“นักสู้ปอสี่”นิตยา นาโล ชู“แรมโบ้อีสาน” ขอบคุณที่ไม่ทิ้งคนรากหญ้าชาวอีสาน ไม่เหมือน “อีโต้อีสาน” ที่ชนะเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่สุดท้ายหักหลังขายตัวไปอยู่พรรคอื่น ย้ำ“คนอีสานไม่เคยลืม”

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ได้เปิดเผยว่า วันนี้เห็น “อีโต้อีสาน” หรือ “นายธีระชัย แสนแก้ว” ออกมากล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี “แรมโบ้อีสาน” หรือ “นายเสกสกล อัตถาวงศ์” เหมือนกับไม่ใช่บุคคลที่เคยเป็นถึงรัฐมนตรีมาก่อน น่าจะเหมือนกับเฒ่าแก่โรงงานน้ำแข็งที่ “ชอบปั้นน้ำเป็นตัว” ตนในฐานะเคยเป็นแกนนำคนเสื้อแดงและเคยต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 – 2556 รู้จัก “อีโต้อีสาน” ในฐานะเกษตรกรชาวไร่คนหนึ่ง เคยรู้สึกชื่นชมที่ได้เป็นถึง “รัฐมนตรี” แต่ถ้าย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง ส.ส. “พรรคพลังประชาชน” ในตอนนั้นในอุดรธานี มีหลายก๊ก ทั้ง “คุณต่อพงษ์ คุณขวัญชัย คุณสุรทิน และ คุณวิเชียร” ต่างคนต่างหาเสียงไม่เคยมีใครช่วยใคร หลังการเลือกตั้ง “พรรคพลังประชาชน” ได้ ส.ส.ยกจังหวัด สุดท้ายพาแกนนำคนเสื้อแดงในอุดรธานี บินด่วนไปพบ “ทักษิณ” ณ ฮ่องกง ในครั้งนั้น แล้วสร้างคำโกหกชิ้นโตว่า “ตนเอง คืออีโต้อีสานนำเอา ส.ส.ผ่านการเลือกตั้งยกจังหวัด”

สุดท้ายนายใหญ่ก็หลงเชื่อปล่อยให้เขาหลอกปูนบำเหน็จได้เป็น รมช.เกษตรฯ ทันที หลังจากนั้นนายใหญ่ทราบเรื่องจึงถูกปลดกลางอากาศ เพราะในอุดรธานี มี ส.ส.หลายก๊ก และไม่มี ส.ส.คนไหนสนับสนุนเป็น รมช.ไม่กี่เดือน จนถูกเว้นวรรคทางการเมืองเพราะพรรคถูกยุบ สุดท้ายทักษิณสั่งทางพรรคไม่ส่งน้องชายอีโต้ลงสมัคร ส.ส.ไปเอาคนสนิทของแกนนำคนเสื้อแดง “จึงทำให้อีโต้อีสาน น้อยใจไม่ห่วงประชาชนหนีไปซบพรรคอื่นทันที” และพร้อมที่จะออกมาต่อต้านเป็นคนละฝ่ายกับคนเสื้อแดงด่าทักษิณและตระกูลชินวัตรอย่างรุนแรงเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงบุกไปเมืองพัทยา “คุณอีโต้อีสาน คุณเคยทำอะไรกับคนเสื้อแดงเอาไว้”เราจำไม่เคยลืม

