อัยการสั่งฟ้องคดีม.112-พรบ.คอมพ์

‘ธนาธร’ไม่รอด

ปมไลฟ์สดวิจารณ์รบ.จัดหาวัคซีน

ตร.สอบ2ผู้ต้องสงสัยปาบึ้มบ้าน‘บิ๊กตู่’

นายกฯให้ทำการสืบสวนไปตามปกติ

เลขาฯสมช.ชี้หลายประเด็นน่าสนใจ

นายกฯเข้าทำเนียบตามปกติ หลังเกิดเหตุปาระเบิดปิงปองใกล้บ้านพักในร.1ทม.รอ. โฆษกรัฐบาลเผยไม่สั่งการอะไรพิเศษ ให้ตำรวจสอบสวนตามปกติ“นิกร”เผยพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมจัดประชุมใหญ่ 24 เมษายนมีวาระ“กัญจนา”เปิดใจใกล้เลือกตั้ง ด้าน“ครอบครัวเพื่อไทย”ลุยปักธงทั่วประเทศ ดีเดย์ 12 เมษายน ที่โคราชต้อนรับพี่น้องกลับบ้าน พร้อมเดินสายระดมความร่วมมือปชช.เปลี่ยนแปลง คืนความหวังและชีวิตที่ดีกว่า ด้าน ‘ธนาธร’ไม่รอด อัยการสั่งฟ้องผิดม.112-พรบ.คอมฯ ปมไลฟ์สดวิจารณ์วัคซีน

จากกรณีเกิดเหตุมีผู้ไม่ประสงค์ดีปาระเบิดปิงปองเข้าไปในบริเวณพื้นที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1ทม.รอ.) ซึ่งเป็นบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อยู่ภายในบริเวณดังกล่าว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา โดยจุดเกิดเหตุอยู่ไกลจากบ้านพักในระยะไกลมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 11 เมษายน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยไม่มีวาระงานทางการ

โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับรายงานเรื่องดังกล่าวว่า เกิดเหตุเวลาประมาณ 19.50 น.พบระเบิดปิงปองบริเวณประตู ร.1 ทม.รอ.จำนวน 2 ลูก ตกอยู่บริเวณสนามหญ้าตรงข้ามกองรักษาการณ์ ตรวจสอบเบื้องต้นจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ 1คัน มีผู้ขับขี่ 1คน ผู้ซ้อนท้าย 1คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ทั้งนี้ ทม.ร.1 รอ.เป็นเขตพระราชฐาน โดยบ้านพักนายกรัฐมนตรีอยู่ในพื้นที่ด้านในด้วย นายกฯไม่มีความคิดเห็นต่อเหตุการณ์และไม่มีข้อสั่งการพิเศษใด ๆ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป ส่วนช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ นายกฯทำงานติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านพัก เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อสั่งการ หากมีความจำเป็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนายหนึ่ง กล่าวเพียงว่า ให้ไปถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

จับ2เยาวชนต้องสงสัยรอผลสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจนครบาล สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 2คน เป็นเยาวชนชายพื้นที่ สน.ท่าเรือ เนื่องจากเวลาประมาณ 20.00น.ตำรวจ สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุมีคนทำวัตถุคล้ายระเบิดปิงปองหล่น ก่อนถูกตำรวจคุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง ก่อนนำตัวมาสอบสวนหาความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าวหรือไม่อย่างไรต่อไป

ต่อมา ที่สน.บางซื่อ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธ์ ผบก.น.2 ได้เดินทางเข้าสอบปากคำสองผู้ต้องสงสัย และสอบพยานอีก 1คน ซึ่งเป็นเยาวชน จากกรณีเหตุการณ์ปาระเบิดปิงปอง ใส่ ร.1 ทม.รอ.ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 1รายที่ได้รับบาดเจ็บ ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ท่าเรือ

พ.ต.อ.ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์. ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า ไม่ยืนยันว่าการจับกุมนายธนายุทธ หรือบุ๊ก แร็พเปอร์ เป็นเหตุเดียวกับปาระเบิดที่ ร1.รอ.หรือไม่ แต่ที่เข้าจับในครั้งนี้ เพราะมีชาวบ้านร้องเรียนได้ยินเสียงระเบิดปิงปอง จึงเข้าตรวจสอบบ้านดังกล่าวพบระเบิดปิงปอง30ลูกจึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ผู้ต้องหาให้การว่า ระเบิดปิงปองดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมนำมาฝากไว้หลายเดือนแล้ว ระหว่างเกิดเหตุได้ไปร่วมชุมนุมและนำระเบิดปิงปองติดตัวไปด้วย เมื่อมาถึงที่ถึงบ้าน รถจยย.เสียหลักล้มลงหน้าบ้านทำให้ระเบิดปิงปองตก แล้วระเบิดไปโดนเท้าได้รับบาดเจ็บ แล้วชาวบ้านไปแจ้งตำรวจ

เลขาฯสมช.ให้รอตำรวจสืบสวนก่อน

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายปาระเบิดปิงปองบริเวณประตู ร.1 รอ.จำนวน 2นัด ว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมาจากสาเหตุอะไร เป็นการเมืองหรือก่อกวนเฉยๆ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เดี๋ยวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า เพราะมีหลายประเด็นที่น่าสนใจอยู่ เมื่อถามว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่บอกว่าน่าสนใจ เลขาธิการสมช.กล่าวว่า ตอบไม่ได้ คาดเดาไปเดี๋ยวจะมีปัญหาได้ เอาเป็นว่ารอให้ตำรวจตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนดีกว่า เมื่อถามว่าจะรู้ผลได้เมื่อไหร่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า รอตำรวจทำงานก่อน เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

‘นิกร’ไม่หวั่นยื่นศาลตีความบัตรลต.2ใบ

นายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเกี่ยวกับประเด็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่าเรื่องดังกล่าวตนขอชื่นชมในการต่อสู้ตามความเชื่อของ นพ.ระวี แต่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลให้การทำงานของ กมธ.ที่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับต้องชะลอ หรือยุติการทำงาน เนื่องจากการทำงานของ กมธ.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่กำหนดให้รัฐสภาต้องทำร่าง พ.ร.บ.ให้แล้วเสร็จภายใน 180วัน อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้งจาก 1 ใบ เป็น 2 ใบ รวมถึงการแก้ไขจำนวน ส.ส. เป็น ส.ส.แบ่งเขต 400เขตและสส.บัญชีรายชื่อ 100คนนั้น มีเหตุผลที่ชัดเจนตั้งแต่การเสนอแก้ไขแล้ว เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เจตจำนงเลือกตั้งสอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งการแก้ไขให้มี ส.ส. 400 เขตเพื่อให้ดูแล แก้ปัญหาประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น

‘ผมในฐานะอดีตเลขานุการ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญทำถูกต้องและทุกฝ่ายเข้าใจ ซึ่งในการประชุมของ กมธ.พิจารณาร่าง พรป.นั้น ไม่เคยมีใครยกประเด็นของ นพ.ระวี มาพิจารณาเพราะเป็นเรื่องภายนอก กมธ.ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันและไม่มีเหตุผลที่ทำให้ กมธ.พิจารณากฎหมายลูกต้องหยุดลง เว้นแต่ศาลจะมีคำตัดสิน หากตัดสินว่าทำไม่ได้ การทำงานของ กมธ.ที่ผ่านมาจะถือว่าโมฆะ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน’ นายนิกร กล่าว

‘ชทพ.’ถกใหญ่24เม.ย.‘กัญจนา’เปิดใจ

นายนิกร เปิดเผยว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเตรียมจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 24 เมษายน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญ คือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เตรียมเปิดใจและพูดถึงทิศทางทางการเมืองของพรรคต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ นอกจากนั้น นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์และ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานะแกนนำพรรคจะแจ้งถึงผลการดำเนินงานภายใต้กระทรวงและหน่วยงานที่ดูแล รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค

นอกจากนั้นจะหารือถึงการทำบุญพรรคชาติไทยพัฒนา เนื่องในวันสถาปนาพรรค 19พฤศจิกายน ที่พรรคไม่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ที่พรรคชาติไทยถูกตัดสินยุบพรรค ทั้งนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาที่ทำงานการเมืองต่อ ได้ยึดวันที่ 19 พฤศจิกายน เป็นวันสถาปนาพรรคต่อเนื่องมา

‘ครอบครัวพท.’ลุยปักธงดีเดย์12เม.ย.

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรค พท. คือบ้านหลังใหญ่ที่มีหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง จากพรรคไทยรักไทย สู่พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ประชาชนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส จากความบกพร่องผิดพลาดและไร้ศักยภาพของรัฐบาล พรรคพร้อมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน เป็นบ้านหลังใหญ่ ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้กลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้งหนึ่ง พรรคมุ่งมั่นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคืนประชาธิปไตย คืนความหวัง ความฝัน โอกาสและคืนอนาคตให้พี่น้องประชาชน จึงได้กำหนดให้ตัวแทนของพรรคทั่วประเทศลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความคิดความเห็นของพี่น้องประชาชน ภายใต้กิจกรรม‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’เพื่อเป็นการระดมพลังความร่วมมือ ในการนำไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลง คืนชีวิตที่ดีกว่าและอนาคตของพี่น้องประชาชน

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า กิจกรรม‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’ ในครั้งนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ทั่วประเทศตลอดเดือนเมษายนและพฤษภาคม ภายใต้คอนเซ็ปต์‘เข้าถึงตัว เข้าถึงใจ ห่วงใยกัน’เริ่มจากจังหวัดนครราชสีมาวันที่ 12เมษายน เป็นแห่งแรก จากนั้นจะเดินสายจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง พร้อมกันกับตัวแทนของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดต่างๆก็จะจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยคู่ขนาน เปิดรับฟังปัญหา ความเดือดร้อน สะท้อนความคิดความเห็นและเปิดรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยไปพร้อมกันด้วย

ลุ้นประกัน’ธนาธร’คดีม.112-พรบ.คอมฯ

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ส่งความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112และความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อวันที่ 18ม.ค.2564 ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับวัคซีนบนเพจคณะก้าวหน้าและเพจนายธนาธร ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิดของรัฐบาลที่ล่าช้าและมีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ทั้งนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญามีคำสั่งฟ้อง นายธนาธร ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา112เเละพรบ.คอมพิวเตอร์เเละนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเเล้ว ซึ่งศาลมีคำสั่งรับฟ้องเเล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอปล่อยชั่วคราวตามขั้นตอน