‘สร้างอนาคตไทย’ขยับหมาก
‘อุตตม’ลุยเยาวราช
เตรียมดึง‘สมคิด’คุมเศรษฐกิจ
ธรรมนัสหอบ18สส.ซบ‘เศรษฐกิจไทย’
อีก3รายโบกมือลาซบ‘ภูมิใจไทย’
ระทึกชิงผู้แทน‘หลักสี่-จตุจักร’
กกต.คาดใช้สิทธิ์60%รู้ผล4ทุ่ม
“ธรรมนัส” นำทีม 18 สส. พปชร. แจ้งย้ายเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ไร้เงา3 สส.อีสาน “วัฒนา สิทธิวัง-เอกราช ช่างเหลา-สมศักดิ์ พันธ์เกษม” คาดซบ “ภูมิใจไทย”ขณะที่ “จุรินทร์” จ่อเปิดตัวผู้สมัครของ ปชป.อีกหลายจังหวัด ทั้งขอผู้มีอำนาจปักหมุดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ด้าน “อุตตม-สนธิรัตน์”ลุยเยาวราชเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.คนแรก แย้มดึง “สมคิด” มาบัญชาการช่วยงานแก้เศรษฐกิจ ลุ้นเลือกซ่อม สส.เขตหลักสี่-จตุจักร คาดใช้สิทธิ 60% คาดรู้ผลไม่เป็นทางการไม่เกิน 4 ทุ่ม
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเศรษฐกิจไทยมีหนังสือถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565เพื่อแจ้งรายชื่อ ส.ส.จำนวน18คนได้ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่20 มกราคม 2565 ประกอบด้วย 1.นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา 2.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร 3.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา 4.นายสถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี 5.นาย บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 6.นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา 7.นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร 8.นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน 9.นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี 10.นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง 11.พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12.น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร 13.นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา 14.นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก 15.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก 16.นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17.นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น 18.นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์
3ส.ส.อีสาน ทิ้ง ‘ธรรมนัส’
ทั้งนี้ โดยในวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ทางกลุ่มงานทะเบียนประวัติและสถิติ สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาฯได้มีบันทึก ข้อความด่วนที่สุด เพื่อแจ้งถึงการตรวจสอบสถานะการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของ ส.ส.ทั้ง18 คน ในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่ายังคงเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมได้อ้างถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(9) บัญญัติว่า พ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมือง นั้นในกรณีเช่นนี้ ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นมิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับ แต่วันที่พันสามสิบวันดังกล่าว ดังนั้น ส.ส. ทั้ง 18 คน ต้องเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคพลังประชารัฐมีมติขับออกจากสมาชิกพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565ซึ่งขับ21ส.ส.ให้พ้นจากสมาชิกพรรคและยังมีส.ส.ที่หนังสือของพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่แจ้งว่า ย้ายเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 3 คน ได้แก่ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา โดยทั้ง 3 คนนั้น คาดว่าจะย้ายเข้าสังกัดกับพรรคภูมิใจไทย
‘จุรินทร์’นำ‘ส.ส.น้ำหอม’แห่ขอบคุณ
เช้าวันเดียวกัน ที่จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนล่าสุด ซึ่งเป็นส.ส.หญิงคนแรกของ จ.สงขลา ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนในเขตเลือกตั้งที่6จ.สงขลา หลังได้รับชัยชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตดังกล่าวครั้งที่ผ่านมา
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่าขอถือโอกาสนี้ขอบคุณประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา อีกครั้ง และขอขอบคุณประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร เขต 1 ด้วย สำหรับกรณี จ.สงขลา ถือเป็นความกรุณาของชาวสงขลา และเป็นเสียงสวรรค์ที่ชาวสงขลามอบให้พรรคปชป.และน.ส.สุภาพร ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ผ่านมาซึ่งพวกเรามีความซาบซึ้งใจในความกรุณาในทางการเมืองของประชาชนทุกคนและตนได้กำชับส.ส.คนใหม่ว่าจะต้องตั้งใจและมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้สมกับที่ประชาชนให้ความไว้วางใจและต้องทำหน้าที่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งงานในพื้นที่และในสภาผู้แทนราษฎร
สายเปิดตัวผู้สมัครสส.อีกหลายจว.
