1.ครั้งนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอายัดหรือระงับการจดทะเบียน เปลี่ยนแปลงสิทธิการถือครองที่ดินของเจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นกรณีพิเศษตามที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้แจ้งกรมที่ดินสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดระงับการจดทะเบียน โอน เปลี่ยนแปลง หรือจำหน่ายทรัพย์สินของทายาทนักการเมือง ซึ่งกรมที่ดินได้แจ้งให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการอายัดที่ดินแล้ว
2.ต่อมา กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่การประเมินการเสียภาษีอากรของทายาทนักการเมืองเช่นกัน พร้อมกับมีการขอให้อายัดที่ดินของทายาทนักการเมือง เช่นกัน
3.ในเวลานั้น มีการฟ้องของทายาทนักการเมืองต่อศาลภาษีอากรกลาง จนคดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่า ทายาทนักการเมืองไม่มีความรับผิดชอบในเรื่องนี้ และคดีถึง
ที่สุดแล้ว จึงมาแจ้งให้เพิกถอนการอายัดที่ดินของโจทก์ด้วย (แจ้งกรมที่ดิน)
4.ปรากฏว่า กรมสรรพากรได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางโดยการถอนการยึดทรัพย์แล้ว
5.กรมที่ดินจึงหารือประเด็นดังกล่าวมายังคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
6.คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้ว มีความเห็นโดยสรุปดังนี้
1) เมื่อโจทก์ได้ฟ้องกรมสรรพากรกับพวกเป็นจำเลยต่อศาลภาษีอากรกลาง และคดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินตามฟ้องและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร รวมทั้งคำสั่งของ คตส. ที่ให้กรมที่ดินอายัดที่ดินดังกล่าวด้วย จึงเป็นการยึดที่ดินในมูลกรณีเดียวกัน
2) เมื่อศาลภาษีอากรกลางมีคำพิพากษาดังกล่าว จึงไม่มีหนี้ภาษีซึ่งเป็นหนี้ประธาน การจะบังคับยึดหรืออายัดทรัพย์จึงสิ้นผลไปด้วย หน่วยงานที่ดำเนินการขอยึดหรือายัด ก็ต้องดำเนินการถอนการยึดหรืออายัด
3) ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กรมสรรพากรได้มีหนังสือขอถอนการยึดที่ดินพิพาทแปลงดังกล่าวแล้ว
4) เมื่อไม่มีหนี้ภาษีอันเป็นประธานแล้ว จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะอายัดที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไป
5) ขณะเดียวกัน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแจ้งกรมที่ดินว่า ตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติใดให้ สตง.หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมีอำนาจหรือหน้าที่ในการถอนอายัด
6.เมื่อผู้มีส่วนได้เสียไม่ขัดข้องกรมที่ดินจึงสามารถดำเนินการเพิกถอนการอายัดที่ดินแปลงดังกล่าวได้โดยอาศัยคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลาง และการถอนการยึดของกรมสรรพากรดังกล่าวข้างต้น
7.มติของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย (คณะที่ 1) ครั้งที่ 25/2565 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 และคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลาง คดีหมายเลขแดงที่ 243/2553
ขอบคุณครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี