ประชุมก.ม.ลูก15ส.ค.อลเวงแน่

สว.ส่งซิกสภาล่ม

ปัดใบสั่ง‘บิ๊กป้อม’ล้มสูตรหาร500

อ้างโหวตไปอาจขัดรัฐธรรมนูญ

พรรคเล็ก-กลุ่ม16ดิ้นเฮือกสุดท้าย

จ่อร้องศาลสูตรหาร100ขัดรธน.

ภท.ยกทัพลงใต้ท้ารบประชาธิปัตย์

สว.เสรี สุวรรณภานนท์ มองประชุมรัฐสภา 15 สิงหาคม อาจล่มซ้ำรอยเหตุหากลงมติส่อขัดรัฐธรรมนูญ ยิ่งถลำลึกผิดมากกว่าเดิมชี้หวนคืนหาร 100 แม้วิธีประหลาดแต่อยู่ในเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ยัน ไม่มีใบสั่ง “บิ๊กป้อม” พลิกใช้หาร 100 ด้านพรรคเล็ก-กลุ่ม 16 ดิ้นหนัก จ่อร้องศาลหยุดสูตรหาร 100 ขณะที่ “เสี่ยหนู” ยกทัพภูมิใจไทย ลงกระบี่-พังงา ตีท้ายครัวประชาธิปัตย์ แม่ทัพหญิง “นาที รัชกิจประการ” ประกาศกวาด สส.สายใต้ 20 ที่นั่ง

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 15ส.ค.ที่จะครบกำหนด180 วัน ต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดว่า ยังไม่ทราบจะมีส.ว.มาร่วมประชุมวันดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน เพราะให้เป็นเอกสิทธิส.ว.แต่ละคนจะมาหรือไม่มาประชุม ส่วนตัวมองทิศทางแล้วน่าจะเกิดเหตุสภาล่มเหมือนการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 10ส.ค.2565 เพราะหากมาร่วมประชุมแล้วไปลงมติในร่างกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อาจยิ่งถลำลึกผิดมากกว่าเดิม ยืนยันการแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2ใบ ต้องใช้วิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร100เท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ การใช้วิธีหาร 500คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถูกหลักกฎหมาย จะปล่อยให้กฎหมายผ่านไป จนเกิดความเสียหายต่อประเทศไม่ได้ จำเป็นต้องใช้วิธีพิจารณากฎหมายไม่แล้วเสร็จภายใน 180วัน ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา132(1)กำหนดไว้ ให้กลับไปใช้เนื้อหาร่างแรกที่ครม.เสนอมาคือ การใช้สูตร 100หาร อาจเป็นกระบวนการที่ดูประหลาด แต่เป็นกลไกที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น หากให้โหวตวาระ3 แล้วกฎหมายไม่ผ่าน ต้องไปนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด ยิ่งเสียเวลา

ถ้าออกกฎหมายเลือกตั้งไม่ทันการเลือกตั้งคราวหน้า ต้องไปออกพ.ร.ก.แทน ยิ่งสร้างความขัดแย้งหนักขึ้น ประชาชนคงไม่ยอม จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้ ป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติในประเทศ

ไม่อยากให้เสียเวลามากกว่านี้

นายเสรีกล่าวว่า การใช้กลไกให้กฎหมายลูกเสร็จไม่ทันใน180 วัน จนเกิดสภาล่ม ถือเป็นกรณีพิเศษจากการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติในมาตรา 132(1)เป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่หลายฝ่ายเห็นตรงกัน ไม่ใช่สภาล่มเพราะมีเจตนาไม่ทำงาน ไม่ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกรัฐสภา แต่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ได้กฎหมายเลือกตั้งส.ส. โดยไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้

“ยืนยันไม่ได้ทำตามใบสั่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่อยากได้สูตรหาร100 เพราะตนยืนยันหลักการมาตลอด บัตร 2ใบ ต้องใช้การหาร100เท่านั้น โหวตสนับสนุนการหาร 100มาตลอด และส.ว.หลายคนก็เห็นตรงกันว่า การใช้สูตรหาร 500ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ” นายเสรี กล่าว

กลุ่ม16ดิ้นสู้อยากใช้สูตรหาร500

นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย และเลขานุการ ส.ส.กลุ่ม 16. กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภานัดพิเศษวันที่ 15 ส.ค.นี้เพื่อพิจารณาพรป.เลือกตั้ง ในประเด็นส.ส.บัญชีรายชื่อสูตรหาร 100 และหาร 500 ว่า จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา เกิดสภาล่มทำให้ภาพพจน์ของสภาไม่ดี ประชาชนตั้งคำถามมากมาย และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ พร้อมกระแสข่าวลือมากมาย เกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีข่าวลือว่า พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกับ พรรคเพื่อไทย ชูพล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่เชื่อ และเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพี่น้อง 3 ป.ยังรักกันดี รักกันเหนียวแน่น คงมีบางคนปล่อยข่าวออกมา เพื่อหวังผลทางการเมืองของใครบางคน

นายคฑาเทพ กล่าวว่า ส่วนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 และหาร 500นั้น ถึงจะมีบางพรรคบางคน ทำให้สภาล่มบ่อยครั้งเพื่อให้กลับมาใช้สูตรหาร 100 ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นที่พอใจของพรรคเพื่อไทย อย่าเพิ่มเปิดแซมเปญฉลอง อย่าฝันหวานเพราะยังไม่จบ ยังมีอีกหลายยก และมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จะใช้สูตรหาร 500 อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นนายกฯ อยู่ครบ 8 ปีนั้น ตนเชื่อว่า ไม่มีปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม คงผ่านไปได้ และปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมต่อไป

หมอระวีปักหลักสู้ขอหาร500

ก่อนหน้านี้นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. .... รัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 15 ส.ค. หากการประชุมล่ม และต้องกลับไปใช้สูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100 พรรคเล็กจะต่อสู้อย่างไรต่อไป ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิภา จะพิจารณาเองว่า จะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ และทำหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เมื่อถามว่ามีแนวทางให้องค์ประชุมครบ เพื่อเริ่มพิจารณากฎหมายอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า เราทำได้เพียงเรียกร้องเรื่องจริยธรรมของสมาชิกเท่านั้น อย่างอื่นเราทำอะไรไม่ได้เพราะขณะนี้ก็มีข่าวออกมาว่าพรรคนั้นพรรคนี้ยืนยันจะเอาแบบเดิมและไม่มาประชุม แถมยังมีการให้ ส.ว.บางคนที่รับใช้นายออกมาพูดว่า วิถีการให้สภาล่มเป็นวิถีตามกฎหมายที่ทำได้ ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนดูอยู่และจะตัดสินเอง

จ่อร้องศาลตีความหาร100ขัดรธน.

เมื่อถามว่าหากสุดท้ายต้องกลับไปใช้หาร 100 ตามร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคเล็กจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า พรรคเล็กกำลังร่างคำร้องอยู่ และรอตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจะรวบรวมรายชื่อส.ส.ให้ครบ 50 คน และยื่นคำร้องในช่วง ร่าง พ.ร.บ.ฯ อยู่ในมือนายกรัฐมนตรี ระหว่างที่รอทูลเกล้าฯ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าหาร 100 ผิดรัฐธรรมนูญ

‘ก้าวไกล’ร่วมเป็นองค์ประชุม

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อโฆษกพรรคก้าวไกล(กก.)กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานัดประชุมรัฐสภาในวันที่15ส.ค.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ต่อนั้นว่าในส่วนของพรรคก้าวไกล ยังเหมือนเดิมคือวันที่15ส.ค.ก็จะเข้าประชุมร่วมรัฐสภาและจะทำหน้าที่ในการยืนยันว่า ระบบที่กลับไปกลับมา มันไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญซึ่งในจุดยืนของก้าวไกล ยังคงเหมือนเดิม

ชูเจตจำนงค้านสูตรหาร500

เมื่อถามว่าเข้าประชุมและจะร่วมเป็นองค์ประชุมด้วยหรือไม่นายรังสิมันต์กล่าวว่า สำหรับพรรคก้าวไกล ก็จะเข้าเป็นองค์ประชุมเพราะเรายังมองว่าการเป็นองค์ประชุม ไม่ได้เสียหายอะไรและคิดว่าการเป็นองค์ประชุม เราสามารถแสดงเจตจำนงได้ว่าสุดท้ายเราไม่เห็นด้วยกับระบบสูตรหาร500อย่างไรและตนคิดว่าทางพรรคก้าวไกล ก็ชัดเจน แต่ว่ากระบวนการก็ต้องเดินหน้าต่อซึ่งเราก็ทำหน้าที่ของเรา

จี้คืนอำนาจไม่เอาทั้งบิ๊กตู่-บิ้กป้อม

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯขึ้นมา เป็นรักษาการนายกฯแทนมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แน่นอนว่า มีนัยยะ แต่ถึงที่สุดแล้วสำหรับพวกเรามันก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร เพราะเขามาด้วยกันอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกันดังนั้น ปัญหาหลายๆอย่าง เราคงต้องหาทางแก้แต่แน่นอนว่า ขั้นตอนแรกก็ต้องว่ากันที่ พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯต่อไปได้ ส่วนใครจะเป็นรักษาการนายกฯก็คงจะต้องมาดูกัน

“ในมุมของพรรคก้าวไกล คิดว่าดีที่สุดคือสร้างกระบวนการเพื่อเตรียมไปสู่การเลือกตั้ง คืนอำนาจให้กับประชาชน และให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจซึ่งความช้าก็อยู่ที่ตรงที่ตัวกฎหมายเลือกตั้ง หากสมมติว่ากฎหมายเลือกตั้งพร้อมเร็วก็จะสามารถที่จะไปสู่กระบวนการคืนอำนาจให้แก่ประชาชนและเลือกตั้งต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากเราสามารถทำตรงนี้ได้เสร็จเรียบร้อย ก็คิดว่าจะมีสัญญาณบวกตามมา”นายโรมย้ำ

พปชร.ลั่น15สค.เข้าประชุมชัวร์

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 15 ส.ค.เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า พรรคพปชร. เข้าประชุมอยู่แล้ว ส่วนการประชุมครั้งที่แล้วเมื่อวันที่10 ส.ค.ที่เกิดปัญหา เราก็เข้าร่วมประชุมแต่ต้องยอมรับว่ามีผู้แทนบางส่วนที่ติดภารกิจ วันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ขอให้เข้าใจความรู้สึกของส.ส.ว่าไม่ใช่มีหน้าที่แค่ในสภาฯแต่ยังมีภารกิจลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยวันดังกล่าวเปรียบไปก็เหมือนวันเกิด ที่ไม่ได้มีบ่อยครั้งก็ต้องเห็นใจส.ส.ด้วย

สำหรับการประชุมวันที่ 15 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.สั่งให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพปชร.ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ถูกจับจ้องว่าจะกระทำซ้ำรอย เหมือนวันที่10 ส.ค.ได้พูดคุยกำชับส.ส.อย่างไรบ้าง นายนิโรธ กล่าวว่า เรื่องการเข้าร่วมประชุม ทางวิปรัฐบาลมีมติแล้วว่าให้เป็นไปตามครรลองของสภา ซึ่งทุกพรรคก็ปฏิบัติตาม แต่ย้ำว่าเมื่อเกิดเหตุวันที่ 10 ก็ยอมรับสภาพที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อถามว่าประเมินว่าการประชุมวันสุดท้าย ทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน ทำให้สามารถลงมติในวาระสามได้หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ทุกคนรู้หน้าที่ แต่ตนไม่สามารถไปคาดเดาการตัดสินใจของแต่ละคนได้ เพราะเป็นเจตจำนงที่จะลงหรือไม่ลงมติ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนพรรคพปชร.ยืนยันมาตลอดไม่ว่าจะใช้สูตรคำนวณหาร 500 หรือหารด้วย 100 ก็ได้ทั้งนั้น เราไม่เกี่ยง

เมื่อถามย้ำถึงข้อสังเกตว่าในการประชุมครั้งสุดท้าย อาจมีความพยายามยื้อเวลา ไม่ให้พิจารณาทันกรอบเวลา 180 วัน และกลับไปใช้ร่างเดิมของรัฐบาล ตามที่มีบางกลุ่มต้องการ นายนิโรธ กล่าวว่า ไปคาดเดาไม่ได้ สำหรับตนปวดหัวกับทุกร่างไม่ว่าจะเป็นร่างไหนและเรื่องนี้หากย้อนกลับไปจะเห็นว่าปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ต้นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีทั้งฉบับที่สมบูรณ์มากก็มี ไม่สมบูรณ์ก็มี ซึ่งไม่มีอะไรพอดี แต่มาถึงขณะนี้ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เมื่อแก้ไขแล้วก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ และทางที่ดีเห็นว่าควรทำไปตามครรลองของระบบ แต่เราไม่สามารถไปการันตีได้ว่าแต่ละพรรคมีเจตนาในการลงมติอย่างไร

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยังแสดงจุดยืนเดิม ที่จะไม่เป็นองค์ประชุม จะพูดคุยอย่างไร นายนิโรธ กล่าวว่า เป็นการแสดงจุดยืนของเขา แต่ต้องถามว่าเป็นการแสดงจุดยืนที่ถูกต้องหรือไม่

‘สมชัย’ชี้ 8ข้อ พปชร.เอาหาร100

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และเป็นอดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ผ่านเพจ สมชัย ศรีสุทธิยากร แสดงความคิดเห็นถึงเหตุผล ทำไมพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ถึงต้องการสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร100 เหมือนพรรคเพื่อไทย(พท.X

โดยระบุว่า“มีคำถามที่นักวิเคราะห์การเมืองคิดไม่ตก คือ ทำไม พปชร.และเศรษฐกิจไทย ที่อยู่อีกซีกฝั่งทางการเมืองจึงหนุนหารร้อย ทั้งๆ ที่คือการป้อนชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ให้กับเพื่อไทย

นี่คือมุมมองที่เก็บตกจากการวิเคราะห์ของหลายคนที่ปรากฏตามสื่อ อาจใช่หรือไม่ใช่ทั้งหมด

1.พปชร. ยังมีมุมการวิเคราะห์ว่า เขายังคงเป็นพรรคใหญ่ มีความได้เปรียบในฐานะรัฐบาล เชื่อว่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังขายได้ ดังนั้น แนวทางหารร้อยจึงยังเป็นแนวทางที่พรรคได้ประโยชน์ เรียกง่ายๆ ว่า หลงตัวเองว่าจะชนะเลือกตั้ง 2.อาจมีดีลระหว่าง พปชร.กับเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมในอนาคต โดยไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งเพื่อไทยรับได้ และลุงในป่าก็อยากได้ คนชื่อ พ. ไปคุยกับคนชื่อ ท. เรียบร้อย แต่เชื่อเหอะ ท.รอบจัดกว่าเยอะ 3.นักการเมืองใน พปชร.จำนวนไม่น้อยมีรากมาจากเพื่อไทย วันนี้ร่วมยุทธการกับเพื่อไทยเป็นไมตรี วันหน้า หาก พปชร.ไม่รุ่ง เพื่อไทยคือที่พักใหม่ ที่จองผ่านอโกด้า และจ่ายมัดจำไว้เรียบร้อยแล้ว 4.ผู้มีอำนาจเบื่อเหนื่อยกับการแจกกล้วยพรรคเล็ก ที่ผ่านมาหมดไปหลายสวน หากหารห้าร้อยเกรงว่ากล้วยจะหมดโกดัง ถึงเวลาฆ่าลิง

