'ชูวิทย์'บุกสภาร้อง'ปธ.กมธ.ป.ป.ช' สอบเส้นทางการเงิน'สันธนะ'

'ชูวิทย์'บุกสภาร้อง'ปธ.กมธ.ป.ป.ช' สอบเส้นทางการเงิน'สันธนะ'

วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 10.36 น.

’ชูวิทย์’ บุกสภาฯ! ยื่น ‘ปธ.กมธ.ป.ป.ช.’ สอบเส้นทางการเงินคู่กัด ‘สันธนะ’ แฉโดนไล่ออกจากราชการ แซะจะตรวจสอบคนอื่นดูตนเองก่อน ซัดเป็น ‘หมาหัวเน่า’ ไม่มีใครเอาด้วย ลั่นขอรอพบเจ้าตัวถามข้อเท็จจริง ด้าน ‘เสรีพิศุทธ์’ ชมเปราะคนกล้า เปิดโปงความจริง

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.30น. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส. อดีตเจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล จากกรณีที่มีบ้านราคาแพง ภรรยาและบุตรมีรถหรู มีการใช้จ่ายเงิน ทั้งๆที่ถูกไล่ออกจากราชการ โดยอ้างว่าทำงานต่างประเทศ และไม่ทราบว่าอยู่บริษัทอะไร รวมถึงมีการเสียภาษีหรือไม่ 


นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีนสีเทา ถือว่าตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติ จนวันนี้มีการออกหมายจับ นายหาว เจ๋อ ตู้ ถือว่าตนหมดภาระหน้าที่แล้ว และยินดีมอบข้อมูลต่างๆ ที่แสดงถึงทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนสีเทานี้ ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ไปทำตามหน้าที่ต่อ แต่ภายหลังจากที่ตนเผยเผยข้อมูลได้ไม่นานก็มีนายสันธนะ ที่ตนมองว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม โดยใช้สื่อตีมูลค่าตนเอง เข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา มีการอ้างเรื่องอาบอบนวดที่ตนขายไปเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ตนจึงยื่นกมธ.ป.ปช. และเชื่อว่า การทำหน้าที่ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความตรงไปตรงมา ชัดเจน 

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ได้มอบเอกสารหลักฐาน ต่อประธานกมธ.ป.ป.ช. เกี่ยวกับสาเหตุที่ปลดนายสันธนะออกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายสันธนะได้ขออุทธรณ์แต่ฟังไม่ขึ้น จึงมีคำสั่งใหม่ ให้ไล่ออกจากราชการเป็นการถูกต้องเหมาะสมแล้ว จากนั้นมีการเรียกคืนเครื่องราชถอดยศทั้งหมด เมื่อปี61 เหตุผลเพราะมีการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง โดยหลังจากนี้ตนยินดีที่ให้เข้ามาให้ข้อมูลกับกมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ตนมายื่น หรือกรณีที่นายสันทนะจะมายื่นให้สอบตนก็ตาม 

ก่อนที่นายสันธนะจะไปตรวจสอบคนอื่นก็ต้องดูเบื้องหลังของตนเองก่อน เพราะเวลาพูดแล้วยังกั๊กให้ไปตีความกันเอง หมดยุคมาเฟีย ทำท่ากร่าง ทั้งๆที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบใคร เพราะถูกไล่ออกจากราชการ แสดงท่าทีบุคลิกที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ส่วนผมเป็นลูกผู้ชาย การต่อสู้ของผมไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาฯเหมือนในอดีต ผมก็ต่อสู้ได้ จนวันนี้มีการออกหมายจับนายทุนจีนสีเทา สิ่งที่ผมพูดถือเป็นประโยชน์  เมื่อมีคนมาขัดขวางมาป้ายสีผม ก็้จำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเอง” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนทราบข่าวว่านายสันธนะจะเดินทางมายื่นหนังสือที่นี่ ตนก็จะรอ สังเกตมาหลายครั้งแล้วเมื่อตนไปที่ใดนายสันธนะจะตามมาทีหลังเสมอ ตนจึงมีของมาฝากคือ เกมส์แกะน้ำตาล ที่เป็นเกมส์ในซีรีย์เรื่อง squid Game ไปให้เล่น เพราะชีวิตนายสันธนะอยู่บนเส้นได้แล้ว อีกทั้งนายสันธนะไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า พฤติกรรมแบบนี้ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย นายสันธนะเป็นหมาหัวเน่า และตนไม่ได้อาศัยสภาแห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันธนะแต่ตนพูดถึงข้อเท็จจริง 

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายชูวิทย์ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ การเปิดอาบอบนวดก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  ยอมรับว่านายชูวิทย์เป็นคนแน่ที่จะกล้าพบกับนายสันธนะ เพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้ามาสร้างปัญหาเมื่อไหร่ภายในสภาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสภาฯ ในการดูแลความเรียบร้อยและส่งมอบให้ตำรวจในท้องที่ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้สั่งการไว้แล้ว 

“ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นการที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีนถ้านายชูวิทย์ไม่ออกมาพูดตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องกังกล่าวด้วยซ้ำ ผมในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top