กกต.ตอบก้าวไกล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.-พรรค ใช้จ่ายเงินที่พรรคจัดสรรให้เพื่อการเลือกตั้งช่วง 180 วัน ไม่ว่าสภาอยู่ครบวาระ-ถูกยุบ ต้องลงบัญชีให้ถูกต้อง ขณะที่พรรคจัดสรรเงินให้ว่าที่ผู้สมัครรายใหม่ใช้หาเสียงได้เต็มวงเงินที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องนับรวมกับที่ว่าที่ผู้สมัครรายเก่าใช้จ่ายไป

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามของพรรคก้าวไกล กรณีสอบถามเกี่ยวกับการการใช้จ่ายและการลงบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายของพรรคการเมืองและผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ว่า กรณีเงินที่ผู้ซึ่งประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้รับจากพรรคการเมืองจัดสรรให้เพื่อเป็นเงินที่ใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครตามข้อ 5 (1) ของระเบียบกกต.ว่าด้วยแบบบัญชีรายรับและรายจ่ายค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ในห้วงเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาผู้แทนราษฎร จะต้องบันทึกลงในใบรับเงิน (แบบ ส.ส./บช. 1) และเมื่อได้สมัครรับเลือกตั้งแล้วจะต้องจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งเพื่อยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องบันทึกลงในบัญชีรายรับ (แบบ ส.ส./บช. 5) ใช่หรือไม่ และหากได้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไปแล้ว มีการประกาศ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ผู้สมัครรับเลือกตั้งยังต้องบันทึกรายรับจากเงินที่พรรคการเมืองได้จัดสรรเป็นเงินที่ใช้จ่ายในการเลือกตั้งตามข้อ 5 (1) ของระเบียบกกต.ดังกล่าว ใช่หรือไม่ รวมทั้งพรรคการเมืองจะต้องนำเงินส่วนดังกล่าว ลงบันทึกบัญชีงบการเงินประจำปีของพรรค ในรายการค่าใช้จ่ายที่พรรคการเมืองจัดสรรหรือสนับสนุนให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ใช่หรือไม่

สำนักงาน กกต.เห็นว่าเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครที่ได้รับการจัดสรรจากพรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องออกใบรับเงิน ตามแบบ ส.ส./บช.1 และจัดทำบัญชีรายรับ ตามแบบ ส.ส./บช.5 โดยบันทึกรายการบัญชีรายรับตามรายการเกิดขึ้นจริงและพรรคการเมืองต้องบันทึกบัญชีงบการเงินประจำปีของพรรคในรายการค่าใช้จ่ายตามแบบ ส.ส./บช.5/1

ส่วนถ้าผู้ซึ่งประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไปแล้วนั้น ต่อมาได้เสียชีวิต หรือ ไม่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งกับพรรคการเมือง ๆจะยังสามารถจัดสรรเงินของพรรคให้ผู้ซึ่งประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งคนใหม่ในเขตเลือกตั้งเดียวกันภายในห้วงเวลาดังกล่าว ได้หรือไม่ และบุคคลดังกล่าวจะยังมีวงเงินในการใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้งเต็มตามวงเงินค่าใช้จ่ายที่กกต.ประกาศกำหนด โดยไม่นับรวมกับจำนวนเงินที่ผู้ซึ่งประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งรายเดิมได้ใช้จ่ายไป ใช่หรือไม่ รวมทั้งพรรคการเมืองต้องลงบันทึกบัญชีงบการเงินประจำปีของพรรคว่าอย่างไร สำนักงานกกต.เห็นว่าพรรคการเมืองสามารถจัดสรรเงินให้ผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งคนใหม่ได้ โดยมีเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเต็มจำนวนตามที่กกต.ประกาศกำหนดโดยพรรคการเมืองต้องบันทึกบัญชีงบการเงินประจำปีของพรรค
 สำหรับสมาชิกพรรคผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมือง ที่ได้จัดทำสื่อหาเสียงต่างๆ อาทิการจัดทำแผ่นป้าย ประกาศ จดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ เอกสารหรือวิดิทัศน์เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง พาหนะ สถานที่หรือเวทีเพื่อโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง การใช้วิธีการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์

ตามระเบียบหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีทั้งภาพและชื่อของพรรคการเมืองและสมาชิกพรรคผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่ออยู่ร่วมกันด้วย การคำนวณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วัน ก่อนวันที่กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้งนั้น คำนวณอย่างไร นั้น สำนักงานกกต.เห็นว่าขณะนี้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ยังไม่มีผลใช้บังคับ หลังจากที่มีผลใช้บังคับแล้ว กกต.จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ การคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว

ส่วนพรรคการเมืองจะนำเงินอุดหนุนตามมาตรา 83 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไปใช้จ่ายในรายการประเภทค่าใช้จ่ายตามประกาศกกต.เรื่อง ประเภทของค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ข้อ 3 (1) - (13) ได้ทุกประการใช่หรือไม่ ในห้วงระยะเวลา 180 วัน ก่อนครบอายุสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองสามารถใช้จ่ายเพื่อผู้ซึ่งประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ใช่หรือไม่นั้นสำนักงาน กกต.เห็นว่า การใช้จ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าวฯ ต้องปฏิบัติตามที่กฎหมาย ระเบียบฯ และรายละเอียดมาตรฐานและอัตราการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ.2565 กำหนด

- 006