สมัครสมาชิก‘รวมไทยสร้างชาติ’

‘บิกตู่’ได้ฤกษ์9ม.ค.

เปิดตัวยิ่งใหญ่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์

งามไส้สภาล่มนัดแรกรับปีใหม่

‘ชวน’บรรจุญัตติซักฟอกแล้ว

คาดอภิปรายช่วงปลายม.ค.นี้

พท.ขู่ถล่มรัฐบาล4ปีล้มเหลว

นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมวางกรอบงบปี’67 เน้นสอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน-อนาคต ขนทีมคนรู้ใจลงพื้นที่สิงห์บุรี 6 มกราคม เปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” “บิ๊กตู่”ได้ฤกษ์ 9 มกราคม สมัครสมาชิก รทสช. เปิดตัวยิ่งใหญ่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สภาฯทำบุญตักบาตรรับปีใหม่ “ปธ.ชวน” รอวิป 3 ฝ่ายคุยเคาะวันซักฟอกทั่วไปไม่ลงมติมาตรา 152 ผู้นำฝ่ายค้านคาดช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ของมกราคมหวังได้เวลาจ้อกว่า 22 ชม.“พท.”ร่อนแถลงการณ์ ปัดจับมือพรรคไหนตั้งรัฐบาล โวยโดนไอโอลดความน่าเชื่อถือ ย้ำเป้าเดิมแลนด์สไลด์ โกยส.ส.เกิน250คน หวังจัดตั้งรบ.พรรคเดียว

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 4มกราคม2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าร่วมด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องแผนการเงินระยะปานกลาง รายรับรายจ่ายปีงบประมาณ2567และประเมินไปถึงปี2570 ซึ่งจำเป็นต้องประเมิน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการวางพื้นฐานการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตอย่างระมัดระวังที่สุด

ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องและในโอกาสนี้ขออวยพรปีใหม่ให้ทุกๆคน เพราะถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2566 ที่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้สถานะการเงินการคลังของเรามีความมั่นคงในทุกๆด้าน และขอให้ทุกคนมีความสุขประสบความสำเร็จทุกประการทั้งชีวิตราชการและเรื่องส่วนตัว

‘บิ๊กตู่’ขนคนรู้ใจลุยสิงห์บุรี6ม.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันศุกร์ที่ 6มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดการเดินทางตรวจราชการ จ.สิงห์บุรี พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จุดแรกนายกฯจะตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จากนั้นจะเดินทางไปเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” ที่บริเวณพื้นที่นำร่อง หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีไปถึงจะลงพื้นที่แปลงนา ขับรถดำนาปลูกข้าวร่วมกับชาวนา และปล่อยปลาร่วมกับเกษตรกร จากนั้นจะไปยังจุดพิธีเปิดกิจกรรมข้าวรักษ์โลก เพื่อทำพิธีเปิดและกล่าวเปิดกิจกรรม โดยมีนายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวต้อนรับ นายภณ ทัพพินท์กร นายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก รายงานผลการดำเนินงานโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model (สิงห์บุรีโมเดล) และเกษตรกรเจ้าของแปลงนากล่าวขอบคุณนายกฯที่ส่งเสริมโครงการฯ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ พบปะเกษตรกร และเดินเยี่ยมชมนิทรรศการ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

‘บิ๊กตู่’ได้ฤกษ์9ม.ค.สมัครเข้ารทสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม หลังประกาศตัดสินใจร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ มีกระแสข่าวจะสมัครและเปิดตัวในเดือนมกราคม

ล่าสุด มีความชัดแล้วว่าในวันที่ 9 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคและจะมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา17.00น.นอกจากนี้งานวันนั้นจะมีส.ส.ที่จะย้ายพรรคไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมเปิดตัวด้วย

‘ปธ.ชวน’รอวิป3ฝ่ายเคาะวันอภิปราย

เวลา 07.00น.ที่บริเวณลานด้านหน้าอาคารรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99รูป เพื่อสืบสานประเพณีวันขึ้นปีใหม่2566 โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่2 ตัวแทนสส.จากทุกพรรคการเมือง ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เข้าร่วมพิธี

เวลา 08.35น.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 ว่า เท่าที่ปรึกษาหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านได้นัดประชุมวิป 3ฝ่าย ในวันที่ 4มกราคม เพื่อกำหนดวันเวลา ขณะนี้คร่าวๆมีความเห็นพ้องกันว่าน่าจะเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 3หรือ4 ซึ่งต้องแล้วแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะต้องส่งเรื่องให้ครม.เห็นชอบ ส่วนความพร้อมการจัดบุคคลเพื่ออภิปรายนั้น เราทำในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ละพรรคจะรับมอบภารกิจเพื่ออภิปรายเกี่ยวกับความล้มเหลวทุกด้านของครม.ซึ่งแต่ละพรรคไปวางแนวทางการอภิปรายของตัวเอง ขณะที่กรอบเวลาการอภิปรายเห็นว่า อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่าครั้งที่ผ่านมาที่เราได้ 22ชม.ดังนั้น ครั้งนี้ก็น่าจะได้มากกว่า 22ชม.