“จากผลการเลือกตั้งดังกล่าว ช่วยให้ชาวปชป.ในภาคใต้และทุกภาคมีความภูมิใจและมีขวัญกำลังใจดีขึ้นมาก รวมทั้งผู้ที่สนใจจะมาร่วมงานกับพรรค ปชป.ก็มีความมั่นใจขึ้นในทุกภาคเช่นกัน สำหรับในภาคใต้ จากนี้ไปตนจะทยอยเดินทางไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ซึ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว คือใน จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง และใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งในภาคอีสานด้วย”นายจุรินทร์ระบุ
เมื่อถามถึงที่นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคพปชร.จะมาร่วมงานกับพรรค ปชป.รวมถึงคนที่เคยย้ายออกไปอยู่พรรค พปชร.และขอกลับมาพรรค ปชป.นั้นจะพิจารณาอย่างไรนายจุรินทร์ กล่าวว่าจะต้องพิจารณาทุกคน ทั้งนี้ ขอไม่พูดถึงกรณีของนายอนุกูลเพราะต้องให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคฯดูแลภาคใต้รายงานอย่างเป็นทางการก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่ง ผู้ที่สนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ปชป.นั้น เราเปิดกว้างและยินดีต้อนรับทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และต้องติดตามตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีอุดมการณ์ทิศทางเดียวกับพรรค เพราะเราอยากให้เขามาอยู่กับเราตลอดไปและมาทำงานร่วมกันอย่างจริงจังขณะนี้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนมากและเราจะทยอยเปิดตัวต่อไป
ไม่เหลิงในชัยชนะ ขอทำงานต่อไป
เมื่อถามว่าจากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา จะเป็นตัวชี้วัดว่าพรรคปชป.จะกลับมาทวงพื้นที่ในภาคใต้ได้อีกหลายจังหวัดใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นตัวชี้วัดหนึ่งเท่านั้น เราไม่ได้ประมาทและไม่ได้เหลิงว่าชนะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เที่ยวนี้แล้ว ต่อไป จะทำอะไร พวกเราเจียมตัวเสมอและยังต้องทุ่มเททำงานหนักต่อไป ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรม ทั้งในพื้นที่และทั่วประเทศ รวมถึงในฐานะที่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล งานในกระทรวงต่างๆที่เรารับผิดชอบ เราก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มกำลังความสามารถ เพราะพรรคปชป.ยังต้องอยู่ต่อไปอีกนาน พรรคการเมืองของเราเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่พรรคที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวแล้วจะเลิกกิจการทางการเมืองไป ดังนั้น วกเราและทุกคนที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคต้องทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่และเต็มกำลังความสามารถ
เน้นเปิดโอกาสอดีตผู้สมัคร-คนใหม่
เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคปชป.เนื้อหอมมีคนสนใจมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาจมีคุณสมบัติเด่นกว่าคนเดิมจะมีหลักในการพิจารณาผู้สมัครอย่างไรนายจุรินทร์ กล่าวว่าจะดูความเหมาะสม เรามีอดีตผู้สมัคร ส.ส.ในหลายพื้นที่ ที่ยังหนักแน่น ยืนหยัดอยู่กับพรรค ไม่เปลี่ยนแปลง เราถือว่าทุกคนมีศักยภาพ จึงจะเปิดโอกาสให้เขาเป็นคนแรกที่ได้รับสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ยกเว้นบางพื้นที่ที่ตัวอดีตผู้สมัคร ส.ส.ยอมรับว่า เมื่อเทียบกับบางคนแล้ว ตัวเองยัง ถือว่าอ่อนอยู่ ดังนั้นเขาพร้อมที่จะหลีกทางถ้าพรรคได้คนที่เหมาะสมกว่า ถือเป็นสปิริตของสมาชิกของพรรค และ ตนต้องขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ด้วย
ภาคอีสานเสียงตอบรับดีมากขึ้น
เมื่อถามว่าภาคอีสานถือเป็นโจทย์หลักของพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ภาคอีสาน ยังเป็นโจทย์ใหญ่ ยังไม่อยากพูดว่า เป็นโจทย์หลัก เพราะในช่วง2ปีที่ผ่านมา ตนลงพื้นที่ร่วมกับทีมงานในพรรคปชป.ก็มีเสียงตอบรับในภาคอีสานดีขึ้นและเราได้ตัวผู้สมัครที่มีศักยภาพมากขึ้นในหลายพื้นที่ รวมถึงตอนนี้ยังทยอยประสานงาน ต้องการมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคซึ่งต้องถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดีขึ้น ในสถานการณ์ปีที่ผ่านมาและในช่วงเวลานี้
จี้เร่งปักหมุดวันเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
นายจุรินทร์ กล่าวให้สัมภาษณ์กรณีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ไม่สามารถตอบได้ว่า จะเกิดภายในปีนี้หรือไม่ เรื่องการเลือกผู้ว่าฯกทม.กลายเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนซึ่งไม่คิดว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเหมือน คนมีอำนาจเก็บงำไว้ว่า เมื่อไหร่กันแน่ ที่จริงเรื่องนี้ เป็นเรื่องบ้านเมือง เป็นเรื่องของประเทศและของพี่น้องชาวกรุงเทพ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของคนมีอำนาจ คนใดคนหนึ่ง
อย่าอุบไต๋รอดูวันตัวเองได้เปรียบ
“เพราะฉะนั้น ความชัดเจนควรจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เก็บไต๋ ไว้แล้วคอยดูว่าเมื่อไหร่ จะได้เปรียบเสียเปรียบกันแล้ว ถึงตัดสินใจมันไม่ถูกต้อง ควรที่จะให้มีความชัดเจน ประชาชนจะได้ทำตัวถูก ผู้สมัครจะได้รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ เพราะเราไม่มีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มานานแล้ว คนกรุงเทพก็หวังอยากได้ผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่า พอประชาธิปัตย์ มีผู้สมัครแล้วก็จะมาเร่งรัด ผมไม่ได้เร่งรัดแต่คิดว่าควรเปิดเผยไปในครรลองที่ถูกที่ควร ตามระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว”นายจุรินทร์ย้ำ
เมื่อามว่าจำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องมีการเลือก สก.ไปพร้อมกัน นายจุรินทร์กล่าวว่าที่ผ่านมาเราก็เลือกไปด้วยกัน ก็สุดแล้วแต่ แต่ถ้าเลือกไปพร้อมกันมัน ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย พี่น้องประชาชนก็จะได้ออกไปลงคะแนนครั้งเดียว เลือก ผู้ว่าฯใบหนึ่ง เลือก สก.อีกใบหนึ่ง”
‘อุตตม’ลุยเยาวราชเปิดว่าที่ผู้สมัครสส.
วันเดียวกัน ที่ถนนเยาวราช นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำ และนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย รวมถึงนายสันติ กีระนันทน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ลาออกมาอยู่กับพรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่เพื่อพบปะรับฟังปัญหาปากท้องของประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า พร้อม เปิดตัว นายอาทิตย์ ชุณหชัชราชัย หรือ ตี้ ว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม.เขต1ซึ่งเป็น ว่าที่ ส.ส.กทม. คนแรกของพรรคถือเป็นคนหนุ่มที่มีคุณภาพ เข้ามาอาสาทำงานเพื่อประชาชน โดยจุดแรก ที่มูลนิธิเทียนฟ้าแกนนำพรรคได้เข้าสักการะเจ้าแม่กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคล
ชาวบ้านถามหา‘สมคิด’อยากให้มาช่วย
จากนั้น นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ พร้อม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ได้เดินพบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ช่วงหนึ่งที่มีชาวบ้าน ได้เข้ามาทักพร้อมถามหา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯรี โดยนายสนธิรัตน์ และนายอุตตม กล่าวตอบว่า ท่านไม่ได้มา แต่ฝากความคิดถึงและท่านเองก็เป็น ตึ่งนั้ง ยืนยันท่านพร้อมทำงานเต็มที่พร้อมถามว่าอยากให้กลับมาหรือไม่ จากนั้นนายอุตตมและสนธิรัตน์เดินแนะนำตัวนายอาทิตย์กับชาวบ้านว่าเป็นลูกหลานเยาวราชและสอบถามการค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ระบุว่าช่วงนี้รายได้ลดลงจากเมื่อก่อนมาก บางวันแทบขายไม่ได้ เพราะช่วงโควิดใครๆก็ไม่กล้าออกมา
ภายหลังเดินพบปะประชาชน และร้านค้าต่างๆในถนนเยาวราช นายอุตตม นายสนธิรัตน์ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฯ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้ากวนอู ตลาดเก่า จากนั้นเดินข้ามถนนเยาวราชไปตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เพื่อพบปะประชาชน และเดินทางไปยังมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งเพื่อสักการะหลวงปู่ไต่ฮงกง โดยมีนายสัก กอแสงเรือง รองประธานมูลนิธิให้การต้อนรับ
2แกนนำยินดีประสานทาบ‘สมคิด’
นายอุตตมให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า ในฐานะพรรคสร้างอนาคตไทย มาสวัสดีพี่น้องชาวเยาวราชและถือโอกาสรับฟังปัญหาความคิดเห็นของประชาชนผู้ค้าขายที่มาจับจ่ายช่วงตรุษจีนทุกคนทราบดีว่าวันนี้เศรษฐกิจปากท้อง เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งพรรคของเรามุ่งมั่นแก้โจทย์เศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่วันนี้ มีประชาชนหลายคนถามหา นายสมคิด นายอุตตม กล่าวว่า ตนและนายสินธิรัตน์ มาวันนี้ได้รับทราบปัญหาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่ระบุตรงกันในเรื่องปากท้อง ต้นทุนสินค้าแพง การค้าขายฝืด จึงได้ให้กำลังใจ และมีหลายคนทักถามหาท่านสมคิดว่าจะมาทำงานกับพวกเราหรือไม่ มาช่วยแก้ปัญหาอีกรอบหรือไม่ ซึ่งเป็นความตั้งใจของพวกเราอย่างแท้จริงเชิญ นายสมคิดมาทำงานแก้เศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน
ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวถึงมีความเป็นไปได้ว่านายสมคิดจะมา ร่วมทำงานกับว่าเราตั้งใจแก้ปัญหา เศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งเมื่อได้ลงพื้นที่พบกับพี่น้อง ประชาชนพบว่ามีความยากลำบากจริงๆโดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจที่ได้รับผลทบหลายเรื่องจึงมีหลายคนเรียกร้องนายสมคิดว่าจะมาช่วยหรือไม่ เมื่อได้รับฟังเช่นนี้ เราก็จะไปขอความเห็นจากนายสมคิด อยากให้มาช่วย เพราะประชาชนถามถึงทุกที่ ย้ำว่าปัญหาปากท้องเป็นปัญหาใหญ่ และพรรคก็ตั้งใจเรื่องนี้ จึงจะไปหารือนายสมคิดว่าประชาชนลำบาก เพื่อขอคำแนะนำและมีโอกาสมาช่วยพวกเรา
ย้ำเป็นไปได้สูง‘สมคิด’มาช่วยงาน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายสมคิด ได้ให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ท่านให้กำลังใจเต็มที่บอกว่าบ้านเมืองเป็นภาวะไม่ปกติ เป็นภาวะที่ยากลำบาก ขอให้ทุกคนช่วยทุ่มเท เพื่อชาติบ้านเมือง ส่วนท่านก็พร้อมช่วยทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเช่นกัน
ขณะที่นายอุตตม กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่นายสมคิดจะมาร่วมงานกับพรรคว่ามีความเป็นไปได้สูง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการพบปะพูดจากับนายสมคิด เป็นประจำอยู่แล้วรวมทั้งได้ถ่ายทอดความรู้สึกของประชาชนซึ่งนายสมคิดก็ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเราสร้างทีมงานใต้พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งนายสมคิดให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก วันนี้ภารกิจยิ่งใหญ่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงจำเป็นระดมทุกคน ทั้งคนที่มีประสบการณ์ คนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัยมารวมพลังกัน
ลั่นพร้อม-จ่อทยอยเปิดตัวผู้สมัคร
เมื่อถามว่าการชิงเปิดตัวพรรคก่อนใคร จะเป็นเป้าโจมตีหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เป็นการเตรียมความพร้อมอย่างที่บอกว่าพรรคพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อเปิดตัวอาสารับใช้ประชาชนก็ได้แสดงความพร้อม และหลังจากนี้ก็จะทยอยเปิดตัวผู้สมัครในเขตต่างๆ ต่อไปเมื่อถามว่า นอกจากคนรุ่นใหม่ จะมีสมาชิกจากพรรคอื่นเตรียมมาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ย้ำว่า”ติดตามตอนต่อไปครับ”
เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ รัฐบาลควรยุบสภาเพื่อเปิดให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่าในส่วนของพรรควันนี้มุ่งเน้นทำงานเข้มข้นเพื่อประชาชน เพื่อฟื้นเศรษฐกิจดังนั้นเราให้ความสำคัญเรื่องนี้ก่อน ส่วนเรื่องการเมือง เราก็เตรียมความพร้อมเต็มที่ เชื่อว่าเมื่อไหร่มีการยุบสภาเราก็พร้อมที่จะลงสนาม วันนี้เราจึงเดินหน้าอย่างเต็มที่ จะยุบเมื่อไหร่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องทางการเมืองที่จะเดินต่อ วันนี้ให้ความสำคัญเรื่องการทำงานก่อน ขอทำอย่างทำเต็มที่ เราก็มีความพร้อม ยืนยันว่าพรรคพร้อมจริงๆ
กกต.พร้อมจัดเลือกตั้งเขตหลักสี่
ที่สำนักงานเขตหลักสี่ นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการทำงานให้ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง 124 คน ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 9กรุงเทพมหานคร(หลักสี่-จตุจักร)
โดยนายสำราญยืนยันความพร้อมจัดเลือกตั้งเกือบ 100% ได้เน้นย้ำกับ กปน. เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะเป็นข้อกังวลจาก นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เรื่องกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเผลอเรอในการถ่ายภาพบัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนแล้วจะทำให้การเลือกตั้งนั้นไม่เป็นความลับตามกฏหมายกำหนด หรือ กรณีหยิบบัตรออกจากคูหา หรือ การฉีกบัตรเสียหาย ต้องพึงระมัดระวัง
คาดรู้ผลไม่เป็นทางการไม่เกิน4ทุ่ม
นายสำราญ กล่าวว่า ในการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะรู้ผลไม่เกินเวลา22.00 น สำหรับคำร้องเรียน-การทุจริต เกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีแจ้งมายัง กกต.กทม.มีเพียงที่เป็นกระแสข่าวที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นคนพูด จนถึงตอนนี้จากการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้ง การหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ยังเป็นไปโดยปกติ ถูกต้องตามกฏหมาย
เตือนผู้สมัครอย่าทำผิดกม.เลือกตั้ง
สำหรับช่วงคืนหมาหอนก่อนการเลือกตั้ง นั้น ผอ.กกต.กทม.กล่าวว่า เตือน สิ่งที่ผู้สมัคร ต้องระวังการกระทำผิดตามมาตรา73ของกฎหมายเลือกตั้ง เรื่อง การสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด รวมถึงข้อความคำพูดเอกสารที่หมิ่นเหม่ ที่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ด้วยความเท็จ และระยะเวลา ในการหาเสียงต้องไม่เกิน18.00น.ของวันที่29 ม.ค.ในทุกช่องทางผู้สมัคร จะต้องยุติทั้งหมด ขณะที่ กกต.กทม.ก็เฝ้าระวังเรื่องการพนันขันต่อในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้โดยร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่ และให้สายตรวจเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด เพราะอาจจะส่งผลถึงการจูงใจในการลงคะแนน
คาดใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า60%
นายสำราญ ยังกล่าวอีกว่า กระบวนการแสดงตนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่จะใช้สิทธิ์ในการแสดงตนต้องเปิดหน้ากากเพื่อยืนยันตัวตน แม้อยู่ในช่วงโควิด-19ในการรับบัตรเลือกตั้งต้องเปิดแมสก์ เมื่อตรวจสอบยีนยันแล้วเสร็จ ก็สวมหน้ากากปกติพร้อม คาดว่าประชาชนออกไปใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี