เลือกตั้งรอบหน้าปิ๋วแน่! "มงคลกิตติ์"เย้ย"บิ๊กตู่"ชราภาพ อ่อนแรงไปเยอะแล้ว ไร้กระตือรือร้นแก้ปัญหา ขอ"นายกฯ"ช่วงปี 57-58 กลับมาซัก 50 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ถึงการสร้างหนี้ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ทำให้คนไทยเป็นหนี้ทันทีตั้งแต่เกิด คือ 2.2 แสนบาทต่อคน โดยล่าสุดมียอดหนี้ภาคครัวเรือน มูลคค่ากว่า 14.58 ล้านล้านบาท ขณะที่สถานะการเงินของประเทศไทย พบว่าติดลบ กว่า 2.4 ล้านล้านบาท สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 66 ที่จัดแบบขาดดุล
ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามหารายได้ให้ประเทศในทุกรูปแบบ ทั้ง เร่งเปิดประเทศ , เร่งออกกฎหมายให้กองสลากรับแทงหวยใต้ติด ที่พบว่ามีวงเงิน 5.6 แสนล้านบาท แต่เป็นเงินนอกระบบ ดังนั้น หากทำให้ได้ จะทำให้รัฐมีรายได้ปีละ 4.8 แสนล้านบาท นอกจากนั้นคือ การเปิดบ่อนคาสิโน ในพื้นที่ที่เหมาะสม เบื้องต้นคาดว่าจะทำให้ประเทศมีรายได้ 2 แสนล้านบาท - 8แสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการ
นายมงคลกิตติ์ อภิปรายด้วยว่า การจัดสรรงบประมาณปี 2566 ไม่ต่างจากปีที่ผ่านๆ มา และเมื่อพบการขาดดุล รายได้ไม่เข้าเป้า ใช้วิธีการกู้เพิ่ม ซึ่งวิธีดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง แค่ส่งตัวแทนปลัดกระทรวงมาทำหน้าที่แทนได้ เพราะไม่ได้แตกต่างกัน
"จำเป็นต้องมีผู้บริหารที่รอบรู้ กล้าได้กล้าเสีย มีประสบการณ์ เสี่ยงน้อยที่สุด กล้าแลกเปลี่ยนเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูคนในประเทศ ทั้งนี้ ผมอยากได้นายกฯเหมือนปี 57 - 58 สัก 50% แต่ไม่เห็นด้วยกับที่มา ช่วงนั้นดูเหมือนนายกฯ กระตือรือร้นในการแก้ปัญหา แต่ตอนนี้ดูอ่อนล้า อ่อนแรง ชราภาพ ไม่มีแรงแก่ปัญหาให้ประชาชน ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส แก้ปัญหาไม่ได้เด็ดขาด หากทำตามวาะที่เหลืออีก 10 เดือน สิ่งที่อยากให้ทำเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียโอกาส แม้ 206 เสียงฝ่ายค้าน หากเลือกตั้งตอนนี้ ฝ่ายนายกฯ เหลือไม่ถึง 150 ที่นั่ง หากเทียบกับศรัทธาของประชาชน หากฝ่ายบริหารและพรรคร่วมแก้ปัญหาไม่ได้ หรือทำเพื่อประคอบสถานการณ์ไปวันๆ เชื่อว่าไม่สามารถกลับมาบริหารได้เหมือนกับผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่อำนาจเงินไม่อาจซื้อได้" นายมงคลกิตติ์ อภิปราย
- 006