รอเคาะวันซักฟอกรบ.-เพิ่มถกวันศุกร์

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการกรอบการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ว่า เวลา 14.00น.จะหารือกับวิปทั้ง 3ฝ่าย ในเรื่องญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 โดยจะถามฝ่ายผู้เสนอว่า จะใช้ช่วงเวลาใด ซึ่งเท่าที่คุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน เบื้องต้นอยากได้ช่วงปลายเดือนม.ค.และชิญตัวแทนรัฐบาลมาหารือด้วย หากทั้ง 2ฝ่ายตกลงกันก็จะได้กำหนดเวลาแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นตั้งใจว่า จะพูดเรื่องกฎหมายที่ค้าง เนื่องจากร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.…อาจต้องใช้เวลา รวมถึงร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตและร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ต้องให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถพิจารณากฎหมายฉบับอื่นได้ โดยจะเป็นการหารือว่าหากจะให้มีการประชุมในวันศุกร์ใด วันศุกร์หนึ่งจะพร้อมหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูช่วงปลายสมัยก็จะยากหน่อย

นายชวน กล่าวต่อว่า เรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยจะเป็นการหารือว่าเมื่อบรรจุวาระเข้าไปแล้ว แต่ละฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ว่า จะใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งหากสามารถตกลงกันได้ก็จะทำให้เรื่องที่กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วผ่านไปได้ เพราะตนคิดว่าเป็นผลงานที่แต่ละฝ่ายทำมา บางคณะอาจใช้เวลา 1 ปี หรือบางคณะอาจใช้เวลา 2ปี จึงไม่ควรที่จะค้างเพราะจะทำให้เสียของ จึงอาจะให้ผ่าน ส่วนกฎหมายหากไม่ทันก็เป็นเรื่องที่แล้วแต่รัฐบาล เพราะกฎหมายที่สำคัญก็เป็นของรัฐบาล

แจ้ง‘2สส.พปชร.’ลาออก-เหลือ436คน

ต่อมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมสภา โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายชวน ได้แจ้งว่า มีผู้ได้ลาออกจากการเป็นสส.อีก 2ราย ได้แก่ นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ ลาออกจาก สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 22ธ.ค.2565และนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 3ม.ค.2566 จึงถือว่าพ้นจากความเป็นสส.ตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ขณะนี้มีส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งสิ้น 436 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชิงชาย ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และได้มีการเปิดตัว สวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ไปแล้วเมื่อวันที่ 23ธ.ค.65 ขณะที่นางพิชชารัตน์ ได้ไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

สภาล่มนัดแรกรับปีใหม่-ไม่เสียบบัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.กัญชากัญชง ช่วงบ่ายวันที่4มกราคม ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเข้าสู่การโหวตมาตรา11 ที่กมธ.เสนอให้ตัดข้อความทิ้งทั้งมาตรา ยังเกิดปัญหาเสียเวลารอสมาชิก กระทั่งสส.ฝ่ายค้านหลายคนทักท้วงขอให้ปิดประชุม เพราะสมาชิกอยู่ไม่ครบ

โดย นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอให้ถอนร่าง พรบ.กัญชาฯ ออกไปก่อน อย่ามาถ่วงเวลาแบบนี้ เพราะความไม่พร้อมสูงมาก เสียเวลาที่ต้องรอ ดูแล้วยังไงกฎหมายก็ไม่ผ่าน ถ้าจะผ่าน องค์ประชุมคงครบไปนานแล้ว แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้มาเป็นเดือนแล้ว ควรให้ถอนไปก่อน

แต่นายศุภชัย ก็พยายามยื้อเวลาให้รอไปเรื่อยๆ เพราะที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยรอสมาชิกครบองค์ประชุมนาน 53นาที มาแล้ว ขอความร่วมมือกันให้อดทนกันจนกระทั่งครบ 35นาที มีสมาชิกมาครบองค์ประชุม ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาเสียบบัตรลงมติมาตราดังกล่าว กลับมีสมาชิกเสียบบัตรแค่ 204คนเท่านั้น ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม นายศุภชัย จึงสั่งปิดประชุมเวลา 15.05น.ถึงเป็นเหตุการณ์องค์ประชุมล่มรับปีใหม่2566 ที่เปิดประชุมนัดแรกสภาก็เกิดล่มทันที

‘รทสช.’ยัน’บิ๊กตู่’มาร่วมงานแน่นอน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรครทสช.ในช่วงต้นเดือนมกราคม ว่า ประเด็นการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อใดนั้นไม่ถือเป็นสาระสำคัญ เพราะท่านนายกฯประกาศชัดเจนแล้วว่า จะมาร่วมงานกับพรรคและพรรคก็แสดงความชัดเจนเช่นกันว่า เราเป็นพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม ขณะนี้นายกฯก็ยังมีภารกิจบริหารรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ส่วนพรรคมีหน้าที่เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งมีความพร้อมขึ้นทุกขณะ ทั้งในส่วนผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครสส.หรือการจัดทำนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมามักมีข่าวปล่อยยุแยงว่า นายกฯ เปลี่ยนใจ ก็เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของบางพรรคเท่านั้น แต่ผมยืนยันว่านายกฯจะมาร่วมงานกับพรรค รทสช.อย่างแน่นอน แม้จะยังไม่สมัครสมาชิกพรรค รทสช.อย่างเป็นทางการก็ตาม แต่เรื่องวันเวลาที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่นายกฯจะพิจารณาเอง

จ่อคลอดนโยบายรวมกันเป็นหนึ่ง

นายเอกนัฏกล่าวด้วยว่าเร็วๆนี้คณะทำงานด้านนโยบายจะประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือเวิร์คช็อป เพื่อจัดทำชุดนโยบายของพรรคและนำเสนอต่อ กก.บห.ก่อนประกาศต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งหลักคิดสำคัญในการออกแบบนโยบายจะตรงตามชื่อพรรค รทสช.ที่มุ่งสลายความคิดเชิงแบ่งขั้วให้คนไทยทุกคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ข้อมูลที่ได้จากการรับฟังพี่น้องประชาชนถือว่าเป็นประโยชน์ และค่อนข้างตรงกับแนวนโยบายที่พรรคจัดเตรียมไว้เบื้องต้น หลังจากนี้จะมีขั้นตอนการประมวลผล และออกแบบชุดนโยบาย ก่อนจะคิกออฟนโยบายต่างๆออกมาเร็วๆนี้

‘พท.’ร่อนแถลงการณ์ปัดจับมือตั้งรบ.

ที่พรรคเพื่้อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง ไม่ได้จับมือพรรคการเมืองใดตั้งรัฐบาล เน้นเดินหน้าแลนด์สไลด์ เพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจให้คนไทย โดย ระบุ ว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อต่างๆ รวมทั้งมีการวิเคราะห์การเมืองว่า พรรคเพื่อไทยได้จับมือกับพรรคการเมืองบางพรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งนั้น พรรคเคารพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ขอปฏิเสธกระแสข่าวเรื่องการจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองต่างๆดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง การวิเคราะห์ของบางสื่ออาจทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่พรรคเห็นว่า มีการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอของบางฝ่าย เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรค สร้างความสับสนและเบี่ยงเบนกระแสเดินหน้าสู่ชัยชนะแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรคขอแถลงดังนี้

ฝันกวาด251สส.ตั้งรบ.พรรคเดียว

1.พรรคเพื่อไทยตระหนักว่า ภารกิจอันสำคัญยิ่งของรัฐบาลหน้าคือ การแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ และสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการเดินหน้ารณรงค์การเลือกตั้งสู่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์เพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศและทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น รวมทั้งการชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ได้ สส.ตั้งแต่ 251คนขึ้นไป จะเพิ่มโอกาสเอาชนะการโหวตของ สว.ในการเห็นชอบตัวนายกรัฐมนตรีในรัฐสภา ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชนที่แท้จริง และเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหาของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ 2.พรรคตระหนักดีว่า หลักการประชาธิปไตยที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ การเคารพเสียงของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง พรรคเห็นว่า การจับมือกันของพรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลก่อนที่จะทราบผลเลือกตั้งนั้น ไม่เหมาะสม และเป็นการไม่เคารพหลักการข้างต้น ซึ่งพรรคจะไม่ทำเช่นนั้น นอกจากนั้นหลักเกณฑ์ที่สำคัญในการตั้งรัฐบาลคือ อุดมการณ์ประชาธิปไตยและนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ต้องยึดมั่นเป็นหลักในการตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง

ย้ำไม่จับมือพรรคการเมืองอื่นตั้งรบ.

3.พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า พรรคไม่ได้จับมือกับพรรคการเมืองใดในการตั้งรัฐบาลตามที่เป็นข่าว และไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม พรรคขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า นี่คือท่าทีและจุดยืนอันมั่นคงของพรรคมิเคยเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียนยืนยันตามดังกล่าวข้างต้น พรรคจะมุ่งมั่นตั้งใจเดินหน้าสู่การเลือกตั้งและนำเสนอนโยบายเพื่อตอบโจทย์ประเทศ แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น รวมทั้งการทำให้กฎกติกาสูงสุดของประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย

คาดเปิดผู้สมัครครบ400เขตกลางม.ค.

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการเปิดตัวผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง สส.ของพรรคครบทั้ง 400เขต ขณะนี้ได้เปิดตัวไปแล้ว 300 เขตเลือกตั้ง ยังเหลืออีกประมาณ 100เขต คาดว่าส่วนที่เหลือจะเปิดตัวแล้วเสร็จกลางเดือนมกราคมนี้ โดยสาเหตุที่ยังไม่เปิดตัวให้ครบทุกเขต ทั้งที่พรรคมีผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง สส.ครบทุกเขต ส่วนหนึ่งมาจากผู้สมัครในแต่ละเขตนั้นมีมากกว่า 1คน จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่พรรคจะต้องพิจารณาคัดเลือกซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง สส.ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ขณะเดียวกัน พรรคยังรอการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการเลือกตั้งหรือ กกต.ซึ่งทราบจาก กกต.ว่า หลังจากกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจำนวนประชากรตอนสิ้นปี2565 จึงจะประกาศแบ่งเขตการเลือกตั้งตามมา เราคาดหวังว่า กกต.จะดำเนินการแบ่งเขตการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งขณะนี้ใกล้เวลาเลือกตั้งแล้ว ทางพรรคจะรอการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคัดเลือกส่งตัวผู้สมัครต่อไป คาดว่ากลางเดือน ม.ค.66 จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครในส่วนที่เหลืออีกครั้ง

ขู่กระชากหน้ากากรบ.4ปีที่ล้มเหลว

นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมเปิดอภิปรายญัตติทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา152 ว่า เตรียมตัวมานานแล้ว เราจึงแบ่งกันทำการบ้าน กรอบเนื้อหาชัดเจนแบ่งกันจบแล้ว สร้างหนัง สร้างสตอรี่กันจบก็แบ่งบทกันไปเล่น ตอนนี้ทุกคนก็ไปซ้อมบท ใครที่รับหัวข้อไปแล้วก็ไปหารายละเอียดและหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ดีที่สุด สัปดาห์หน้าจะรวมกันทั้ง 6พรรคเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย เมื่อถามว่า จะมุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ประเด็นอะไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า เราจะมุ่งตรวจที่ 4 ปีที่ผ่านมา อะไรที่รัฐบาลน่าจะทำแล้วไม่ทำ ทำไมถึงไม่ทำและอะไรที่ทำแล้วล้มเหลว เวลาที่เหลืออยู่ควรจะแก้ไขอย่างไร โดยเฉพาะนโยบายที่เคยแถลงไว้ ถ้าทำไม่ได้เลย และไม่ได้ทำ คุณจะรับผิดชอบต่อสภาประชาชนอย่างไร ขณะที่ปัญหาเรื่องการทุจริตนั้นมีอยู่แล้ว เพราะอยู่ในนโยบายการปราบปรามการทุจริต ทั้งเรื่องความล้มเหลวในการใช้งบประมาณ ใช้งบประมาณไปในทางที่ผิด ไม่เกิดผล ซ้ำร้ายยังเกิดหนี้

ซัด4ปีล้มเหลวประชาชนเสียโอกาส

เมื่อถามว่า การอภิปรายจะมีเรื่องใหม่ๆที่สังคมสนใจ เช่น เรื่องป้ายสถานีกลางบางซื่อหรือไม่ นายสุทิน กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้อยู่ในกลุ่มนโยบายที่เคยแถลงไว้ว่า จะปรามการทุจริต แล้วทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้และจำนวนตัวเลขถึงเยอะ เราจะไม่ปล่อย เราจะซักถาม เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะทำให้ถึงขั้นว้าวจนส่งผลต่อรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เซอร์ไพ้ร์ส แต่เมื่ออภิปรายภาพรวม จะได้รู้ว่าคุณล้มเหลวจริงๆใน4ปีที่สูญเสียโอกาสชัดเจน ซึ่งเมื่ออภิปรายขยายความแล้ว ภาพออกมาประชาชนจะเสียดาย4ปีที่ผ่านมา ก็เหมือนกับที่ใส่หน้ากากมา 4ปี เราจะถอดให้เห็นว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

‘สุดารัตน์’เปิดตัวอดีตสส.3สมัย

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค เปิดตัวอดีต สส.3สมัย ดร.ฟาริดา สุไลมานเป็น ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคไทยสร้างไทยจังหวัดสุรินทร์ เขต5 ในพื้นที่ อ.คีขรภูมิและอ.สำโรงทาบ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคยินดีต้อนรับ ดร.ฟาริดา นักการเมืองหญิงคุณภาพ อดีต สส.3สมัย เป็นผู้หญิงนักสู้ ที่ต่อสู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้หญิงและพี่น้องที่ด้อยโอกาสในชนบทมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีดีเอ็นเอของไทยสร้างไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องชาวสุรินทร์ หายจน หมดหนี้ มีรายได้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จากนี้พรรคจะทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ทั้งผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองและคนรุ่นใหม่ที่ตรงตามดีเอ็นเอของพรรคตามเขตพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรับเลือกตั้งที่จะมาถึง

‘ฟาริดา’ลั่นขอทำให้ชาวสุรินทร์ดีขึ้น

ดร.ฟาริดา ได้กล่าวขอขอบคุณ คุณหญิงสุดารัตน์และพรรคไทยสร้างไทย ที่ให้โอกาสกลับมารับใช้พี่น้องชาวสุรินทร์ ซึ่งตนเกิดและเติบโตที่สุรินทร์ ได้เห็นความยากลำบากของพี่น้องในช่วงที่ผ่านมา โดยพี่น้องต้องสู้กับความยากจนและหนี้สินตามลำพัง ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จึงตั้งใจขออาสามาเปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้องชาวสุรินทร์ให้ดีขึ้นให้ได้ สำหรับ ดร.ฟาริดา เป็นภรรยาของนายมุข สุไลมาน อดีต สส.ปัตตานี 5สมัย เริ่มทำงานการเมืองเป็นนายกเทศมนตรีตำบลระแงง อ.ศีขรภูมิ ก่อนเข้าทำงานการเมืองระดับชาติและได้รับไว้วางใจเป็นสส.สุรินทร์ ถึง 3สมัย และดำรงตำแหน่งทางการเมืองกว่า 10ปี

‘พปชร.’ส่อกระเพื่อม/เลือดไหลเพิ่มอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ถึงการเตรียมประชุมใหญ่พรรค พปชร.ในเดือนมกรา เพื่อปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง โดยก่อนหน้านี้มีแกนนำบางคนเสนอจะให้ กก.บห.ที่เป็นสส.เขตลาออก เปิดทางให้บุคลากรคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่ ในขณะที่กรรมการที่เป็นส.ส.จะได้ลงพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ แต่ปรากฏว่า แนวคิดดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคบางส่วน เนื่องจากเห็นว่าแกนนำคนดังกล่าวพูดไปโดยที่กรรมการบริหารบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้นด้วย เป็นการคิดเองเออเอง และต้องถามว่าคนที่พูดเป็นใคร เพราะแกนนำบางคนก็ต้องการเป็นทั้งกรรมการบริหาร และส.ส.เขต ไปพร้อมกัน เพื่อที่จะมีปากเสียงในการขับเคลื่อนงาน และเป็นเครดิตไปบอกกับคนในพื้นที่ของตัวเองได้ ต้องจับตามองว่าหลังการประชุมใหญ่ของพรรคแล้ว แต่เป็นห่วงว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ เลือดใหลไม่หยุดอีกแน่ หากทำตามแนวคิดนี้ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้และที่ผ่านมากลุ่มสามมิตรไม่พูดหรือแสดงท่าทีอย่างไร เพราะการรอดูความชัดเจนในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ก่อน โดยจะรอดูว่า กลุ่มสามมิตรจะได้เป็นกก.บห.หรือไม่และได้เป็นกี่คน ก่อนจะกำหนดท่าทีอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ผ่านมาสมาชิกพรรคหลายคนไม่พอใจการตัดสินใจของแกนนำบางส่วน ทั้ง นายวิรัช รัตนเศรษฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รวมถึงบุคคลใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร จึงทำให้ประเมินกันว่า หลังประชุมใหญ่พรรคและปรับโครงสร้างพรรค จะมีสมาชิกพรรคลาออกอีกและอาจมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเวลาเกิดปัญหาขึ้นและสมาชิกพรรคแจ้งให้พล.อ.ประวิตร รับทราบถึงความไม่พอใจ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรค แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความชัดเจนใดๆ ทำให้สมาชิกไม่อยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในพรรคอีกต่อไป