นางนิตยา กล่าวอีกว่า วันนี้ “อีโต้อีสาน” หรือ “คุณธีระชัย แสนแก้ว” ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ อ.วังสามหมอ อ.ศรีธาตุ และ อ.ไชยวาน ก็ไม่มีคนต้อนรับเพราะเคยด่าอดีต ส.ส.และแกนนำเสื้อแดงที่เขาเคยพาไปโกหก “ทักษิณ” จนได้เป็น รมช. เมื่อไปอยู่พรรคอื่นแล้วก็ยังไปหลอกหัวหน้าพรรค คนในพรรค และ ขอตำแหน่งทางการเมือง จนในพรรคนั้นเอือมละอาย สุดท้ายจะลงพื้นที่หาเสียงแทรกแซงในเขต 3 อำเภอ นี้จนทำให้ “หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย” ทะเลาะกันวุ่นวายกันด่าโจมตีกันออกทางเฟสบุ๊ค จนทาง “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” มีหนังสือส่งมาทางผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอุดรธานีว่า “บุคคลไหนที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทางพรรคยังไม่ได้อนุมัติเป็นผู้สมัคร ส.ส. ห้ามลงชื่อในป้ายหาเสียง หรือป้ายต่าง ๆ ว่า ผู้สมัคร ส.ส.เขตนั้นเขตนี้” วีรกรรมความชั่วร้ายยังมีอีกเยอะ แล้วยังจะมาเปรีบเทียบกับความดีของ “แรมโบ้อีสาน” เพราะเมืองอุดรธานีเป็นเมืองแห่งการเมือง ใครทำดีมีคนพูดถึง ใครทำชั่วก็ยิ่งพูดกันมาก “แรมโบ้อีสาน” ตอนเป็นแกนนำ นปช.ก็เคยช่วยเหลือพวกเรามาตลอดและต่อเนื่อง

แม้ว่า พวกเราจะถูกผู้ใหญ่บางคนหลอกว่าจะจ่ายค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ก็มีแต่ “แรมโบ้อีสาน” เท่านั้นที่ช่วยเหลือพวกเรา พอมาเป็น “ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี” ก็ช่วยประสานงาน กรม และ กระทรวงต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรรากหญ้าอย่างเช่นพวกตน นอกจากนั้นแล้วยังเอาแนวทางและนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแนะนำสอนพวกเราเรื่องการ “รักสามัคคี ปรองดองกันของคนไทยประเทศ” พร้อมกับวางกรอบให้พวกเราออกมา “เปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ยึดมั่นและแน่วแน่ในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“พวกเราไม่ได้ออกมาปกป้อง"แรมโบ้อีสาน" แต่พวกเราอยากจะออกมาบอกว่า คนที่ชื่อ “เสกสกล อัตถาวงศ์” หรือ “แรมโบ้อีสาน” มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และไม่เคยทิ้งประชาชนคนรากหญ้าชาวเกษตรกร มีแต่จะหาโอกาสและสิ่งดีๆมามอบให้กับพวกเราและประชาชน ตั้งแต่ดิฉันรู้จักมา“แรมโบ้อีสาน”ไม่เคย เป็นเหมือนกับใครบางคนที่มีเวลาว่างมาก มาให้ข่าวใส่ร้ายป้ายสี คงจะอิจฉาและต้องการสร้างผลงานให้คนแดนไกลได้เห็น ว่าการที่จะกลับเข้ามาเป็นหมาในคอกนี้ต้องมีผลงานอย่างไรบ้าง ต้องโจมตีใครบ้าง และต้องทำอะไรต่อมิอะไรบ้าง ถ้าเป็นคนอีสานจริง เหมือนกับฉายา “อีโต้อีสาน” ขอให้คุณหยุดการกระทำแบบนี้แล้วหยุดทำลายประเทศหันมาพัฒนาประเทศด้วยกันดิฉันว่าจะมีประโยชน์กว่ากันเยอะ เห็นนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตสส.โคราช อดีตรมช. ที่จะย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย โดนคนในพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับเพราะเคยมีปัญหากับคนเสื้อแดง จนนายบุญจง ต้องยอมถอยออก แต่ทำไมพออีโต้ อิสาน นายธีระชัย ทำความเจ็บปวดกับคนเสื้อแดงแสนสาหัสมากมายกว่านายบุญจงและยังด่าครอบครัววงศ์ตระกูลนายทักษิณโจมตีเสียหายอย่างหนักด้วย ทำไมคนในพรรคจึงยอมให้เข้ามาอยู่ในพรรค ทำไมไม่ออกมาต่อต้านเหมือนนายบุญจง ปล่อยให้เข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร อย่างนี้จะเรียกพรรคสองมาตรฐานได้หรือไม่" นางนิตยา กล่าว