"กมธ.กม.ลูก"ชงยื่น 2 ร่าง ถึงมือ"ปธ.ชวน" ดันเข้าสภาฯถก 9-10 มิ.ย.นี้ เผยใช้ 3.2 แสนคะแนนแลก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ด้านซีก ส.ว.ไม่ยันยื่นตีศาลรัฐธรรมนูญตีความชี้ขาดเอาหาร 100 หรือ 500
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รัฐสภา ที่มี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นประธาน กมธ.พร้อมด้วย กมธ.อาทิ นางกาญนารัตน์ ลีวิโรจน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะ กมธ.ฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.และที่ปรึกษา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย โฆษก กมธ. นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เลขานุการ กมธ.ฯ เข้ายื่นร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
ต่อมาในเวลา 14.00 น.นายสาธิต ประธาน กมธ.ฯ แถลงว่า กมธ.ได้ยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ ให้นายชวนเรียบร้อยแล้ว นายชวนแจ้งว่า จะบรรจุเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาได้ในวันที่ 9 - 10 มิ.ย.นี้ มีสาระสำคัญ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะแบ่ง ส.ส.เป็น ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มีวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนำคะแนนรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศหารด้วย 100 มาหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และใช้เบอร์สมัครรับเลือกตั้งต่างเขตต่างเบอร์
ด้าน นายนิกร เลขานุการ กมธ.ฯ กล่าวว่า ในส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น กมธ.แก้ไขวิธีทำไพรมารีโหวตให้สะดวกขึ้น ให้พรรคการเมืองคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ด้วยวิธีไพรมารีโหวตแค่เขตใดเขตหนึ่งในจังหวัดเท่านั้น ไม่ต้องทำทุกเขต ทั้งนี้หลังจากที่ร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับผ่านที่ประชุมรัฐสภา ในวาระ 2 - 3 แล้ว จะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะเจ้าของกฎหมายพิจารณาว่าจะเห็นด้วยหรือแก้ไขกฎหมายในส่วนใดหรือไม่ ไม่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ยกเว้นจะมีผู้เห็นแย้ง สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ โดยใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 10 ส่งให้ตีความ
ส่วน นายสมชัย โฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า หากยึดคะแนนจากการเลือกตั้งปี 2554 เป็นเกณฑ์แล้ว การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามร่างกฎหมายลูกที่แก้ไขใหม่ จะมีค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อต่อคนอยู่ที่ 3.2 แสนคะแนน ส่วนคะแนนปัดเศษหลังจากคำนวณแล้ว ยังได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ครบ 100 คนนั้น พรรคที่จะได้การปัดเศษมี ส.ส.บัญชีรายชื่อในส่วนที่เหลือเพิ่ม อย่างน้อยต้องมีคะแนนเศษตั้งแต่ 1.7 แสนคะแนนขึ้นไป
นางกาญจนารัตน์ ส.ว.ในฐานะ กมธ.ฯ กล่าวว่า แม้ กมธ.จะมีมติวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หารด้วย 100 แต่ กมธ.ที่เห็นต่างยังสงวนความเห็นในชั้นแปรญัตติวาระ 2 - 3 ส่วนตัวเห็นต่างมองว่า ควรหารด้วย 500 เพราะการเขียนกฎหมายลูกต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคเล็ก วิธีการหารด้วย 500 จะทำให้พรรคเล็กได้ประโยชน์ด้วย เพื่อให้คนเหล่านี้ได้มีโอกาสเข้าสภามาทำหน้าที่ออกกฎหมาย แม้โอกาสที่จะเข้ามาเป็นเสียงข้างมากจะเป็นไปได้ยาก แต่ไม่ควรปิดโอกาสกันตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุมรัฐสภาลงมติวาระ 2 - 3 ยืนยันให้ใช้ 100 หาร ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนคงไม่ร่วมลงชื่อตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่กับ ส.ว.คนอื่นๆ ที่เห็นต่างกันเรื่องนี้ ไม่สามารถการันตีได้จะไปเข้าชื่อยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี