ผ่านมา 15 ปี ถ้าเป็นเด็กหญิงเด็กชายก็จะเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาวเป็นนายเริ่มโต เป็นผู้ใหญ่กันบ้างแล้ว
แต่สำหรับพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551 แม้จะบังคับใช้มานานถึง 15 ปี ผลของการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายยังคงก้ำกึ่งเป็นเด็กบ้างเป็นผู้ใหญ่บ้าง
เป็นเพราะเหตุปัจจัยอะไร จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้างให้เหมาะสมกับบริบทของสังคม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป วันก่อนมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) ร่วมกับเครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม จัดประชุมเสวนาเรื่อง “มองหลากมุม 15 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง” มีทั้งนักวิชาการ ภาคีภาคประชาสังคม นักการเมือง สื่อมวลชน มาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน
เริ่มเปิดเวทีด้วย ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาการสุขภาพ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ยกข้อมูลเปรียบเทียบว่าข้อมูลการบริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลกระทบเปรียบเทียบช่วงก่อนและหลัง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บังคับใช้ว่า สัดส่วนผู้บริโภคแอลกอฮอล์ในปี 2550 เทียบกับปี 2564 ลดลงไป 2% เพศชายลดลง 5.9% ส่วนเพศหญิงกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.7% และยังพบว่ากลุ่มอายุ 15-19 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป มีการดื่มลดลงส่วนกลุ่มอายุ 20-49 ปี มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักคือน้อยกว่า 1% ส่วนพฤติกรรมเมาแล้วขับช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลง 12.2% เทศกาลสงกรานต์ลดลง 9.5% จึงสรุปได้ว่า กฎหมายฉบับนี้ทำให้การดื่มและปัญหาการเมาแล้วขับลดลง
ส่วนเนื้อหากฎหมายที่สำคัญว่าควรจะปรับปรุงแก้ไขตรงไหนหรือไม่ ผลการสำรวจเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยและสนับสนุนให้จำกัดสถานที่จำหน่ายถึง 94.5% จำกัดช่วงเวลาจำหน่าย 93.1% และจำกัดการโฆษณา 91% โดยส่วนตัวเห็นด้วยว่าควรจะปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งการเติบโตของโซเชียลมีเดียและการเกิดขึ้นของทุนขนาดเล็กที่ควรให้โอกาสได้เติบโตควบคู่กับการควบคุมทุนแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่
ส่วนภาคประชาสังคม นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บอกว่ากว่าจะมีกฎหมายฉบับนี้ประชาชนกว่า 13 ล้านคน ต้องออกแรงผลักดันกันอย่างหนักเพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ คุ้มครองสุขภาพประชาชน และลดผลกระทบทางสังคม ทำให้มีกลไกระดับนโยบายและปฏิบัติรวมทั้งตัวบทที่รัดกุมทั้งสถานที่ห้ามขาย การห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และคนเมาครองสติไม่ได้ การจำกัดวิธีการขายและห้ามส่งเสริมการขาย การควบคุมการโฆษณา รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดสุราส่งผลให้ลดจำนวนนักดื่มลง มีการจำกัดการดื่มให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมทำให้พื้นที่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
ปัญหาที่พบคือธุรกิจแอลกอฮอล์ใช้ตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดียวกันกับน้ำดื่มและโซดา หรือที่เรียกกันว่าตราเสมือนทำให้คนนึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ดี ควรกำหนดแนวปฏิบัติของผู้ซื้อที่เข้าข่ายเมาครองสติไม่ได้ยังไม่ชัดเจน ยังพบการขายแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ในร้านทั่วไป ร้านค้ารายย่อยและผับบาร์จึงต้องปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย จากการพูดคุยกับกลุ่มผลักดันพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าก็พบจุดร่วมในหลายประเด็น เช่น การลดทุนผูกขาด การจัดการเรื่องตราเสมือนซึ่งเป็นความฉ้อฉลที่ทุนสุรารายใหญ่ได้เปรียบ รวมทั้งการอบรมผู้ขายให้มีทักษะมากขึ้น
นักการเมืองหนึ่งเดียวในวันนั้นอย่าง นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กทม. พรรคก้าวไกล บอกว่า เป็นกฎหมายที่ดีในแง่ของการควบคุม แต่มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ สิ่งที่อยากให้แก้ไขคือให้มีการโฆษณาได้ โดยห้ามโฆษณาที่เข้าถึงเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ลงมา หรืออาจจะกำหนดวงเงินในการโฆษณาของธุรกิจแอลกอฮอล์รายใหญ่ไม่เกิน 10% ของรายได้หรือเป็นตัวเงินก็ได้ว่าไม่เกินกี่ล้านบาท เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างรายใหญ่กับรายเล็ก รวมทั้งเห็นด้วยกับการห้ามใช้ตราเสมือน นอกจากนี้ ควรจำกัดบทบาทของธุรกิจแอลกอฮอล์ที่เป็นทุนขนาดใหญ่ แล้วเปิดโอกาสให้คนเล็กคนน้อยที่เป็นทุนขนาดเล็กได้มีบทบาทมากขึ้นเพื่อลดการผูกขาด ส่วนการขับเคลื่อนหลังจากนี้ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง สส. และสภาชุดใหม่ถ้าได้กลับมาเป็น สส.อีก ก็จะผลักดันเรื่องนี้ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านสื่อมวลชนร่วมแสดงความเห็นกันหลากหลาย เช่น นายเทพสิทธิ์ โมฬีชาติ บรรณาธิการบริหาร ชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุฯ ชื่นชมว่ากฎหมายฉบับนี้ดีแล้ว สะท้อนได้จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานได้ผลคนดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องบังคับใช้กฎหมาย และเห็นด้วยกับการห้ามใช้ตราสัญลักษณ์เดียวกัน ส่วนนายสุเมธ จันสุตะ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวยุทธศาสตร์ออนไลน์ เสนอว่า ควรมีกฎหมายหรือข้อห้ามข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีบทบาทในการกำกับดูแลเรื่องแอลกอฮอล์รับตำแหน่งในธุรกิจแอลกอฮอล์หลังเกษียณอายุเพราะเป็นผู้ที่รู้เรื่องกฎระเบียบต่างๆ อาจมีผลเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจแอลกอฮอล์ ในขณะที่ นายศักดา แซ่เอียว การ์ตูนนิสต์ จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เสนอว่าจะต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์โดยการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เรื่องสุขภาพ เห็นด้วยกับการห้ามใช้ตราเสมือน ส่วนข้อเสนอให้โฆษณาได้ ตนมองต่างมุมว่า ยิ่งโฆษณามาก จะทำให้คนหันมาดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น
ครับเวลานี้ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับนี้ค้างเติ่งอยู่ในสภาหลายฉบับรวมทั้งฉบับประชาชนด้วย ยุบสภาเมื่อไรเป็นอันจบกัน...หลังเลือกตั้งต้องกลับมาสู้กันใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี