(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)
6.ผู้ขอรับบำเหน็จตกทอดตามหนังสือแสดงเจตนาดังกล่าวจึงได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
7.กรณีนี้ สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วมีความเห็นแตกต่างจากกรุงเทพมหานคร จึงเสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาเพื่ออนุมัติเสนอคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาต่อไป
8.คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วมีความเห็นโดยสรุป ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงข้อหารือดังกล่าวฟังได้ว่า นายธ.
ได้ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดแล้วในขณะที่ยังรับราชการอยู่ ย่อมถือได้ว่า หนังสือแสดงเจตนาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว แม้ภายหลังนายธ. ได้ลาออกจากราชการและมีสถานะเป็นข้าราชการบำนาญ กรุงเทพมหานคร จะมิได้ดำเนินการแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดใหม่อีกครั้ง ก็มิได้มีผลเป็นการตัดสิทธิในการแสดงเจตนาที่ได้แสดงไว้ขณะรับราชการแต่อย่างใดดังนั้นบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้รับบำเหน็จตกทอด (ตามหนังสือแสดงเจตนานั้น) จึงมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดโดยผลของกฎหมายตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 และที่แก้ไขเพิ่ม
ทั้งนี้ การกำหนดเงื่อนไขให้ข้าราชการบำนาญกรุงเทพมหานครจะต้องยื่นหนังสือแสดงเจตนาใหม่ภายหลังจากที่เกษียณอายุราชการ หรือลาออกจากราชการเนื่องจากหน่วยงานที่เก็บรักษาหนังสือแสดงเจตนาในระหว่างที่เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครกับหน่วยงานผู้เบิกจ่ายบำนาญให้กับข้าราชการบำนาญกรุงเทพมหานคร เป็นคนละหน่วยงานกันนั้นเป็นเพียงกระบวนการบริหารจัดการในระหว่างหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะต้องดำเนินการประสานงานกัน จะนำมาเป็นเหตุตัดสิทธิบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้รับบำเหน็จตกทอดตามหนังสือแสดงเจตนามิได้ (มติของคณะกรรมการฯ (คณะที่ 1)การประชุมครั้งที่ 21/2565 วันที่ 19 ตุลาคม 2565)
9.มีข้อน่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ หนังสือแสดงเจตนา ระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดฉบับที่เป็นประเด็นในเรื่องนี้ ปรากฏว่าผู้แสดงเจตนาประสงค์เปลี่ยนตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดมาติดต่อเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้แสดงเจตนาขีดฆ่าชื่อผู้รับบำเหน็จทดแทนเดิม แล้วเขียนชื่อผู้รับบำเหน็จตกทอดคนใหม่แทนคนเดิม (พร้อมลงนามกำกับการแก้ไขไว้ด้วย) โดยเจ้าหน้าที่มิได้แจ้งให้ผู้แสดงเจตนาเขียนหนังสือแสดงเจตนาฉบับใหม่แทนแต่ประการใด ขณะเดียวกันผู้มีชื่อรับบำเหน็จตกทอดคนเดิมก็ได้ทำหนังสือสละสิทธิการรับบำเหน็จตกทอดอีกด้วย ก็พอจะทำให้ปัญหาต่างๆคลี่คลายไปได้ เลยไม่มีการหยิบประเด็นข้อเท็จจริงนี้มาประกอบการพิจารณากรุงเทพมหานคร ควรที่จะนำความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยในเรื่องนี้ไปชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ทราบและถือปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไปด้วยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี