‘ปชป.’ ซัด ‘ก้าวไกล’ เล่นเกมดิสเครดิตเรื่องทรัพย์สิน ‘ดร.เอ้’ หลังกระแส ‘วิโรจน์’ ไม่เปรี้ยง ทำเอาผู้สนับสนุนบ่นพึม ชี้ ‘ธีรัจชัย’ รู้แก่ใจว่าเป็นเกมการเมือง แนะหาตัวผู้สมัครผู้ว่า กทม. ใหม่ ดีกว่าด้อยค่าผู้อื่น
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ 2565 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จะดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนที่อ้างว่า นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ร่ำรวยผิดปกติว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีและพร้อมให้มีการตรวจสอบอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดำเนินนโยบายและเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เนื่องจากว่า กระบวนการตรวจสอบเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพรรคก็ได้ส่งเสริมและทำหน้าที่ตรงจุดนี้มาโดยตลอด ทั้งนี้ในกรณีของทรัพย์สินที่นายสุชัชวีร์ และครอบครัวถือครองอยู่นั้น นายสุชัชวีร์ ก็ได้ชี้แจงต่อสาธารณะมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่าทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินใน
กรณีที่นายสุชัชวีร์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ครบ 3 ปี ก่อนจะลาออกเพื่อลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. กับทางพรรคฯ พร้อมกับภรรยาคือนางสวิตตา ซึ่งทาง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ของสภาฯ ก็สามารถขอข้อมูลหรือดาวน์โหลดในเว็บของทาง ปปช. เพื่อพิจารณาในเบื้องต้นได้ และนายสุชัชวีร์ ก็ไม่มีทีท่าปฏิเสธสื่อมวลชน เมื่อถูกถามในประเด็นดังกล่าว เพราะมั่นใจและเข้าใจในวิถีทางของนักการเมืองว่า การตรวจสอบถือเป็นกระบวนการที่ถูกที่ควรของนักการเมืองที่ดี
นายชัยชนะ กล่าวว่า ดังนั้นหากทาง กมธ.ปปช. จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป โดยการเชิญนายสุชัชวีร์ ไปชี้แจงนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาของทางนายสุชัชวีร์อยู่แล้ว แต่เกรงว่า ทาง กมธ.ปปช. เอง อาจจะถูกครหาว่า ดำเนินการโดยมีเรื่องการเมืองแอบแฝง ซึ่งท้ายที่สุดเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นอำนาจของทาง กมธ.ปปช. ที่รอให้พิจารณานั้น ช้ากว่าเรื่องที่เป็นประเด็นทางการเมือง ดังที่ปรากฏผ่านสื่อที่ผ่านมาๆ ในการทำงานของ กมธ. ชุดนี้ด้วย
“ผมเห็นว่า การเปิดประเด็นเรื่องทรัพย์สินของนายสุชัชวีร์ นั้น น่าจะมาจากภายหลังจากที่พรรคก้าวไกลได้เปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ปรากฏว่า กระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร เพราะขนาดผู้สนับสนุนเองยังบ่นเลยว่า พรรคก้าวไกลควรจะหาคนที่สร้างกระแสให้คน กทม. สนใจได้มากกว่านี้ ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงใช้วิธีการที่ถนัดคือ พยายามด้อยค่าบุคคลอื่นให้เท่ากับตัวเอง หรือในวิธีการทางการเมืองแบบเดิมๆ เรียกว่า การดิสเครดิต ซึ่งถึงแม้ว่า นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ 1 ใน กมธ. ปปช. ของสภาฯ ซึ่งเป็นผู้เปิดประเด็นในเรื่องนี้ จะขอถอนตัวจากการตรวจสอบโดยอ้างว่า เพื่อป้องกันครหา แต่ผมเชื่อว่า นายธีรัจชัย คงรู้อยู่แก่ใจว่า เป็นเพียงเกมการเมืองที่ถูกกำหนดให้นายธีรัจชัยเป็นผู้เล่นเท่านั้น เนื่องจากว่าหากนายสุชัชวีร์ได้รับการตรวจสอบและผลปรากฏว่า ไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติอย่างกับที่กล่าวหา นายสุชัชวีร์ ก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายฟ้องร้องได้ ดังนั้นนายธีรัจชัย ควรจะแนะนำให้พรรคก้าวไกล ทำตามเสียงสะท้อนของผู้สนับสนุนพรรคฯ โดยการหาบุคคลที่เหมาะสมมากกว่า นายวิโรจน์ มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. จะดีกว่าการดิสเครดิตคนอื่น เพราะยังมีเวลาพอสมควรกว่าที่จะมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม. อีกทั้ง การที่นายวิโรจน์ ลาออกมานั้น ส่งผลเสียให้สภาฯ ขาดองค์ประชุมไป 1 คน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชน เรียกร้องให้ ส.ส. งดเล่นเกมการเมือง โดยหันมาทำงานในสภาเพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญๆ อันจะเกิดประโยชน์สาธารณะอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย ” นายชัยชนะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี