคพลังประชารัฐร้องกันเองแล้วขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนอื่นเข้ามา ที่ระบุกันว่ามีการซื้อขายเสียง ก็ยังเป็นแค่การกล่าวอ้าง ซึ่งเรามีชุดป้องปราม หาข่าว ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ร่วมทำงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และตำรวจท้องที่ในเขตเลือกตั้งคอยดำเนินการตรวจสอบ โดยในวันนี้ช่วงบ่ายที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 ก็จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในเรื่องข้อกฎหมาย และแนวปฏิบัติต่างๆ
"ทุกครั้งที่มีข่าวว่ามีการซื้อเสียง เจ้าหน้าที่สืบสวน ชุดหาข่าว ชุดเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งมีอยู่ในพื้นที่ก็จะเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ยังเป็นแค่คำกล่าวอ้าง ยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งเราก็จะดำเนินการให้เข้มข้นขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย โดยบูรณาการร่วมกันทำงานระหว่างชุดป้องปราม หาข่าว ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีการฝังตัวอยู่ในพื้นที่ ชุดเคลื่อนที่เร็วที่มีอยู่ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่เลือกตั้ง และมีของส่วนกลางอีก 2 ชุด โดยสิ่งที่ผู้สมัคร พรรคการเมืองต้องระมัดระวังในการหาเสียงคือการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 73 ที่กฎหมายเขียนไว้ค่อนข้างครอบคลุม อย่างการหาเสียงผู้สมัครก็ต้องหาเสียงตามนโยบายที่พรรคได้ยื่นขอจดแจ้งจัดตั้งไว้ หรือถ้าจะนำนโยบายของรัฐบาลมาหาเสียงก็ต้องดูว่าเป็นผลงานที่ตนเองได้ร่วมกระทำหรือไม่ และต้องระวัง ว่าการหาเสียงต้องไม่เป็นลักษณะจูงใจ หรือสัญญาว่าจะให้ ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องที่ยากที่จะแยกแยะ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงเพราะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกร้องเรียนได้"
เมื่อถามว่า หากผู้สมัครนำนโยบายของรัฐบาล เช่นนโยบายคนละครึ่งไปขึ้นในป้ายหาเสียงของตนเองทำได้หรือไม่ นายสำราญ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะตามระเบียบ กกต.เกี่ยวกับการจัดทำป้ายหาเสียง กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าป้ายหาเสียงผู้สมัครสามารถประกอบด้วยภาพผู้สมัคร ภาพโลโก้พรรค
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี