คณะรวมพลังแผ่นดิน ออกแถลงการณ์ปิดการแทรกแซงจากมหาอำนาจ นำแผ่นดินไทยคืนกลับสู่เขตแดนอธิปไตย ตามแผนที่ 1:50000
11 ธันวาคม คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ออกแถลงการณ์ระบุว่า
พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ขณะนี้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา ดินแดนเอกราช มี อารยะ มีอํานาจอธิปไตยของตนเอง ที่เราทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน กําลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตหลาย ด้าน และวิกฤตที่หนักที่สุดคือการที่ประเทศชาติกําลังตกอยู่ในภาวะการสู้รบด้วยอาวุธสงครามกับ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมิใช่แต่เพียงทหารหาญเท่านั้นที่ชีวิตของเขาต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย พี่น้อง ประชาชนคนไทยนับล้านชีวิตจากหลายจังหวัด ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้หญิง ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล เกษตรกร ล้วนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการสู้รบครั้งนี้ ต้องอพยพจากบ้านเรือน อพยพจาก โรงพยาบาล ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน ทั้งต้องทนทุกข์อยู่กับความหวาดกลัว ความอดอยาก ขัดสน พื้นที่ที่เคยสงบสุข ปลอดภัย กลับกลายเป็นพื้นที่แห่งความอันตรายเหตุเพราะถูกกระทําจาก กัมพูชาอย่างไร้มนุษยธรรม
แม้ประเทศชาติกําลังอยู่ในสถานการณ์สู้รบเพื่อปกป้องอธิปไตยและทวงคืนเขตแดนอธิปไตย แต่นี่ก็คือเวลาที่ประชาชนคนไทยต้องครองสติไว้ให้ดีที่สุด และรวมพลังสามัคคีค้ําจุนแผ่นดินไทย ไม่ แตกแยก แม้จะมีความเห็นต่างกันก็ตาม จริงอยู่เหตการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แม้จะเกิดขึ้นจากการ สมคบคิด เกิดขึ้นจากความโลภ แสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบ จากเรื่องเขตแดน กาสิโน บ่อนการ พนัน สแกมเมอร์ พลังงาน ของเถื่อน ยาเสพติด การฟอกเงิน การสร้างความนิยมทางการเมือง และ การรักษาอํานาจทางการเมืองของบางคนบางกลุ่ม รวมถึงความตั้งใจ ความผิดพลาดบกพร่องของผู้ที่ กําหนดยุทธศาสตร์และนโยบายแห่งชาติ ที่ไม่ตั้งมั่นอยู่บนผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ดังท่ีได้เกิดข้ึนแล้ว
พี่น้องประชาชนคนไทยต้องจดจําบทเรียนอันเจ็บปวดที่สุดในประวัติศาสตร์ตอนเสียกรุงศรี อยุธยา เมื่อวันที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๑๐ เกิดขึ้นเพราะคนไทยแตกแยก หมดสิ้นความสามัคคี มีคนไทยบางคนบางกลุ่ม ประพฤติตนเป็นไส้ศึก เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ เห็นแก่อํานาจอันไม่ชอบ ธรรม ตั้งตนเป็นใหญ่ รับใช้ข้าศึกศัตรูของชาติ สถานการณ์ปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ถ้าประชาชนคนไทย ยึดถือ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” “รวมพลังสามัคคี ปกป้องอธิปไตยของชาติ” เราก็สามารถเอา แผ่นดินของเราที่กัมพูชารุกรานยึดครองกลับคืนประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางที่กัมพูชาจะชนะ เราได้ ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งและการสู้รบ ไทย–กัมพูชา กําลังขยายตัว ในเวลาเดียวกัน สถานการณ์นี้กําลังถูกจับตามองและถูกใช้ประโยชน์โดยต่างชาติและมหาอํานาจนอกภูมิภาค ที่ ต้องการผลประโยชน์เชิงภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ จากไทย-กัมพูชา และภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการแทรกแซงภายใต้ชื่อ ความช่วยเหลือ การไกล่เกลี่ย การรักษาเสถียรภาพ ภูมิภาค หรือการบังคับ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเวลาที่ประเทศไทยต้องการพลังสามัคคีของประชาชนคน ไทย เพื่อยับยั้งสกัดกั้น ปิดโอกาสการแทรกแซงจากต่างชาติ จากมหาอํานาจที่จ้องฉกฉวย ผลประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อประเทศตนเอง โดยยืนยันให้ทุกประเทศเคารพอธิปไตยของไทย ทั้ง การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาสามารถยุติได้ด้วยกลไกทวิภาคีไทย-กัมพูชาไม่ใช่ยุตดิ้วย เกมผลประโยชน์ของต่างชาติและมหาอํานาจ
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอเชิญชวนเรียกร้องพี่น้องประชาชนคนไทยร่วมกัน สดุดีทหารหาญทุกนายที่ต่อสู้อย่างเต็มที่สละแม้ชีวิตตนเอง และชื่นชมให้กําลังใจทหารหาญทุกนาย ทุกเหล่าทัพ ที่สนธิกําลังต่อสู้ร่วมกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยไม่เพลี่ยงพล้ําในสมรภูมิสู้รบ แสดงออกสนับสนุนทุกวิถีทาง ทุกรูปแบบ ต่อนโยบาย ยุทธศาสตร์ และเป้าหมายของรัฐบาล สภา ความมั่นคงแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย ที่บูรณาการทํางานอย่างเต็มกําลัง เพื่อดูแลความ ปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและปกป้องอธิปไตยของชาติไทยอย่างเคร่งครัด โดยยืนยันว่าจะดํารง ความมุ่งหมายสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบธรรม มีการปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตาม เงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความจําเป็น รวมถึง เป้าหมายที่จะทําให้กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน เพื่อความปลอดภัย ของลูกหลานของเรา
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอแสดงความชื่นชมให้กําลังใจ และพร้อมให้ความ ร่วมมือกับรัฐบาล ทหารทุกเหล่าทัพ หน่วยงานความมั่นคง และเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน ในการ ดํารงและปฏิบัติตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตามที่กล่าวข้างต้น แต่ด้วยความรักประเทศไทย และความห่วงใยที่มีต่อสถานการณ์ จึงใคร่ขอเสนอความคิดเห็นต่อรัฐบาล กองทัพ หน่วยงานความ มั่นคง และประชาชนคนไทย ด้วยความดังนี้
๑. ให้รัฐบาล กองทัพ และเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ดํารงการปฏิบัติการทางทหารทุกกรณี ตาม เงื่อนไขของสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเร่ืองอื่น ๆ ที่มีความจําเป็น ตาม หลักกฎหมายระหว่างประเทศ และสิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบธรรม จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ดังนี้
๑.๑ นําเอาแผ่นดินไทยทุกพื้นที่ที่ถูกกัมพูชาละเมิด รุกราน ยึดครอง กลับสู่เขตแดนอธิปไตย ประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ โดยยึดถือตามแผนที่ ๑ : ๕๐,๐๐๐
๑.๒ ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนคนไทยในกัมพูชาที่ถูกหลอกลวง ถูกคุมขัง ทรมาน ถูกจับเป็นตัวประกัน ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทําของแก๊งสแกมเมอร์ ทหาร เจ้าหน้าที่กัมพูชา อย่าง เร่งด่วน
๑.๓ ทําลายฐานที่มั่นทางทหาร คลังอาวุธ สถานีปฏิบัติการทางเทคนิคและการสื่อสาร
๑.๔ ทําลายสถานที่ทําการบ่อนการพนัน สแกมเมอร์ หรือสถานที่ประกอบอาชญากรรม ร้ายแรง ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทยและนานาชาติ
๑.๕ ทําลายแนวสันเขื่อนกันคลื่นที่กัมพูชาเจตนาสร้างขึ้นเพื่อให้มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงเส้น เขตแดนทางทะเล ส่งผลกระทบต่อเขตแดนทางทะเลของไทย
๑.๖ นําหลักเขตที่ ๗๓ กลับไปตั้งที่จุดเดิม
๑.๗ ทําให้กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน
๑.๘ ปฏิบัติการตัดสัญญาณ ระบบดาวเทียม ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบสื่อสาร ระบบไฟฟ้า พลังงาน ระบบโลจิสติกส์ ที่ใช้ช่องทางอื่นใดที่มีปลายทางไปยังกัมพูชา
๑.๙ ตัดสัมพันธ์ทางการทูต
๑.๑๐ ยกเลิกบันทึกข้อตกลง MOU ๔๓ MOU ๔๔
๒. หากมีข้อมูล พยานหลักฐานชัดเจนว่ากัมพูชากําลังจะโจมตี และเป็นภัยคุกคามที่กําลังจะ เกิดขึ้น ให้รัฐบาลและกองทัพพิจารณาการโจมตีโดยอ้าง "สิทธิโจมตีเชิงป้องกันล่วงหน้า" โดยยึดถือ หลักความจําเป็นและหลักสัดส่วนที่พิสูจน์ได้
๓. แม้สุดท้ายจะจบลงที่โต๊ะเจรจา แต่การเจรจาตกลงที่ผ่านมา กัมพูชาไม่เคยเคารพยึดถือ ปฏิบัติตาม และสถานการณ์ขณะนี้ รัฐบาลไทยยังไม่ควรมีการเจรจาใด ๆ จนกว่าจะปฏิบัติการบรรลุ เป้าหมายตาม ข้อ ๑. ประการสําคัญรัฐบาลและกองทัพต้องคํานึงถึงสัจธรรมที่ว่า “ไม่มีใครชนะที่โต๊ะ เจรจา หากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมรภูมิรบ”
๔. ขอเรียกร้องรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงเพ่ิมเติม ดังน้ี
๔.๑ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ประกาศจุดยืนบนหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหนัก แน่นว่า ไทยต้องยืนยันต่อสาธารณะว่า หนึ่ง ไทยพร้อมเจรจาเมื่อสถานการณ์มีความเหมาะสม สอง ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน แต่เป็นผู้ถูกรุกราน และกําลังปฏิบัติการปกป้องอธิปไตยตามหลักกฎหมายสากล สาม ไทยไม่ยินยอมให้คู่กรณีหรือมหาอํานาจใดตีความข้อตกลงหรือประวัติศาสตร์ในลักษณะบิดเบือน และสี่ ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ใครช้ีน้ิวกําหนดอนาคตของไทยแทนคนไทย
๔.๒ ท่ามกลางความซับซ้อนของสถานการณ์ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ถึงเวลาแล้วที่ ประเทศไทยต้องประกาศจุดยืนที่ชัดเจน หนักแน่น และตั้งอยู่บนหลักสากล ว่าประเทศไทยจะไม่เป็น หมากของใคร ไม่เป็นเวทีของใคร และไม่เป็นตัวแปรให้ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของชาติอื่น ขยายตัวในภูมิภาคของเรา ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เรียกร้องไปยังประชาคมโลกว่า ให้ทุกประเทศ เคารพอธิปไตยของไทย ประเทศไทยไม่ยอมรับการแทรกแซงจากประเทศใด ไม่ว่าภายใต้ชื่อความ ช่วยเหลือ การไกล่เกลี่ย หรือการรักษาเสถียรภาพภูมิภาค
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย เชื่อว่า "ความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา สามารถแก้ไขด้วย กลไกทวิภาคี ทั้งไม่ใช่เกมของมหาอํานาจ"
๔.๓ บูรณาการด้านข้อมูลข่าวสาร การเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการช้ีแจง การตอบ โต้ การทูต อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ มีประสิทธิภาพ
๔.๔ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงให้ตั้ง "แนวป้องกันพลเรือน" ที่ปลอดภัย อย่างแท้จริง เพื่อกันไม่ให้กระสุนหรือแรงปะทะกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัย และเชื่อมระบบเตือนภัยให้ ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และช่วยเหลือดูแลเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ
๕. ขอเรียกร้องไปยังประชาชนคนไทย ดังนี้
๕.๑ ขอให้ตรวจสอบข่าวอย่างรอบด้านก่อนเชื่อ เพื่อให้ไม่ตกเป็นเหยื่อสงครามข้อมูลจาก ต่างชาติหรือในประเทศ ที่ต้องการสื่อสารเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเจรจาให้กับกัมพูชา หรือปั่น กระแสความเห็นสาธารณะให้ประชาชนคนไทยเกิดความแตกแยก
๕.๒ ขอประชาชนคนไทยให้ "รักชาติอย่างมีเหตุผล ไม่ปล่อยให้ความเกลียดชังนําทาง" คณะ รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย เช่ือว่า "ความรักชาติที่แท้จริงไม่ใช่การเกลียดชาติอื่น แต่เป็นการยืน หยัดเพื่อประเทศและประชาชนด้วยความคิดท่ีมีสติและความรับผิดชอบ"
๖. ขอเรียกร้องไปยังนักการเมืองทุกคน ทุกระดับ ทุกพรรคการเมือง ให้ความร่วมมือกับ รัฐบาล กองทัพ เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนคนไทย ในการป้องกันอธิปไตยและทวงคืนเขตแดนอธิปไตย ของไทย ไม่สร้างอุปสรรค ไม่สร้างสถานการณ์ ไม่สร้างวาทกรรม ไม่ยั่วยุสร้างความขัดแย้ง เพื่อ ประโยชน์ทางการเมืองของตน
สุดท้ายนี้ คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอยืนยันว่า "การปกป้องอธิปไตยตาม กฎหมายสากล คือ พื้นฐานของสันติภาพที่ยั่งยืน ไม่ใช่การยกระดับความขัดแย้ง" และเราขอย้ําว่า "การคุ้มครองชีวิตประชาชน คือหัวใจของภารกิจความมั่นคงและหน้าที่ของกองทัพไทยต้องได้รับการ สนับสนุนอย่างเต็มกําลัง" เวลานี้คือเวลาที่ประเทศไทยต้องประกาศอย่างหนักแน่นว่า อธิปไตยไทย ต้องไม่ถูกละเมิด ภัยคุกคามจากภายนอกต้องถูกยับยั้งอย่างเด็ดขาดและเหมาะสม รวมไปถึงชีวิต ประชาชนชายแดนต้องปลอดภัย
รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี