‘ธนกร-แรมโบ้’ประสานเสียง

อัด‘ฝ่ายค้าน’ตาถัว

ชูผลงาน‘ประยุทธ์’เหลือล้น

ทั้งEECยันรถไฟความเร็วสูง

เพื่อไทยดักคออย่าเพิ่งยุบสภา

รอก.ม.ลูกก่อนค่อยจัดเลือกตั้ง

ภท.จ่อชง‘บิ๊กป้อม’ปรับครม.

“ธนกร-แรมโบ้” จับมืออัดกลับฝ่ายค้าน ตาถั่ววนเวียนสร้างเรื่องดิสเครดิตนายกฯ “บิ๊กตู่” รายวัน ยันผลงานอื้อ หลายนโยบาย “บิ๊กตู่” โดนใจปชช.ทำให้ประเทศไทยเจริญ พ้นจากความยากจน ด้าน “ภูมิใจไทย” เตรียมพร้อมหากปรับ ครม.จ่อส่ง “ชยุต ภุมมะกาญจนะ” โควตา “กลุ่มปราจีนบุรี” เสียบเก้าอี้ รมต.แทน “กนกวรรณ” ส่วน “จุรินทร์” มั่นใจปชป.คัมแบ๊กสนามกรุงเทพฯ ด้าน “เพื่อไทย” ผวาดักคอ อย่าเพิ่งยุบสภา รอกฎหมายลูกเสร็จก่อน หวั่นเกิดสุญญากาศ

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังพยายามออกมาเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกเป็นรายวันว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศจนประสบความสำเร็จในหลายๆ โครงการ นอกจากนี้ หลายโครงการกำลังทยอยเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้เห็นเช่น โครงการ EEC ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจมหภาคเติบโตอย่างยั่งยืน การลงทุนที่เพิ่มขึ้น การส่งออกสินค้าที่มากขึ้น การสนับสนุนการพัฒนาระบบ 5G โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา อีกทั้ง ในอนาคตไทยจะมีระบบขนส่งทางรางที่รวดเร็วไว้บริการนักท่องเที่ยวให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางรวมทั้งการเชื่อมโยงการเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วยระบบรถไฟฟ้า จะทำให้การขนส่งทางราง การเดินทางของประชาชน สะดวกสบาย รวดเร็ว และลดมลพิษลงได้

โวผลงานอื้อ-หลายนโยบายโดนใจปชช.

นายธนกร กล่าวว่าสำหรับผลงานที่โดดเด่นของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์เริ่มต้นไว้เมื่อ4ปีที่ผ่านมา และกำลังทยอยเห็นผลเป็นรูปธรรมนั้นเช่นถนนมอเตอร์เวย์สายสำคัญๆได้แก่บางปะอิน-นครราชสีมา, บางใหญ่-กาญจนบุรี, นครปฐม-ชะอำ และอีกหลายเส้นทางที่จะเกิดขี้นในอนาคต ขณะที่สถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งในโลก ออกแบบสวยงามทันสมัย มีธุรกิจบริการพร้อม ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้าและการบริการอื่นๆรวมทั้งระบบรถไฟทางคู่ที่จะเกิดขึ้นเกือบทุกเส้นทางทั่วประเทศไทย

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผลสำเร็จในการบริหารประเทศของท่านนายกฯซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั้งในวันนี้และต่อลูกหลานไทยในวันหน้าที่จะได้ใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมความสำเร็จในการบริหารจัดการโรคไวรัสโควิด-19ที่ทั่วโลกต่างยกย่องชื่นชมการบริหารจัดการสถานการณ์ของไทยด้วย

อัดพท.แกล้งมองไม่เห็นกลัวอกแตกตาย

“พล.อ.ประยุทธ์มีวิสัยทัศน์ของนักบริหาร ใช้ยุทธศาสตร์นำการเมือง ทุกนโยบายเป็นการวางรากฐานให้กับประเทศ เน้นสร้างไทยเข้มแข็ง ไม่เน้นเสี้ยมให้คนไทยแตกแยกกันเองเหมือนบางพรรคที่วันนี้ก็ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ ยังวนเวียนสร้างเรื่องดิสเครดิตนายกฯรายวัน เข้าใจได้ว่าฝ่ายค้านคงกลัวว่าหลายนโยบายของนายกฯหากประสบความสำเร็จจะเข้าไปอยู่ในใจประชาชนอีกนาน จึงต้องแกล้งมองไม่เห็นว่าประเทศไทยวันนี้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่สำคัญ หากนโยบายของท่านนายกฯ ทำให้ประเทศไทยเจริญและพ้นจากความยากจนได้ แน่นอนว่าจะต้องกลายเป็นโมเดลการบริหารประเทศให้กับทุกพรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลในอนาคตด้วย ซึ่งฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย คงอกแตกตาย”นายธนกร ย้ำ

แรมโบ้มอบ“ที่หนึ่งในใจ”ให้กำลังใจ“ลุงตู่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่บทเพลงในยูทูบ ชื่อเพลง “ที่หนึ่งในใจ”ซึ่งแต่งและขับร้อง โดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ (แรมโบ้ อิสาน) เจ้าตัวระบุด้วยว่า“ขอมอบบทเพลง “ที่หนึ่งในใจ”เพื่อเป็นกำลังใจให้ นายกฯ ลุงตู่ ผู้นำที่เสียสละเพื่อปกป้องสถาบัน และทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อแผ่นดินและคนไทยทุกคน”

ทั้งนี้ เนื้อหาของเพลงเป็นการให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ มีการประกอบภาพการปฏิบัติภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา นับแต่วันที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน การลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด พบปะพี่น้องประชาชนทั่วทุกภูมิภาค

“แรมโบ้”ซัด”ปิยบุตร”จุ้นปม8ปีนายกฯ

นายเสกสกล ยังกล่าวตอบโต้กรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก นายกฯประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่งและตั้งคำถามว่าสังคมไทยปล่อยให้คนแบบนี้เป็นผู้นำประเทศได้อย่างไรตั้ง 8 ปีพร้อมฟันธงชนชั้นนำซึ่งปกครองประเทศไทยใกล้สูญสิ้นอำนาจ ว่า นายกฯจะพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา นายปิยบุตร ยังไม่ต้องออกมาไล่ หรือ ฟันธงเองว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ในขณะนี้นายกฯประยุทธ์ยังทำหน้าที่ต่อไปในฐานะ รมว.กลาโหมอยู่

ลั่น”บิ๊กตู่”อยู่ได้-ทำงานเพื่อชาติ-ปชช.

ส่วนที่ออกมาตั้งคำถามว่า สังคมไทยปล่อยให้คนแบบนี้เป็นผู้นำประเทศได้อย่างไรตั้ง 8 ปี ตนขอบอกว่าที่สังคมไทยปล่อยให้นายกฯประยุทธ์อยู่ทำงานนั้นก็เพราะว่าที่ผ่านมาทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร มีการแก้ไขปัญหาหลายอย่าง รวมทั้งดูแลประชาชนในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 จนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แม้จะยังมีข้อติดขัดบ้างแต่นายกฯและรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ประชาชนเขารู้ว่าใครทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งประชาชนเขาก็รู้ว่านายปิยบุตร ออกมาเคลื่อนไหวอะไรมีเป้าหมายอะไร

ไล่เอาเวลาไปเคลียร์ปมก้าวล่วงสถาบัน

นายเสกสกลยังขอแนะนำนายปิยบุตไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอะไรในช่วงนี้ หรือมาฝันกลางวันว่านายกฯประยุทธ์จะหลุดจากตำแหน่ง เอาเวลาไปเคลียร์ตัวเอง ก้าวข้ามเรื่องของการก้าวล่วงสถาบันของตนเองก่อนเพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมากเขาไม่พอใจเรื่องนี้อยู่มากมาย แผ่นดินไทยศักดิ์สิทธิ์ มีพระสยามเทวาธิราช คอยคุ้มครองปกปักรักษาผู้นำที่ทำความดีเพื่อแผ่นดินและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนคนใดที่คิดร้ายต่อแผ่นดินและคิดก้าวล่วงจาบจ้วง คิดร้ายต่อสถาบันฯมันจะต้องมีอันเป็นไป จนไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัยและจะเกิดเภทภัยวิบัติฉิบหายต่อครอบครัวและวงศ์ตระกูลอย่างแน่นอน ไม่ต้องรอผลในชาติหน้า ผลกรรมจะติดจรวดอย่างรวดเร็ววันแน่นอน

ภท.จ่อชง“ชยุต”เสียบแทน“กนกวรรณ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ภายหลังศาลรับคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงรุกที่ป่าเขาใหญ่ ทำให้แกนนำพรรคภูมิใจไทย จับตาดูท่าทีว่า นางกนกวรณ จะลาออกจากตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการหรือไม่

ขณะเดียวกัน ทางพรรคภูมิใจไทย มีการจัดเตรียมบุคคลที่จะมาทดแทนตำแหน่งดังกล่าว คาดกันว่า น่าจะเป็นนายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นโควตาเดิม จ.ปราจีนบุรี ประกอบกับนายชยุต เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ถือว่ามีความอาวุโสทางการเมือง อีกทั้งรุ่นบิดาเคย เป็นรัฐมนตรีก็มีความสัมพันธ์กับนายสุนทร วิลาวัลย์ บิดาของนางกนกวรรณจึงเป็นที่คาดการณ์ว่าหากนางกนกวรรณ ลาออก นายชยุต จะมานั่งในตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวอีกด้าน คือนายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่อดีตเคยเป็นรมช.ศึกษาธิการ ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่ามีการรวบรวมส.ส. เพื่อต่อรองขอเป็นรัฐมนตรีมาแล้วเช่นกัน

เปิดเงื่อนไขบีบปรับครม.แทนเก้าอี้ว่าง

สำหรับการจะปรับคณะรัฐมนตรีจะเกิดเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอดูท่าทีนายนิพนธ์ บุญญามณีรมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวินิจฉัยว่าจะสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากถูกร้องเรียนเรื่องคำสั่งกระทรวงมหาดไทย สั่งให้พ้นสมัยดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นอกจากนี้ต้องรอดูท่าทีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่าจะปรับครม.ในจังหวะนี้หรือไม่ เนื่องจากจะมีตำแหน่งรมช.โควตาพรรคพลังประชารัฐ อีก 2 คน เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งหรือสุดท้ายแล้วจะรอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่าจะเป็นอย่างไร ที่คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในเดือน ก.ย.นี้

“จุรินทร์”มั่นใจ ปชป.คัมแบ็ก กทม.

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย ลงพื้นที่ จุรินทร์ออนทัวร์ “กทม.”และตรวจเยี่ยมโครงการ“คาราวานพาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน : Lot 20” ณ โรงเรียนสอนศาสนาศาสนูปถัมภ์ คลองเคล็ด แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตประเวศ - สวนหลวง นายกิตพล เชิดชูกิจกุล และนายธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล ส.ก.กทม.ลงพื้นที่ด้วย ซึ่งนายจุรินทร์ ขอบคุณประชาชนที่เลือกส.ก.ของพรรค รวมทั้งได้มอบถุงน้ำใจประชาธิปัตย์ในนามมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นายจุรินทร์ กล่าวถึงความพร้อม การวางตัวผู้สมัครในพื้นที่ กรุงเทพฯว่าใกล้แล้วเสร็จ มีเพียงอีก 3 เขตการเลือกตั้งใหม่ที่เพิ่มขึ้น จากเดิมมีอยู่ 30 เขต เป็น 33เขตและมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.กทม. จากเดิมที่ไม่มี เพราะจากการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ก. 9 คนและคะแนนส.ก.อีกหลายเขต ก็เป็นที่ 2 รวมไปถึงคะแนนผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามพรรคปชป.ได้เป็นลำดับที่ 2 แต่ไม่สามารถ บอกเป็นตัวเลขได้ว่าผลการเลือกตั้งทั้ง ส.ก.และผู้ว่า กทม.จะได้ส.ส.ในสมัยหน้ากี่คนแต่มั่นใจว่าพื้นที่ กทม.จะมี ส.ส.พรรค ปชป. เพราะกระแสความนิยมในกทม.ดีขึ้น ได้รับการตอบรับจากประชาชน จากนโยบายและผลงาน พร้อมมั่นใจพื้นที่กทม.ประชาธิปัตย์จะคัมแบ็กอย่างแน่นอน ในอดีตประชาธิปัตย์เคยได้ส.ส.กทม.เกือบยก กทม.มาแล้ว

ยันนายกฯหยุดทำหน้าที่/รบ.ยังเดินหน้า

นายจุรินทร์กล่าวถึง สถานการณ์ทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า นายกรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ยังคงเป็นนายกฯอยู่ ยังไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ระบุไว้ชัดเจนว่าให้รองนายกฯรักษาราชการแทน ขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี การบริหารราชการแผ่นดิน ยังเป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นรัฐบาลผสม พรรคร่วมรัฐบาล ยังปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีใครทราบล่วงหน้า

ย้ำปรับครม.โควตาปชป.ยังคงเดิม

เมื่อถามว่ารักษาการนายกฯมีอำนาจในการปรับครม.ซึ่ง ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย กรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ อาจจะทำให้มีการปรับครม.พรรคปชป.ยังยืนยันโควตารัฐมนตรีเดิมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดล่วงหน้า ยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ขอให้รอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะมีคำตอบด้วยตัวเอง ขณะนี้ถือว่าพรรคปชป.ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ข้อตกลงโควตาตำแหน่งรัฐมนตรี ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ชี้ปชป.พร้อมเลือกตั้งทุกสถานการณ์

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง ว่า หากรัฐบาลอยู่ครบวาระนับระยะเวลาแล้วเหลืออีก 7 เดือน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีการเตรียมความพร้อมเยอะแล้วและลงพื้นที่คาราวานก่อนพรรคการเมืองอื่น จึงมีความพร้อมในเรื่องผู้สมัคร ยุทธศาสตร์ แลเรื่องนโยบายที่นำเสนอผลงานต่อประชาชน 3 ปีเศษ ที่พรรค ปชป.ร่วมรัฐบาล มีผลงานจับต้องได้เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด อีกพรรคการเมืองหนึ่งและเป็นที่ยอมรับของประชาชน เราจึงพร้อมทุกสถานการณ์และมองเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกพรรคการเมืองจะลงพื้นที่ ถือว่าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้วหรือหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เราก็มีความพร้อม และจากนี้ไปพรรคปชป.ก็จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

พท.ไม่มีปัญหาพร้อมลุยเลือกตั้ง

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการยุบสภาและการปรับครม.ว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาการที่จะสามารถปรับครม.ได้ ส่วนข่าวการยุบสภานั้นโดยหลักการทั่วไปต้องดูว่าการยุบสภาแล้วจะเลือกตั้งอย่างไรเนื่องจากกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ยังไม่มีซึ่งอาจจะเป็นปัญหาในการเลือกตั้งได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีปัญหา หากมีการยุบสภาก็พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง เราเตรียมพร้อมอยู่ตลอด

รอก.ม.ลูกเสร็จก่อนหวั่นเกิดสุญญากาศ

เมื่อถามว่า มองว่าช่วงนี้รัฐบาลจะอาศัยช่วงเวลานี้ในการยุบสภาหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะยุบด้วยสาเหตุอะไร เพราะสภาก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไร ฉะนั้น ภาวะเช่นนี้ก็ควรจะรอก่อน รอให้กฎหมายลูกออกมาเมื่อไหร่แล้วค่อยยุบสภาก็ไม่เป็นอะไร หากรัฐบาลอาศัยช่วงนี้ในการยุบสภา ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะทุกพรรคก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีปัญหาจะยุบก็ได้ หรือจะเดินหน้าก็ได้ หากมีการยุบสภาแต่กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งยังไม่มีการประกาศใช้ จะเป็นอีกปัญหาหนึ่ง เราจึงบอกว่ารอกฎหมายลูกหน่อยก็ได้น่าจะอีกไม่นาน เพราะมีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญประเด็นดังกล่าวรวมถึงกฎหมายพรรคการเมือง ทั้งนี้ ผมมองว่าหากผู้มีอำนาจหรือรัฐบาลไปออกกฎกติกาเองดูจะไม่สวยงามและขอย้ำว่าพรรคพท.พร้อมทั้งการเลือกตั้งใหม่และเดินหน้าประชุมต่อ เราก็เตรียมพร้อมตลอด”นายสมคิดกล่าว

คณะหลอมรวมฯลุยหยุดอำนาจ“3ป.

เวลา10.00น.คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้เดินเข้าสักการะศาลหลักเมือง เพื่อเอาฤกษ์ เอาชัย ก่อนการจัดกิจกรรมปราศรัยเกี่ยวกับอำนาจของ 3 ป. ในวันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค. เวลา 16.00น.ที่ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(เสาชิงช้า)

นายจตุพร กล่าวว่า ภารกิจของคณะหลอมรวมยังไม่เสร็จสิ้น เพราะต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกศาลสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่ แต่ก็ยังมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ขึ้นมารักษาการแทน อำนาจของ 3 ป. ยังอยู่เพียงแค่สลับมือ ซึ่งทำให้ประชาชนยังถูกสร้างความแตกแยก และความหวังต่างๆ รวมถึงการเลือกตั้งยังห่างไกลอีกมาก เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งยังไม่เรียบร้อย และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีวันกลับมาในการเมืองได้อีกต่อไป เนื่องจากเสียการเมือง หรือเสียความชอบธรรมไปแล้ว ตั้งอำนาจยังคงอยู่ในมือของ 3 ป. ซึ่งภารกิจต่อไปของคณะหลอมรวมคือการหยุดอำนาจของ 3 ป. เพื่อที่จะนับ 1 ให้กับประเทศไทยในวันที่ 28 ส.ค.

เตือน“เพื่อไทย”ติดกับดักเลือกตั้ง

นายจตุพร ยังกล่าวเตือนไปถึงพรรคเพื่อไทยติดกับดักเลือกตั้งว่าให้มีสติอีกครั้งว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยึดอำนาจมาจากพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2557 จะมาออกแบบกฎกติกาในการเลือกตั้ง เป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีนัยยะแฝงหรือคืนอำนาจให้กับพรรคที่ตัวเองยึดอำนาจมา มันจะง่ายเกินไปหรือไม่ อยากให้เห็นความสำคัญของพรรคการเมืองอื่นๆและเชื่อว่าการเลือกตั้ง ยังไม่เกิด แม้กระทั่งเรื่อง ส.ว.250 ก็จะยังคงอยู่ ขอให้อย่าลืมการเมืองของภาคประชาชนหรือมุ่งเน้นไปที่การเลือกตั้งเพราะคราวที่แล้วก็ชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หรือ แม้แต่จัดตั้งรัฐบาลได้ก็ถูกยึดอำนาจ ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อประชาชน เป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุด ที่จะไม่สามารถละเมิดความไว้วางใจไม่ได้

ด้าน นายนิติธร กล่าวว่ารูปแบบของกิจกรรมในวันที่ 28 ส.ค.นี้จะมีรูปแบบของการปราศรัยและการแสดงวัฒนธรรม จะมุ่งเน้นไปที่เนื้อหาของการหยุดอำนาจของ 3 ป. เพื่อเริ่มต้นนับ 1ประเทศไทย โดยเชื่อว่าทุกคนในประเทศของเห็นกระจ่างแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงการสร้างฉากละครขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดอำนาจ ก็วนกลับมาอยู่ที่ 3 ป. เช่นเดิม ดังนั้น ภารกิจของคณะหลอมรวมประชาชน คือการหยุดอำนาจดังกล่าวเพื่อนำไปสู่ ป.ของประเทศชาติ ป.ประชาชนและป.ประชาธิปไตย ที่สำคัญที่สุด คือ ป.ประโยชน์สูงสุดร่วมกันของประเทศชาติ ประชาชน และประชาธิปไตยแบบไทย คือภารกิจของคณะหลอมรวมประชาชนที่จะเริ่มภารกิจวันอาทิตย์นี้ เวลา 16.00 น.

“สนธิรัตน”ลุยมหาสารคาม

วันเดียวกัน ที่ศูนย์ OTOP บ้านหนองเขื่อนช้าง ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมด้วยนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน นายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค นางทิพย์พาพร ตันติสุนทร กรรมการบริหารพรรค นายสุทธิชัย จรูญเนตร รองประธานภาคอีสาน และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน จาก จ.อุบลราชธานี ยโสธร อุดรธานี และมหาสารคาม ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องการขายข้าว การส่งออกข้าว และราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งเยี่ยมชมการทอผ้าของศูนย์

โดยตัวแทนชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาของการปลูกข้าวหอมมะลิ ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุด แต่ราคาตกต่ำ ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเกี่ยวข้าวที่มาจากภาคกลางที่มาเกี่ยวทุก ๆ ปี โดยไม่สามารถเลือกเวลาเก็บเกี่ยวได้ ทำให้ข้าวที่ขายไปได้ราคาไม่ดี อีกทั้งการขายข้าวผ่านนายทุน โดยเอาข้าวหอมมะลิไปรวมกับข้าวนุ่มของพื้นที่อื่น ทำให้ไม่ได้ราคา

เดินหน้าเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาเยี่ยมเยียน และติดตามความคืบหน้าแนวทางการแก้ปัญหาให้กลุ่มเกษตรกร ช่วยคิดหาแนวทางการแก้ปัญหา มีรายได้เพิ่มขึ้น หนี้สินน้อยลง มีความสุขมากขึ้น ซึ่งตามที่ตนเคยได้หารือกับ น.ส.นงลักษณ์ ทุงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.มหาสารคาม จะนำรถเกี่ยวข้าว 100 คัน มาช่วยเกษตรกรเก็บเกี่ยวในฤดูกาลปีนี้ นอกจากนี้จะแปรรูปข้าวนำออกสู่ตลาดทั้งในประเทศไทย และส่งออกไปต่างประเทศ โดยจะพูดคุยกับโรงสี ให้ซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด 50 สตางค์ นอกจากนี้ ตนมีแนวคิดเสนอให้เกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิพันธุ์ดี ๆ โดยตนจะช่วยทำตลาดให้ ทำเป็นยี่ห้อใหม่ ยี่ห้อมหาสารคาม ขายคนรวย ๆ กินแล้วต้องอร่อย ขายราคาแพง ขึ้นเพราะคนรวยอยากจ่ายเงินถ้าของดีจริง

“ถ้าเราขายข้าวเหมือนคนอื่นก็ถูกกดราคาตลอด เราต้องปลูกข้าวหอมมะลิแท้ ๆ ราคาแพง ๆ ปลูกข้าวแบบเดิม ๆ ปีนี้เป็นหนี้แน่ เพราะปุ๋ยก็แพง น้ำมันก็แพง ยาฆ่าแมลงก็แพง แต่ข้าวขายได้ราคาถูก สุดท้ายก็ต้องกู้เงินเขา เป็นหนี้ เราต้องทำของแพง ถึงจะสู้ไหว ผมจะช่วยซื้อนำตลาดให้ ก้าวต่อไปต้องทำแล้วมีกำไร ถ้าทำแล้วขาดทุนทุกปีจะทำทำไม นี่คือปัญหาของเกษตรกร”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับงานหัตถกรรมผ้าทอมือที่ศูนย์นี้ดีกว่าที่อื่น เพราะมีฝีมือ ทอแล้วมีคำสั่งซื้อ แต่ที่ราคาไม่ค่อยแพง เพราะคนใช้น้อย เราต้องยกระดับ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย อาทิ ออกแบบเสื้อผ้าให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพราะคนกลุ่มนี้ หากถูกใจก็ซื้อทันที โดยการออกแบบสามารถขยายกลุ่มผู้ใช้ออกไปต่างประเทศได้ด้วย รวมถึงการนำผ้าทอไปออกแบบร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ของตกแต่งบ้าน เบาะรองรถยนต์ หมอนรองคอ เป็นต้น

“วันนี้ผมรับปากว่าจะช่วย 2 เรื่อง ส่วนจะทำสำเร็จแค่ไหนต้องร่วมกันทำเป็นการทำการเมืองกับปัญหาปากท้อง ร่วมคิดร่วมทำ เราไม่ได้ทำการเมืองอย่างเดียว แต่เราจะช่วยชาวบ้านให้ได้ด้วย ชาวบ้านจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ “