เด็กพลังประชารัฐฟันธง
‘บิ๊กตู่’ยุบสภามี.ค.
เปิดช่องสส.ย้ายซบ‘รทสช.’
‘อุตตม’สั่งลุยสนามกรุงเทพฯ
‘เสี่ยหนู’ประกาศยึดภูเก็ต
ปชป.เน้นการเลือกตั้งสุจริต
“ปชป.” ลั่นพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ ยึดสุจริตเลือกตั้ง ด้าน “อนุทิน” ยกทัพใหญ่ภูมิใจไทยบุกยึดภูเก็ตเปิดผู้สมัคร สส. ครบ 3 เขตอ้อนขอโอกาส “ภท.” ปั้นด้ามขวานไทยเป็นสีทอง ส่วน“อุตตม” นำพรรคสร้างอนาคตไทยลุยสนามกรุงเทพฯ เด็กพลังประชารัฐฟันธง “บิ๊กตู่” ยุบสภามีนาคมปีหน้า ขณะที่ “จิรายุ” ยัวะเพื่อไทยส่งคู่ปรับเก่าลงสส.ด้วย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่ากฎหมายทั้ง2ฉบับเปลี่ยนแปลงหลักในการเลือกตั้งอยู่พอสมควร พรรคพร้อมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของพรรคที่ต้องดำเนินการคือ ในส่วนของกฎหมายพรรคการเมือง ที่จำเป็นต้องแก้ไขหลักเกณฑ์ ระเบียบต่างๆเพื่อให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายที่แก้ไขใหม่
“ในส่วนตัวแทนพรรคประจำจังหวัด มีความพร้อมเกือบทั้งหมด เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับคาดว่ากระบวนการในการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ซึ่งมีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธานก็จะมีการดำเนินการในจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน ในส่วนของประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้มีการประชุมฝ่ายเลขานุการเตรียมความพร้อมในกระบวนการสรรหาทั้งระบบเขตเลือกตั้ง400 คนรวมถึงระบบบัญชีรายชื่ออีก100คน ในส่วนของพรรคได้ย้ำกับสมาชิกตลอดเวลา ให้ยึดหลักสุจริตในการรณรงค์หาเสียง”
ลั่นพร้อมสู่โหมดเลือกตั้งตลอดเวลา
นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการตอบโต้กันไปมาระหว่างสมาชิกพรรคกับอดีตสมาชิกที่ได้ลาออกไปแล้วนั้น ขอย้ำว่า พรรคเป็นสถาบันในทางการเมือง การเข้าออกของบุคคลเป็นเรื่องธรรมดาในการตัดสินใจในทางการเมืองของแต่ละคน เพียงแต่ไม่อยากให้ออกมาพูดที่จะทำให้พรรคเกิดความเสียหาย ต้องมีวุฒิภาวะ ต้องแยกให้ออกถึงตัวบุคคลกับพรรค
“ในทุกช่วงสถานการณ์ของพรรคในช่วงที่ผ่านมา 77ปี แน่นอนว่ามีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์มาอย่างยาวนานคือทุกคนร่วมจับมือกันสู้ เพื่อให้พรรคก้าวเดินไปข้างหน้า ขณะนี้พรรคมีเอกภาพกำลังจัดทัพเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ที่เป็นกำลังสำคัญ ร่วมกับผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค ทุ่มเทเต็มที่ พรรคมุ่งหวังชัยชนะเพื่อทำงานให้กับประชาชนและประเทศ ขณะนี้ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงเวลาใด ประชาธิปัตย์พร้อมตลอดเวลา”โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
‘อนุทิน’นำทัพภท.บุกยึดภูเก็ต
ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำคณะรัฐมนตรีของพรรค ผู้บริหารพรรค แกนนำ และส.ส.พรรค อาทิ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รองหัวหน้าพรรค นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรคในฐานะรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้ของพรรค น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรค
โดยได้มาร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต ของพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายนิพนธ์ เอกวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายวิวัฒน์ จินดาพล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และนายวงศกร ชนะกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3โดยมีประชาชนชาวภูเก็ตเข้าร่วมงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และร่วมรับฟังนโยบายของพรรคภูมิใจไทย มากกว่า 3,000 คน ทำให้บรรยากาศเป็นด้วยความคึกคัก
ลั่นชู‘ภูเก็ต’ฮีโร่การพลิกฟื้นปท.
เวลา 11.00 น. นายอนุทินได้ กล่าวปราศรัยประชาชนชาวภูเก็ตช่วงหนึ่งว่าพรรคภท.เป็นพรรคที่พูดแล้วทำ สิ่งที่เราให้สัญญากับประชาชน เราทำให้ทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่ไม่ได้พูด ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชนเราก็จะทำ วันที่พรรคเข้ามาเป็นคณะรัฐบาล พรรคได้รับมอบหมายให้ดูกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงคมนาคม เป็นหลัก ช่วงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์โควิด - 19 เราเห็นว่าถ้าต้องการให้บ้านเมืองกลับมาปกติสุขเร็วขึ้น เราต้องมีตัวอย่างให้ต่างชาติเห็นว่าประเทศเราทำได้ จึงเกิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ทำให้ประเทศไทยมีความมั่นใจในการพลิกฟื้นจากโควิด-19ถ้าภูเก็ตเปิดได้ที่อื่นก็เปิดได้ ดังนั้น ภูเก็ต คือ ฮีโร่ในการพลิกฟื้นประเทศ
ขอโอกาสภท.ปั้นด้ามขวานเป็นสีทอง
นายอนุทิน กล่าวว่า จากสภาพการจราจรในภูเก็ต ต้องมีการลดขั้นตอนการเดินทาง จำเป็นต้องมีทางด่วนจากสนามบินเข้าเมืองเพื่อความรวดเร็ว นอกจากนี้ การคมนาคมขนส่งต่างๆ ระหว่างพื้นที่ฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย จะต้องสะดวกรวดเร็ว แม้จะขุดคลองไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว แต่เราจะสร้างเส้นทางขนส่งทางบก เชื่อมอันดามันกับอ่าวไทยจากระนอง - ชุมพร เป็นต้น พรรคภูมิใจไทยขอเอาทองมาติดด้ามขวานของไทย เราต้องการให้ด้ามขวานเป็นขวานทองโดยฝีมือของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งภาคใต้ต้องเจริญทั้งธุรกิจท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอุ้มชูเศรษฐกิจของประเทศ
“ขอโอกาสพรรคภูมิใจไทย ผมพูดไม่เก่ง แต่เอาหัวใจมาพูด ขอให้เชื่อว่าเราจะทำแต่สิ่งดีๆให้พี่น้องชาวภูเก็ต ส.ส.ของพรรคทุกคนถูกปลูกฝังว่า ถ้าได้เป็นส.ส.แล้ว ต้องเป็นส.ส.ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ ส.ส.ที่ดูแลเฉพาะพื้นที่ตัวเอง พรรคภูมิใจไทย จะเป็นพรรคการเมือง ที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันที ไม่รอให้สายเกินไป” นายอนุทิน กล่าว
ลั่นภท.มั่นใจปักธงเจาะ3สส.ภูเก็ต
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ยืนยันและมั่นใจว่าจะปักธง 3 ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นายนิพนธ์ เอกวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายวิวัฒน์ จินดาพล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และนายวงศกร ชนะกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดที่พรรคภูมิใจไทย พัฒนาไว้เยอะที่มีรัฐมนตรีของพรรค ทั้งรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา รมว.คมนาคมและรมว.สาธารณสุข ที่ทำงานเต็มที่ จนใช้เป็น”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ประสบความสำเร็จอย่างมากมายทำให้เราเปิดประเทศได้จนถึงทุกวันนี้ และภูเก็ตจะเป็นสถานที่จัด เวิลด์เอ็กซ์โปรสเปเชียล 2028 ก็ได้เข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว จึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอีกมากมาย พรรคภูมิใจไทยจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด หวังว่าประชาชนคงจะเห็นความทุ่มเทนี้
นายอนุทิน กล่าวว่าขณะเดียวกัน ได้พัฒนาเชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทยให้เป็นเซาท์เทิร์น แลนด์บีชและขอยืนยันว่า 3ผู้สมัครสส.ภูเก็ต อาจจะเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับคนภูเก็ตแน่นอนเพราะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวถามว่า พื้นที่อื่นๆในภาคใต้หลายพรรคการเมืองต่างประกาศจะคว้าเก้าอี้นั้น ภูมิใจไทยตั้งเป้า ส.ส.เท่าไหร่จากจำนวน 58 เขต นายอนุทิน หัวเราะพร้อมบอกว่า“ทำเต็มที่ มีเท่าไหร่ เอาเท่านั้น”
‘อุตตม’เปิดศูนย์ฯดอนเมือง
เช้าวันเดียวกัน นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ประธานภาคกรุงเทพและทีมงานสร้างอนาคตไทย ร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคสร้างอนาคตไทย เขตดอนเมือง พร้อมเปิดตัว พลตรีหญิง ดาวใจ เจิมเจิดพล เป็นผู้ประสานงานเขตดอนเมือง เป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง
นายอุตตมกล่าวว่าขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯพรรคสร้างอนาคตไทยมีผู้ประสานงานครบทุกเขตแล้ว เราได้เริ่มทำงานและพร้อมที่จะดูแลประชาชนในทุกพื้นที่อย่างเต็มที่ ทีมงานของพรรคทุกคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่น ที่จะสร้างพรรคสร้างอนาคตไทยให้เป็นพรรคการเมืองที่ดี และพร้อมเข้าไปรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ
หนุนคนรุ่นใหม่คิดใหม่เปลี่ยนปท.
ด้านนายสุรนันทน์ กล่าวว่าขณะนี้กระบวนการยุติธรรมของไทยบิดเบี้ยวเราต้องช่วยแก้ไขพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ที่มีชุดความคิดใหม่ ไม่ใช่แค่คนที่มีอายุน้อยเท่านั้น คือ คนรุ่นใหม่แต่เป็นคนทุกรุ่นที่พร้อมจะยอมรับความคิดใหม่ๆที่สำคัญคือต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น พรรคสร้างอนาคตไทย ขอยืนยันว่า พรรคจะไม่ทิ้งประชาชนโดยเด็ดขาด
นายอุตตมให้สัมภาณ์ถึงการทำการเมืองแบบใหม่ที่จะไม่ใช้คณิตศาสตร์การเมืองมาเป็นตัวตั้งว่าเราอาสาเข้ามาทำการเมือง เป้าหมายสุดท้าย คือ การทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าจะเชื่อมั่นพรรค ส.ส.คนไหน เราเป็นพรรคใหม่ มาด้วยอุดมการณ์ที่จะทำการเมืองร่วมกันในจุดที่ประเทศพลิกผัน จึงอาสามาทำงาน ซึ่งการเปิดศูนย์วันนี้เป็นศูนย์ประสานงานไม่ใช่ศูนย์เลือกตั้งสุดท้ายก่อนจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับประชาชน คณิตศาสตร์ยังไม่คิด นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป้าในพื้นที่ กทม. แต่มีความหวังในพื้นที่ กทม.เพราะเชื่อว่ามีทีมงานที่ดี เป็นคนรุ่นใหม่และรุ่นที่มีประสบการณ์ ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เรากำลังทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อถามย้ำว่ามีการตั้งเป้าตัวเลข ส.ส. กทม. เช่น 3 คน 5 คน 10 คน นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขส.ส.จะได้เท่าไหร่ แต่มีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา แล้วชัดเจนว่า สิ่งใดที่จะต้องปรับปรุงทำงานให้หนักขึ้น เพื่อจะเป็นโอกาสให้ได้ ส.ส.มาทำงานให้ประชาชน
ชูขายนโยบายกทม.ทุกด้าน
นายอุตตม กล่าวว่าสำหรับ กทม.มีนโยบายทุกด้าน แต่จะเริ่มจากความเป็นจริง ปัญหาหลักของ กทม.คือปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชนทั่วประเทศ พรรคสร้างอนาคตไทย จะมีนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า แก้ปัญหาหนี้สิน จะหาทุนใหม่ให้และสนับสนุน เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศ วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้นเป็นสิ่งท้าทาย ถ้าทำได้ก็จะเป็นโอกาส แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้จะเป็นปัญหา พรรคจึงเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าก่อน แล้วสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน สร้างงานใหม่ คนรุ่นใหม่ต้องมีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนนโยบายด้านสาธารณสุข จะดูแลตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง และเข้าถึงระบบการศึกษา ดูแลและให้ผู้สูงวัยมีบทบาท เป็นประโยชน์กับชุมชน หลายชุมชนต้องเข้มแข็ง
รับคุยรวมยังไร้ข้อยุติปัดคุยรทสช.
ส่วนความคืบหน้าจะควบรวมกับพรรคไทยสร้างไทยนั้น นายอุตตม ยังยืนยันเช่นเดิมว่ามีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น แต่ยังไม่มีข้อยุติใดๆ ที่จะควบรวมกับพรรคใดทั้งสิ้น ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้าง แต่มีการคุยกับพรรคการเมืองอื่นนอกจากพรรคไทยสร้างไทย เป็นเรื่องธรรมดาที่จะพูดคุยติดต่อ เพราะรู้จักกันก็มีการหารือว่า ถ้าเป็นแบบนี้ จะควบรวมดีหรือไม่ ซึ่งเคยบอกแล้วว่าสำหรับ พรรคสร้างอนาคตไทย หากจะควบรวม ต้องเอาเป้าหมาย ของพรรคว่า ควบรวมแล้วจะทำงานให้ประชาชนได้ดีขึ้นไม่ใช่ควบรวม เพื่อหวังผลทางการเมือง ส่วนถ้าควบรวมแล้ว จะเอานโยบายพรรคสร้างอนาคตไทยไปทำจะควบรวมหรือไม่ ต้องดูปัจจัยอื่นๆด้วย
‘พท.’แตก‘จิรายุ’ซัดปมโจทย์เก่า
วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) วิจารย์กรณีพรรค พท.เปิดตัวเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง จำนวน 57คน ซึ่ง1ในผู้สมัครดังกล่าวเป็นคู่ปรับกับจิรายุ
“ผลออกมาเป็นเช่นนี้ ตีความได้อย่างเดียวว่าผมไม่มีคุณค่ากับพรรค พท.อีกต่อไปอย่าคิดว่าคนที่เคยด่าร้ายผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค เป็นปรปักษ์ของพรรคมาตลอดจะทำอะไรกับพรรคพท.ก็ได้ อยากจะไปก็ด่าพรรค เอาใจ3ป.อยากจะกลับมา ก็เชลียร์”
พร้อมยืนยันว่า ส่วนกลไกการขับเคลื่อนด้านติดตามตรวจสอบทุจริตของตนยังเดินอย่างต่อเนื่อง ขอให้มั่นใจได้ว่า ใครจะเข้ามาบ้านนี้ด้วยวิธีการแบบใด ตนไม่รู้ แต่รู้อย่างเดียวว่า ถ้าพรรค พท.เป็นพรรคการเมืองที่ตนเคารพนับถือต้องอธิบายให้ได้ ไม่เช่นนั้น หลักการที่ศรัทธามาตลอด 10 กว่าปีจะสิ้นไป
“ถามจริงๆเถอะจะให้ผมยืนให้ตบหัวเล่นเฉยๆหรืออย่างไร นับจากนี้ผมจะเข้มข้นในการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครของพรรคพท.โดยเฉพาะ ทุกคนที่เคยอยู่พรรคตรงข้าม เพราะวันนี้พอจะแลนด์สไลด์แห่กันเข้ามา คนอยู่บ้านเป็นหมาเฝ้าบ้าน แบบพวกผมควรปฎิบัติตนแบบไหนดี สำหรับผมถ้าไม่อยู่พรรค พท. ผมก็จะไปเป็นภาคประชาชน เพื่อติดตามตรวจสอบ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล จะใช้วิชาชีพที่เคยเป็นนักข่าวสืบสวนสอบสวนมาตลอดทั้งชีวิตทำงานเพื่อให้สังคมน่าอยู่”นายจิรายุ กล่าว
สภาล่ม‘นิโรธ’ซัดฝ่ายค้านไม่ร่วมมือ
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์การแก้ปัญหากรณีสภาล่มเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ว่า วันนั้นมีกรรมาธิการ(กมธ.) หลายคณะประชุมอยู่ ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ฝ่ายรัฐบาลมากันเต็มที่ ขาดเพียง 10 กว่าเสียง แต่ฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือในการทำหน้าที่ผู้แทนในสภา ฝ่ายรัฐบาลมา 200 กว่าเสียงอยู่แล้ว เพียงแต่บางท่านเป็นรัฐมนตรีจึงติดภารกิจ ทำให้ขาดไปไม่กี่เสียง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าฝ่ายค้านคิดจะสร้างสรรค์งานในสภา ก็ควรให้ความร่วมมือกันบ้าง แต่ยืนยันว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทำงานเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายใดๆก็มาเป็นองค์ประชุมให้ตลอด ขอให้ประชาชนพิจารณาก็แล้วกัน ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าสภาล่มทำให้กฎหมายสำคัญหลายฉบับไม่ผ่านสักที นายนิโรธ กล่าวว่า กฎหมายสำคัญที่ออกโดยรัฐบาลส่วนมากจะผ่านหมด ไม่มีปัญหาอะไรและไม่มีกฎหมายสำคัญอะไรที่ออกโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.)
สส.จับตายุบสภา-ครบเทอม
เมื่อถามถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกังวลว่าหาก ส.ส.ลาออกกันจนเหลือน้อย จะทำให้รัฐบาลมองว่า เป็นเรื่องดี กฎหมายอะไรที่ค้างอยู่ก็เอาเข้าสภาช่วงนี้เสียเลย นายนิโรธ กล่าวว่า จะเป็นเช่นนั้นก็ต่อเมื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านลาออก แต่ถ้าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลาออกเยอะก็มีปัญหาเช่นกัน เพราะสุดท้ายก็ใช้องค์ประชุมกึ่งหนึ่งเหมือนกัน เมื่อถามต่อว่า กังวลว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะลาออกกันเยอะหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ดูแล้วยังไม่น่าลาออกกัน เพราะยังมีเวลาเหลืออีก อยู่ที่ตัว ส.ส.ว่าจะเดาใจนายกรัฐมนตรีอย่างไร
เมื่อถามว่าส.ส.พปชร.กำลังรอดูสัญญาณจากนายกฯใช่หรือไม่ และหากนายกฯส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติจะส่งผลให้ ส.ส. พปชร.ลาออกหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า อยู่ที่เงื่อนไขว่าท่านจะอยู่ครบวาระ หรือยุบสภาก่อนพราะเงื่อนเวลาต่างกัน ถ้าอยู่ครบวาระ ก็ควรลาออก ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม ส.ส.คงอ่านเกมกันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี