เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์และกรมสมเด็จพระเทพฯ

เหยื่อของสงครามเย็นแห่งศตวรรษที่ 21

สงครามเย็น คือการต่อสู้กันระหว่างมหาอำนาจ โดยใช้สงครามจิตวิทยามากกว่ากำลังอาวุธ คำว่า "เย็น" ได้ถูกนำมาใช้ เนื่องจากไม่มีการสู้รบขนาดใหญ่โดยตรงระหว่างสองมหาอำนาจ แต่จะเป็นในลักษณะให้การสนับสนุนให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคที่สำคัญที่เรียกว่า สงครามตัวแทน (Proxy war)

สงครามตัวแทน เป็นการต่อสู้เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัฐหรือตัวแทน แต่ที่ทั้งสองฝ่ายมิได้ประจัญบานโดยตรงกับอีกฝ่ายหนึ่ง

สงครามตัวแทนอาจเกิดจากความขัดแย้งที่บานปลายที่สืบเนื่องมาจากการแทรกแซงของประเทศภายนอก

ตัวอย่างเช่น สงครามกลางเมืองสเปน ที่มีจุดเริ่มต้นจากสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายชาตินิยมฟาสซิสต์ กับฝ่ายสาธารณรัฐนิยม แต่สุดท้ายกลายเป็นสงครามตัวแทนเมื่อนาซีเยอรมนีให้สนับสนุนฝ่ายชาตินิยมฟาสซิสต์ และสหภาพโซเวียตสนับสนุนฝ่ายสาธารณรัฐนิยม

สงครามเกาหลีและเวียดนาม ที่เกาหลีเหนือและเวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจากโซเวียต ในขณะที่เกาหลีใต้และเวียดนามใต้ ได้รับการสนับสนุนอเมริกา

โดยในประเทศไทย พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากจีน ในขณะที่รัฐบาลไทยได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา

ปัจจุบัน ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก ถูกเรียกกันว่า สงครามเย็นครั้งที่สอง

สงครามตัวแทนได้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้งในปัจจุบัน จากปัญหาความขัดแย้งของฝ่ายจงรักภักดีและสามกีบล้มเจ้าจนบานปลายเพราะถูกพญาอินทรีแทรกแซง

เนื่องจากช่วงหลังพญามังกรแสดงความจริงใจให้การสนับสนุนไทยหลายเรื่อง รัฐบาลไทยจึงหันไปให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับพญามังกรมากขึ้น โดยที่ไม่ได้คิดจะทอดทิ้งความสัมพันธ์กับพญาอินทรี แต่อย่างใด

แต่พญาอินทรีผู้ที่คิดว่า ตนเองต้องเป็นหนึ่งเดียว only one เท่านั้น จึงไม่ต้องการให้พญามังกรมามีอิทธิพลเทียมหน้าตนเอง

สุดทายเมืองไทยกลายเป็นสนามรบของสงครามตัวแทนในสงครามเย็นรอบใหม่นี้ไปโดยปริยาย

ทำให้รัฐบาลและประชาชนฝ่ายจงรักภักดีได้รับการสนับสนุนจากพญามังกร ในขณะที่ฝ่ายค้านและล้มเจ้าได้สนับสนุนโดยพญาอินทรี อย่างลับๆ ชนิดที่เรียกว่า ปิดกันในแซ่ด

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสร็จฯเยือนประเทศจีนมาแล้วมากกว่า 50 ครั้ง

จีนและไทย สืบสานความเป็นมหามิตรดั่งญาติพี่น้องด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์มานานนับพันปี อีกทั้งการการอพยพของชาวจีนในช่วงแห่งความยากลำบาก จนหล่อหลอมความเป็นคนไทยและคนจีนให้เป็นหนึ่งเดียวมานานหลายร้อยปี ในปัจจุบัน ไทยถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการร่วมสรรสร้างเส้นทางสายไหมในยุคสมัยใหม่

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์มิตรภาพดังกล่าว และทรงได้รับการยกย่องอย่างสูงสุดจากจีน

โดยทรงเป็นหนึ่งในชาวต่างชาติ 6 คน ที่ได้รับการประกาศเกียรติยศ ด้วยรางวัลเหรียญมิตรภาพ ซึ่งเป็นรางวัลกิตติมศักดิ์ที่อนุมัติโดยคำสั่งประธานาธิบดี ในวาระครบรอบ 70 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยรางวัลเกียรติยศนี้จะมอบให้แก่ชาวต่างชาติที่มีคุณูปการในการส่งเสริมความเป็นสมัยใหม่แก่สังคมนิยมจีน การสนับสนุน แลกเปลี่ยน และร่วมมือระหว่างจีนกับต่างประเทศ รวมถึงการพิทักษ์ไว้ซึ่งสันติภาพของโลก

ในพระราชนิพนธ์ “หยกใสร่ายคำ” (Verses of Clear Jade) ฉบับแปลไทย ที่ทรงแปลจากกวีนิพนธ์จีนโบราณ พระองค์ทรงแปลบทประพันธ์บทหนึ่งไว้ว่า “จะเป็นจีนเป็นไทยใช่ใครอื่น จงชมชื่นผูกจิตสนิทมั่น เด็ดผกาแทนใจผูกพัน แบ่งปันประดับเรือนเตือนตาเอย”

ล่าสุด สหรัฐอเมริกา บอยคอตโอลิมปิคฤดูหนาวที่จีน เป็นเจ้าภาพจัดงาน ในขณะที่รัฐบาลจีนกราบบังคมทูลเชิญกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้เสด็จพระราชดำเนินเข้าร่วมพิธีเปิดที่กรุงปักกิ่ง โดยรัฐบาลจีนจัดถวายพระเกียรติยศสูงสุด ในฐานะที่ทรงเป็นมิตรที่เยี่ยมที่สุดของจีน

ในขณะที่สถานการณ์ในเมืองไทย เตี้ย โยกเกียร์ ลูกน้องตี๋เจ๊กกบฏ นำทัพเด็กเมื่อวานซืนที่ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อกวนทุกที่ที่เสด็จพระราชดำเนินเพื่อประกอบพระราชกรณียกิจ เช่น พิธีการพระราชทานปริญญาบัตร หรือที่สยามพารากอนอันเป็นสถานที่ที่อยู่ติดกับที่ประทับ

เหตุการณ์เหล่านี้เชื่อมโยงให้เห็นภาพสงครามตัวแทนอันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเย็นรอบใหม่

เมื่อมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกโบราณอย่างจีนกำลังกลับมาทวงบัลลังก์ในโลกปัจจุบัน

ทำให้ผู้ที่เคยสวมบทพระเอกในช่วงหลังสงครามโลกที่ผ่านมา และกำลังจะสูญเสียตำแหน่งพระเอกเบอร์หนึ่งไปให้พญามังกรมหาอำนาจจากยุคโบราณ รับความจริงข้อนี้ไม่ได้

จึงตัองใช้ความพยายามในรักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งเอาไว้ ไม่ว่ากลยุทธ์ที่ใช้ จะไม่ใช่วิถีทางของพระเอกอีกต่อไปแล้วก็ตาม

ล้มเจ้าเท่ากับล้มล้างการปกครอง

ฝ่ายไหนมีใครอยู่เบื้องหลังในกระบวนการล้มเจ้าเพื่อล้มล้างการปกครองพวกเราคนไทยไม่ว่าฝ่ายไหนก็รู้ดีทุกคน

ที่นี่…รัฐบาลลุง 3 ป. รัฐบาลไทยรบอยู่กับใคร คงเข้าใจกันเสียที่

กับคำถามของคนไทยผู้จงรักภักดีที่ว่า รัฐบาลทำไมเหมือนไม่ทำอะไร หรือทำอะไรพวกมันไม่ได้เสียที่

คำตอบคือ

รัฐบาลลุง 3 ป. ไม่ได้รบกับกองทัพสามกีบกระจอกๆ แต่รบอยู่กับประเทศมหาอำนาจของโลก

คำถามที่ว่า มีทหารเอาไว้ทำไม ในเมื่อโลกนี้ไม่มีสงครามแล้ว

คำตอบคือ

มันมีสงครามตัวแทนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเย็นของมหาอำนาจ 2 ขั้ว

ผู้นำของรัฐบาลลุง 3 ป.จึงต้องเป็นทหาร และมีกองกำลังทหารเอาไว้ทำสงครามดังกล่าวนั้นเอง

ผู้ที่ต้องการให้ยุบ ลด ทอน ประสิทธิภาพของกองทัพและกำลังพล คือผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติ เพราะประเทศมหาอำนาจทั่วโลกมีแต่เพิ่งประสิทธิภาพของกองทัพและกำลังพล

สงครามเย็น คือการต่อสู้กันระหว่างมหาอำนาจ โดยอาศัยสงครามตัวแทนและใช้สงครามจิตวิทยามากกว่ากำลังพลและอาวุธ แต่กำลังพลและอาวุธคือพลังอำนาจที่อยู่เบื้องหลังสงครามจิตวิทยานั้น

สงครามอันลับลวงพรางนี้ มีเครือข่ายโยงใยสัมพันธ์กันมากมายทั้งทางราชการ เอกชนและองค์กรไม่มุ่งหวังกำไร ทั้งในประเทศหรือในระดับโลก และไม่สามารถมองไม่เห็นด้วยตา

ฝรั่งหน้าเหลี่ยม เจ๊กกบฏหน้าตี๋ อองตวนบูด เตี้ย โยกเกียร์ สำคัญผิดคิดว่า ตนเองคือขุนพล ทั้งที่ความจริงเป็นได้แค่เบี้ยตัวเล็กๆ ไร้ราคาของมหาอำนาจผู้ที่กำลังจะพ่ายแพ้เท่านั้นเอง

ธรรมะชนะอธรรมเสมอ

ผู้ที่ใหญ่จนคิดว่าไม่มีใครสามรถมาล้มได้ มักล้มลงด้วยตนเองเสมอ

และจุดจบของคนขายชาติก็ไม่เคยดีเลย

อัษฎางค์ ยมนาค

- 004