5.ทั้งเพื่อไทยและ พปชร. หวั่นไหวต่อพรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่กระแสมาแรงแล้วจะมาแทนที่ หารร้อยคือการทำให้พรรคใหม่ไม่โตเร็วเกินไป 6.สองลุงแม้รักกัน แต่กองเชียร์กลับต่างเชียร์ลุงฝั่งตน เมื่อลุงหนึ่งเริ่มเสื่อมเพราะคนเบื่อ กองเชียร์ของอีกลุงจึงปรารถนาเสียบ สูตรนี้จึงตามใจลุงคนที่สองจากกองเชียร์คิด เพราะลุงตกเลข คิดเองไม่เป็น ไม่รู้ตลอด 7.มิตรแท้และศัตรูถาวรในทางการเมืองไม่เคยมีจริง ผลประโยชน์ตรงกันคือมิตร ผลประโยชน์ต่างกันคือศัตรู นี่คือสัจจธรรมในทางการเมือง 8.เกมผลักดันหารร้อยนี้ ผู้เล่นหลักที่เป็นคีย์แฟกเตอร์ คือ พปชร. โดยเพื่อไทยเขาอยู่เฉยๆ และยืนในหลักการที่เขาอยากได้มาโดยตลอด ความสำเร็จที่เอาศักดิ์ศรีสภามาลงทุน หากอยากชมต้องชม พปชร. หากอยากด่าต้องด่า พปชร.แท้

ทัพภท.บุกกระบี่เปิด3ผู้สมัครส.ส.

วันเดียวกัน เวลา09.30น.ที่บริเวณลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)กระบี่ จ.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางนาที รัชกิจประการ แกนนำพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ และส.ส.ภาคใต้ของพรรค ได้มาร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กระบี่ได้แก่นายกิตติ กิตติธรกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 1 นายถิรเดช ตั้งมั่น ก่อกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ เขต 2 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 3 และนายกิตติชัย เอ่งฉ้วน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีชาวกระบี่มาร่วมกิจกรรมประมาณ3,000คนซึ่งบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้สลับกันขึ้นปราศรัยชูนโยบายโครงการพัฒนาในพื้นที่ พร้อมย้ำ“ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ”และชาวบ้านที่ร่วมงานได้ชูป้าย“พูดแล้วทำ ยกทั้งจังหวัด”

ทั้งนี้ นายอนุทิน เดินทางมาถึงบริเวณลานพระอาทิตย์ได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมงานขณะที่ประชาชนขอถ่ายภาพกับนายอนุทินตลอดทาง พร้อมมีการแสดงพื้นบ้านของทางภาคใต้เพื่อต้อนรับนายอนุทินและคณะซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักยนายอนุทินได้ร่วมรำรองเง็งอย่างสนุกสนาน

จากนั้น นายอนุทิน ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปู่ภุชงค์นาคราช ผู้สื่อข่าวถามว่านายอนุทินว่าขออะไร โดยนายอนุทินระบุว่า“ขอให้ได้ยกทั้งจังหวัด”

เลือกภท.เพิ่มจะได้อีก10กระทรวง

ต่อมา เวลา 10.25น.นายอนุทิน ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่าตนและทีมงานมาจากกทม.ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ที่จะได้มาพบพี่น้องชาวกระบี่ ตนมีแฟนเป็นคนใต้ที่เพิ่งคบกันมา1ปี เลยพูดใต้ยังไม่ชัดแต่ถ้าคบกันไปนานๆแล้ว คนใต้ยังไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยก็คงต้องลาออกแล้วทั้งนี้ขอให้เลือกส.ส.กระบี่ของพรรคภูมิใจไทยทั้ง3คน กาทั้งสองใบ ท่านจะได้มีส.ส.บัญชีรายชื่ออีก1คน มารับใช้พี่น้องชาวกระบี่ ถ้าได้4 คน จ.กระบี่ต้องเจริญกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า แต่ถ้ามี 4 คน ยังทำประโยชน์ไม่ได้ จะไม่มีวันเรียกตัวเองว่าเป็นคนอีกต่อไป

พรรคได้เข้าไปในสภา มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล มี รมว.สาธารณสุข รมว.คมนาคม และรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เราตั้งใจทำงาน 3 กระทรวงนี้ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยว คมนาคม ที่เราได้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ ขอให้ท่านเลือกพรรคภูมิใจไทยเพิ่มมากขึ้นจาก 3กระทรวงจะได้เป็น 10 กระทรวง จะได้ทำงานได้ครบทุกด้านมากขึ้น จ.กระบี่เป็นจังหวัดเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย กระบี่ต้องทัดเทียมภูเก็ต โดยให้ จ.ภูเก็ต กระบี่และพังงา เป็น 3 จังหวัดแกนนำกลุ่มอันดามัน

อ้อนกระบี่กวาดยกทั้งจว.ได้1รมต.

“วันนี้พรรคภูมิใจไทยมาเสนอตัวให้พี่น้อง ถ้าท่านไว้วางใจ พวกเราจะได้ทำงานได้เต็มรูปแบบเต็มที่ เราจะพลิกความขัดแย้ง ทั้งหมดมาเป็นความสามัคคี ให้ประชาชนมีสุขภาพดี สร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ จากนี้ไปจะช้าเร็วไม่เกิน1ปี พี่น้องจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าท่านเลือกคนเดียว ก็จะได้แรงเดียว ทำงานเต็มที่ไม่ได้ แต่ถ้าท่านเลือก3คน บวก1คน เป็น4 คน จ.กระบี่ก็จะมีรัฐมนตรี ผมไม่ได้โม้เวลาที่พูดว่าจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผมพูดตามข้อเท็จจริง ถ้าได้ยกจังหวัด ทำไมจะให้ จ.กระบี่ไม่ได้ ไม่ต้องเอาเป็นภาค เอาเป็นจังหวัดไปเลย”นายอนุทิน กล่าว

เอาใจอสม.เพิ่มค่าตอบแทนเป็น2พัน

นายอนุทิน ยังกล่าวบนเวทีถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยเกณฑ์ อสม.มาร่วมงานในวันนี้ด้วยว่า“ก่อนมามีคนดูถูกเราว่า“ผมมาต้องเกณฑ์ อสม.มาฟังจะเกณฑ์ทำไม ผมต้องมาหา อสม.ไม่ใช่อสม.มาหาผม อสม.คือ หัวใจของระบบสาธารณสุข ถ้าไม่มี อสม.ก็เดินไม่ได้ ที่บอกว่าเกณฑ์มาไม่ใช่เรื่องจริง ท่านมาเพราะอยากเจอผมใช่หรือไม่”และยังย้ำอีกว่าขณะนี้อสม.รับเงินค่าตอบแทน 1,500บาท มา 2 ปีแล้ว เราจะอยู่ที่เดิมทำไม มันต้องเพิ่มขึ้น เอาไปเลย 2,000 บาท เพราะอสม.เป็น หมอคนแรก ทำงานให้บ้านเมืองนี้มากมาย ทำให้สุขภาพประชาขนดีขึ้น

‘เสี่ยหนู’ยันไม่เคยด้อยค่า‘จุรินทร์’

นายอนุทิน ยังกล่าวกรณีพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุอย่าด้อยค่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มี เราไม่เคยด้อยค่าใครอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถูกกระทำมาโดยตลอด เราไม่เคยไปฟ้องร้อง หรือทำอะไร หรือให้ร้ายกับคู่แข่งเลย มีแต่เราถูกคู่แข่งให้ร้ายว่ากล่าวและถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยด้วยซ้ำ มาวันนี้ยังถูกกล่าวหาว่าขน อสม.มาทั้งที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เรามาทำงาน มาเสนอนโยบายให้กับประเทศชาติ ไม่เคยไปท้าตีท้าต่อยกับใครอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าฝั่งอันดามันจะแลนด์สไลด์ นายอนุทิน ตอบว่า มั่นใจ เพราะว่าเราทำงาน มีนโยบายที่ดีและผู้สมัครเข้าใจนโยบายของเรา และอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา แข่งกันทำความดี แล้วชาวบ้านจะเป็นคนเลือกเอง ส่วนกรณีรองโฆษกพรรค ปชป.บอกว่าให้หัวหน้าพรรคสั่งสอนลูกพรรค นายอนุทินกล่าวว่าตนสั่งสอนทุกวันให้ดูแลประชาชน ให้ทำความดี ให้ทุ่มเทเสียสละ ให้ทุ่มชีวิตให้กับประชาชนเหมือนหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค

ภท.เปิดตัว2ผู้สมัครสส.พังงาคึกคัก

ต่อมาเวลา14.00 น.ที่โรงแรมอานานาแกรนด์ รีสอร์ท ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นายอนุทิน พร้อมคณะ ร่วมเปิดตัวผู้สมัครพรรคทั้ง2เขตใน จ.พังงา ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายอรรถพล ไตรศรี(รองนายก อบจ.พังงา) เขตเลือกตั้งที่ 2 นายอำนาจ ดำรงพิทยากุล ( สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา) ทั้งนี้ การเปิดตัวครั้งนี้ มีการนำ นายธราทิป ทองเจิม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พังงา พร้อมคณะสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงาทั้งหมดขึ้นร่วมโชว์ตัวบนเวทีเพื่อยืนยันรวมพลังสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยอีกด้วย ท่ามกลางประชาชนหลายพันคน

นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่าเห็นชื่อว่าที่ผู้สมัครทั้ง2เขตแล้ว คงไม่ต้องบอกคุณสมบัติ นี่คือบุคคลที่ดีที่สุดสำหรับชาวพังงา ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้ส.ส.2คนได้รับใช้ชาวพังงา จะไม่ใช่แค่เมืองทางผ่านจะเป็นเมืองท่องเที่ยว จ.พังงา มีศักยภาพมาก มีความพร้อมในการพัฒนา ถ้าพรรคได้รับความเมตตาจากชาวพังงา จะต้องจัดงบส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวทั่วประเทศ เอาพัฒนาจังหวัดรอง มาพัฒนาเสริมสร้างเศรษฐกิจ ทำทุกอย่าง เพื่อให้ชาวพังงามีโอกาสทำมาหากินเพิ่มขึ้น พรรคพูดอะไรแล้วทำหมด ทำสำเร็จด้วย เรากล้าทำ

“เราคัดเลือกผู้สมัคร คนที่คุ้นเคยกับชาวพังงาทั้งหมด พรรคขอฝากตัวกับพี่น้องชาวพังงา บางพรรคยังเหนื่อยกับการรักษาพรรคไม่ให้แตกแยก บางพรรคเป็นปัจจัยความขัดแย้ง บางพรรคอยู่มานานแต่ไม่ทำอะไรซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่ขัดแย้ง ทำงานไม่แตกความสามัคคี พี่น้องชาวพังงาจะได้พรรคภูมิใจไทยมาทำงานด้วยความมั่นใจ เราไม่เสนอนโยบายเพ้อฝัน เราเสนอสิ่งที่ทำได้และทำเร็ว เราขอโอกาสให้เราได้ทำให้ชาวพังงาเจริญรุ่งเรืองทุกมิติ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มา จ.พังงา ได้มาตีไข่แตกแล้ว ขอโอกาสให้เราได้มาบ่อยๆเพื่อทำให้พังงารุ่งเรือง” นายอนุทิน กล่าว

แม่ทัพใต้ขอโอกาสลุยพัฒนาใต้

ด้านนางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทยและแม่ทัพภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสการแข่งขันการเมืองในภาคใต้อย่างรุนแรงในพื้นที่ว่าเราทำการเมืองอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และสิ่งที่ตัวเองเคยรับปากไว้ เราพูดและเราทำวันนี้จึงมาขอโอกาส เดิมได้ ส.ส.8 คนและบัญชีรายชื่อ 3 คน วันนี้เรามาขอเติมเต็มจากพี่น้องภาคใต้ให้เราได้สร้างและพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าเดิม และเติมเต็ม เพราะที่ผ่านมาเราขาดโอกาสมานาน โดยเฉพาะการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว ในฐานะที่พรรคมีรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ภาคใต้ไม่ได้แพ้ใครในโลกแต่เราแค่ขาดโอกาสในการพัฒนาพื้นที่เท่านั้น

เมื่อถามว่าภาคใต้รุนแรงหรือไม่ นางนาที ยอมรับว่า“เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพรรคภูมิใจไทย วันนี้ขอขอบคุณที่พรรคการเมืองเกิดขึ้นมากมายเพื่อเป็นทางเลือกประชาชน ส่วนเรื่องการเมือง ในฐานะที่เป็นแม่ทัพภาคใต้เราไม่เคยคิดว่ามีปัญหากับใครเพราะเราทำการเมืองเพื่อปากท้องประชาชนในแง่ความขัดแย้งเราไม่มี

ขอ20สส.ใต้เมินปชป.กวาด40ที่นั่ง

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยตั้งเป้า ส.ส.ภาคใต้กี่คนนั้น นางนาทีกล่าวว่า 20 บวก ถือว่ามากหรือไม่จาก58 เขต เราขอแค่20 บวกไม่ได้อะไรมากมาย หากเราได้20 บวก จะทำให้ภาคใต้โตอย่างต่อเนื่องและสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล เช่นจ.พัทลุง โต400%

ส่วนกรณีนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคปชป.ประกาศว่าจะเอา40ที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้นางนาทีกล่าวว่า“ดิฉันมักน้อยขอแค่20บวกพอทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ถ้าหากพี่น้องให้โอกาสพวกเรา จะทำให้ดูและทำให้ภาคใต้มีรายได้ให้ประชาชนอย่างมหาศาล ที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำแบบขาดๆหายๆ

ปชป.เปิดตัว2ผู้สมัครสส.สตูล

บ่ายวันเดียวกันจังหวัดสตูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะ “จุรินทร์ ออนทัวร์” ลงพื้นที่พบปะแกนนำสมาชิก สาขาพรรค เขต 1 และเขต 2 จังหวัดสตูล ที่โรงแรมสตารินทร์ รีสอร์ท อ.เมือง เพื่อเปิดตัว นายเกตุชาติ เกษา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 ส่วนเขต 1 มีตัวผู้สมัครแล้ว รอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อมาพบกับแกนนำของพรรค ทั้ง 2 เขต แต่ครั้งนี้จะเน้นที่เขต 1 เป็นหลัก และจะมาอีกครั้งในพื้นที่เขต 2 ซึ่งสตูลจะมี 2 เขต ขณะนี้พรรคฯ มีผู้สมัครพร้อมแล้วครบทั้ง 2 เขต เพียงแต่เขต 1 ยังประกาศตัวไม่ได้ เพราะติดในเรื่องการรับราชการอยู่ แต่ทั้งเขต 1 และเขต 2 ล้วนเป็นบุคคลที่มีศักยภาพ และเป็นเลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ตนก็มั่นใจว่าจะเป็นเลือดใหม่ของจังหวัดสตูลสำหรับพี่น้องประชาชนต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ

สำหรับผู้สมัครเขต 1 นั้นได้ลงพื้นที่มาระยะหนึ่งแล้ว และเป็นข้าราชการอยู่ใน อ.เมือง จ.สตูล เมื่อรอจังหวะเหมาะก็จะได้ประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป แต่ไม่ได้แปลว่าพรรคจะลังเลอะไร เพียงอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย จะได้ไม่ต้องติดขัดอะไร สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียนว่าพรรคตัดสินใจแล้วในการได้บุคคลทั้ง 2 นี้เป็นผู้สมัครในนามพรรค