‘ก้าวไกล-สายเมาบ้านๆ’เฮลั่น! สภาฯขลุกขลักหวิดล่ม ก่อนโหวตฉลุย‘กม.สุราก้าวหน้า’ เปิดช่องรายเล็กทำเหล้า-เบียร์เอง
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... หรือร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า วาระที่ 1 รับหลักการ ที่นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดยมีสาระสำคัญคือเปิดให้รายย่อยสามารถผลิตและจำหน่ายสุรา โดยลดเงื่อนไขการขออนุญาตลงมา แต่ปรากฏว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอนำร่างดังกล่าวกลับไปทบทวน ก่อนส่งกลับมาให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาในวันนี้
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนครม. ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่างกฎหมายหลัก แต่สามารถแก้ไขในกฎหมายลำดับรอง หรือกฎกระทรวงที่ได้กำหนดควบคุมการผลิต กำลังการผลิต วัตถุดิบ ปริมาณ และอื่นๆ ได้
ด้านนายเท่าพิภพ กล่าวว่า ตนได้ไปชี้แจงสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับฟัง ก็คิดว่าจะสามารถเปลี่ยนใจรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่า ทำไมคนตัวเล็กถึงทำเหล้า ทำเบียร์ขายไม่ได้ การตั้งคำถามว่าต้มเหล้าทำเบียร์แล้วใส่สารต่างๆผสมสารอันตรายต่อสุขภาพเข้าไปจะทำอย่างไรนั้น ตนยืนยันว่าการควบคุมคุณภาพยังคงเหมือนเดิม ร่างกฎหมายที่เสนอนั้นไม่ได้เข้าไปแก้ไขอะไร ดังนั้น การพูดในลักษณะนี้จึงถือเป็นการใส่ร้ายของราชการและนายทุนใหญ่
จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้อภิปราย โดยมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า อาทิ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสมาชิกอภิปรายได้ระยะหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมติของครม.ที่ไม่รับร่างฉบับนี้ ในขณะที่ยังมีผู้อภิปรายเหลืออยู่ 8 คน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอญัตติขอปิดการอภิปราย เพราะเห็นว่าสมาชิกมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นขอให้นายณัฐพงษ์ยอมที่จะให้สมาชิกที่เหลือได้อภิปรายให้จบ เพราะทุกคนเตรียมตัวมาแล้ว แต่นายณัฐพงษ์ได้ร้องต่อประธานว่าหากจะให้สมาชิกอภิปรายต่อ ประธานต้องให้สัญญาว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะได้ลงมติในวันนี้ เพราะกังวลจะถูกลากออกไปจนองค์ประชุมไม่ครบ แต่นายสุชาติชี้แจงว่าไม่สามารถให้สัญญาได้ เนื่องจากการโหวตขึ้นอยู่กับองค์ประชุม
ทั้งนี้ ทำให้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายต่อ ทำให้ที่ประชุมต้องลงมติว่าจะอภิปรายต่อหรือไม่ และเกิดข้อถกเถียงกันจนหาข้อสรุปไม่ได้ ในที่สุด นายสุชาติจึงขอให้วิปแต่ละพรรคไปหารือกัน และสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที
ต่อมาเวลา 19.11 น. ได้กลับมาประชุมอีกครั้ง โดยนายณัฐพงษ์ขอให้นายสุชาตินั่งเป็นประธานจนจบ ไม่ปิดประชุมก่อน ถ้านายสุชาติยืนยันตนยินดีถอนญัตติ ด้านนายสุชาติ กล่าวตอบว่า “ท่านกลัวกิตติศัพท์ผมที่ปิดประชุมหรือ ผมทำหน้าที่จนจบ ไม่ต้องห่วง”
ต่อมาได้มีการเปิดให้สมาชิกอภิปรายต่อจนถึงเวลา 20.15 น. ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังชี้แจงถึงการแก้ไขกฎกระทรวงที่จะสอดรับกับความต้องการของส.ส. ทั้งนี้จะใช้เวลา3 เดือนก่อนจะเสนอให้ครม. พิจารณา โดยจะปรับในประเด็นการขออนุญาตและเงินทุน จากนั้นที่ประชุมได้เรียกแสดงตนก่อนลงมติ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมเห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 137 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ไม่ลงคะแนนไม่มี จากผู้เข้าร่วมประชุม330เสียง
จากนั้นที่ประชุมได้ตั้งกมธ.วิสามัญ จำนวน25คน สัดส่วน ครม.5 คน สัดส่วนจากพรรคการเมือง 20คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 6 คน พรรคพลังประชารัฐ 4 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน พรรคก้าวไกล 2 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน
ทั้งนี้บรรยากาศส.ส.พรรคก้าวไกลที่อยู่ในห้องประชุมปรบมือพร้อมมีเสียงเฮ ด้วยความดีใจ สวมกอดนายเท่าพิภพ เพื่อแสดงความยินดีด้วย จากนั้นประธานได้สั่งปิดการประชุม
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี