1.เรื่องของการสอบข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิดก็เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ประกอบกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
2.เมื่อเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาโดยไม่ชักช้าและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐดังกล่าวแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโดยไม่ชักช้าเพื่อให้ทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้นต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่เพียงใด
3.ประเด็นครั้งนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรณีข้าราชการได้รับอนุมัติไปเข้ารับการอบรมหลักสูตรกฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองตามมาตรฐานที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) รับรองพร้อมกับทางราชการได้จ่ายค่าลงทะเบียนจำนวน 115,000 บาทเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 ต่อมาวันที่ 13มกราคม 2558 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือแจ้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองตามมาตรฐานที่ ก.ศป.รับรอง ถือเป็นการฝึกอบรมที่ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่สามารถเบิกค่าลงทะเบียนและค่าใช้จ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ.2549 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ หากพบว่ามีการเบิกจ่ายไม่ถูกต้องให้เรียกเงินคืนและขอให้กำหนดมาตรการในการป้องกันการเบิกค่าใช้จ่ายให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
4.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แจ้งให้กรมต่างๆ ในสังกัดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบการเบิกจ่ายในการอบรมหลักสูตรดังกล่าว หากพบว่ามีการเบิกจ่ายโดยไม่ถูกต้องก็ให้เรียกเงินคืน
5.ส่วนราชการระดับกรมแห่งหนึ่งในสังกัดกระทรวงนี้ ได้รับแจ้งจากกลุ่มตรวจสอบภายในว่า มีข้าราชการในสังกัดหนึ่งรายได้รับอนุมัติไปฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าว กรมจึงได้แจ้งให้ผู้เข้ารับการอบรมคืนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่ทางราชการแต่ผู้เข้ารับการอบรมชี้แจงว่า การสมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวไม่มีเจตนาที่จะยกระดับวิชาชีพและไม่ได้คิดว่าจะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และเชื่อโดยสุจริตว่าสามารถเบิกจ่ายได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ดังกล่าว
6.ส่วนราชการจึงได้หารือกรมบัญชีกลาง 2 ประเด็น ซึ่งกรมบัญชีกลางได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้วมีความเห็นโดยสรุปว่า หลักสูตรการฝึกอบรมดังกล่าวข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายมหาชนทั้งทางทฤษฎีและทางปฏิบัติและเพื่อยกระดับความรู้ของบุคลากรภาครัฐให้สามารถนำหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับกฎหมายปกครองและกฎหมายมหาชนไปปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ ประกอบกับสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯได้มีบันทึกแจ้งให้กรมในสังกัดตรวจสอบการเบิกค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว หลังจากที่กรมได้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปแล้ว จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าข้าราชการรายดังกล่าวเข้าใจว่าสามารถเบิกจ่ายเงินค่าลงทะเบียนได้โดยสุจริต ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จึงไม่มีผู้ใดต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางราชการ (โปรดดูรายละเอียดได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลางที่ กค0415.7/ล31240 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2562)
7.จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมดังกล่าวพบว่าหลักเกณฑ์การผ่านการอบรมหลักสูตรพนักงานคดีปกครองหรือหลักสูตรกฎหมายปกครอง หรือหลักสูตรกฎหมายมหาชนที่ก.ศป.รับรองที่จะเป็นคุณสมบัติแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ก็ยังไม่มีการใช้บังคับตั้งแต่ 2544-2558 เลยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี