1.โดยที่การจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 32 ประกอบกับกฎกระทรวง พ.ศ.2490 โดยวางหลักกรณีการสั่งหรือนำเข้าอาวุธปืนไว้โดยสรุปว่า เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับมอบอาวุธปืนที่นำเข้าจากต่างประเทศไปจากพนักงานศุลกากรแล้ว ให้นำไปจดทะเบียนที่นายทะเบียนท้องที่ และให้นายทะเบียนทำเครื่องหมายประจำอาวุธปืนได้
2.แต่ในปัจจุบันเอกชนบางรายได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานทำอาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธเอกชน พ.ศ.2550 เพื่อจำหน่ายให้แก่ทางทหาร และหน่วยงานของทางราชการ ขณะเดียวกันโรงงานก็สามารถได้รับใบอนุญาตจำหน่ายอาวุธปืนฯ สำหรับการค้าด้วย หมายความว่านอกจากจำหน่ายให้แก่หน่วยงานทางราชการแล้ว ยังสามารถจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไปด้วย
3.ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา โดยบริษัท ก.เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตเป็นโรงงานผลิตอาวุธปืนเอกชน ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่าตนได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานทำอาวุธ (แบบ อ2) และได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายอาวุธปืนฯ สำหรับการค้า(แบบ ป5) แต่มีข้อขัดข้องเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนฯ สำหรับการค้าในประเทศซึ่งยังไม่มีแนวปฏิบัติจำนวน 2 ประเด็น คือ
(1) การทำเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน กรณีร้านค้าซื้ออาวุธปืนจากโรงงานในประเทศ
(2) การกำหนดจำนวนอาวุธปืนฯ ตามข้อ 3 ของคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 289/2552 ลงวันที่ 8 ก.ย. 2552
4.กรมการปกครองพิจารณาแล้ว เห็นว่าโดยที่คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย เคยให้ความเห็นโดยสรุปว่า โรงงานผลิตอาวุธของเอกชนนั้น (บริษัท) จะต้องมีใบอนุญาตให้จำหน่ายอาวุธปืนฯ สำหรับการค้า (แบบ ป5) ด้วย สำหรับปัญหาที่โรงงานผลิตอาวุธปืนเอกชนหารือมานั้น เฉพาะกรณีการขึ้นทะเบียนอาวุธปืนพอมีแนวทางที่จะนำมาปฏิบัติได้บางประการ แต่ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน สมควรที่จะน่าหารือคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิ่มเติม
5.คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย พิจารณาประเด็นปัญหาดังกล่าวแล้ว มีความเห็นโดยสรุปว่า ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธเอกชน พ.ศ.2550ดังกล่าว วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้ผลิตอาวุธภายในประเทศและลดการนำเข้าอาวุธแม้บริษัท ก.จะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานทำอาวุธปืน (แบบ อ2) และได้รับใบอนุญาตให้ขายหรือจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่บุคคลอื่นนอกจากหน่วยงานราชการ ตามมาตรา 7 ในราชอาณาจักร (แบบ อ 17)ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธเอกชนพ.ศ.2550 แล้วก็ตาม หากประสงค์จะจำหน่ายอาวุธปืนภายในประเทศ จะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายอาวุธปืนฯ สำหรับการค้า (แบบ ป5) และต้องปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 289/2552 ลงวันที่ 8 กันยายน 2552 และระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับร้านค้าอาวุธปืนอื่นด้วย เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะควบคุมการซื้อ มี และใช้อาวุธปืนของเอกชนและร้านค้าภายในประเทศ
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนอาวุธปืนที่ผลิตในประเทศนั้น สามารถทำได้ตามแนวทางที่กรมการปกครองเสนอ(เพื่อควบคุมจำนวนอาวุธปืน)
6.ดูรายละเอียดตามมติของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายคณะที่ 1ครั้งที่ 7/2559 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 และครั้งที่ 22/2565 วันที่ 26 ตุลาคม 2565
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี