"สุรนันทน์"แฉตอนจบ ไม่ขอร่วมสังฆกรรมพรรคการเมืองที่ต้องทำตามนายทุนพรรค เผยไม่คาดคิดแกนนำจะทิ้งสอท.ไปซบ"พปชร."ขอโทษลูกทีม ไม่สามารถพาถึงฝั่ง พร้อมขอบคุณ"วราวุธ" ช่วยดูแลแทน
วันที่ 3 มีนาคม 2566 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีตประธานภาคกทม.พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊ก บันทึกช่วยจำสร้างอนาคตไทย (ตอนจบ 5/5)
3.ทุน ใครบอกว่าทำการเมืองไม่ใช้เงิน ก็ต้องใช้คำว่า “ไร้เดียงสา – Naive” สำหรับประเด็นเรื่องทุน ผมขอสรุปด้วย 2 คำพูด
คำพูดแรกได้ยินกับหูตัวเอง คือ “เราไม่ได้ลงขันกับเขา ต้องให้คนลงขันตัดสินใจ” ผมได้แต่ถอนหายใจ
คำพูดที่สอง คนที่ได้ยิน คือ อาจารย์สันติ กีระนันทน์ “...เป็นคนระดมทุนมา ถ้าเขาจะเอาอย่างนั้น ก็ทำอะไรไม่ได้” อาจารย์สันติตอบกลับว่า “เราไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ยใคร” แล้วตามด้วยใบลาออก ผมว่าผม “Dog Mouth” แล้วนะ อาจารย์สันติภาษาไทยแข็งแรง ผมได้แต่คิด “ข้าน้อยขอคารวะ”
พรรคการเมืองไม่ใช่บริษัท ถ้านักการเมืองคิดแค่เรื่องใครเป็นนายทุน ใครเป็นเจ้าของเงิน โดยต้องฟังคำสั่งคนคนนั้นเพียงคนเดียว ผมเองก็ขอไม่รวมสังฆกรรมด้วย
ที่ผมเขียนบันทึกช่วยจำชุดนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะต่อล้อต่อเถียงกับใครอีก และไม่ได้คิดเป็นคดีความกับใครด้วย อาจมีคนตำหนิว่าผมเอาเรื่องข้างในมาเล่า แต่เมื่อผู้บริหารพรรคได้ทิ้งพรรคกลับไปซบพรรคพลังประชารัฐแล้ว พรรคสร้างอนาคตไทยก็เหลือแต่ชื่อที่เขายังถือกันไว้ แต่ไร้ซึ่งเครดิตทางการเมือง แถมยังมีบางคนไปพูดต่อว่าผมเป็นคนที่ทำให้พรรคพัง ก็ว่ากันไปครับ การบันทึกบางเรื่องไว้ผมถือว่าจะทำให้คนรุ่นหลังมีบทเรียน ใครอยากทำงานการเมืองจะได้เข้าใจ และทั้งหมดเป็นมุมมองของผม ซึ่งผู้อื่นที่อยู่ในเหตุการณ์อาจคิดต่างเห็นต่าง ผมเคารพในทุกความคิดเห็นครับ
ในช่วงที่มีการเจรจากับพรรคไทยสร้างไทยเรื่องรวมพรรคกับพรรคสร้างอนาคตไทย มีว่าที่ผู้สมัครของภาค กทม. (และภาคอื่นๆ) เริ่มห่วงสถานะตัวเอง ผมได้ให้กำลังใจว่า ถ้าเราแข็งแรงในพื้นที่ก็ไม่ต้องห่วง การตัดสินว่าใครได้ลงเป็นเรื่องของโพลล์ แต่แน่นอนว่าทุกคนคงไม่ได้ลงในพรรคที่รวมแล้ว และมีหลายคนไม่สบายใจที่จะต้องเปลี่ยนแม้แต่ชื่อพรรค
ด้วยเหตุผลนี้ผมจึงเริ่มติดต่อหลายคน เพื่อ “หาบ้านใหม่” ผมต้องขอบคุณทุกคนที่ผมติดต่อ และยังรับโทรศัพท์ผม พร้อมให้คำแนะนำ จะช่วยได้มากได้น้อยไม่สำคัญ แต่น้ำใจของทุกคน ผมไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเป็น ดร.แหม่ม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พปชร.) พี่แจ๋น พวงเพ็ชร ชุนละเอียด (เพื่อไทย) พี่ใหญ่ สิรภพ ดวงสอดศรี (ผอ.พรรคภูมิใจไทย) บี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ (ภท.) พี่ทวี สอดส่อง (ประชาชาติ) และผู้พันปุ่น ศิธา ทิวารี (ไทยสร้างไทย)
ผมต้องขอบคุณอย่างมากกับคุณท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ที่ให้เกียรติผมกับอาจารย์สันติได้พบและหาทางออกให้กับผู้สมัครหลายคน มีบางคนไปสมัครก่อนแล้วด้วย รวมทั้งได้คุยถึงนโยบายที่จะพัฒนากรุงเทพที่อาจารย์สันติร่างไว้ คุณท็อปเปิดตัวอดีตว่าที่ผู้สมัครของสร้างอนาคตไทยไปแล้ว แถมได้คนทำนโยบายอย่างอาจารย์สันติไปร่วมงานด้วย ขอบคุณในไมตรีนี้อย่างยิ่งครับ
ผมต้องทั้ง “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะที่รู้จักกันมานานตั้งแต่ยุค “พรรคพลังธรรม” และรอบนี้บางครั้งผมก็อยู่ในวงเจรจาเกี่ยวกับการรวมพรรค ผมเห็นด้วยกับการรวม หากทำให้พรรคที่รวมแข็งแรงขึ้น (Synergy) ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น ด้วยกติกาการเมืองที่บิดเบี้ยวทำให้พรรคเล็กอยู่ยาก ผมยังบอกน้องๆ ที่ไปลงในนามไทยสร้างไทยว่าคุณหญิงมีทักษะทางการเมืองการหาเสียงที่เก่งและควรหาโอกาสเรียนรู้
แต่สำหรับผมแล้ว ผมได้เดินหาเสียงให้ ดร.สมคิด เป็นนายกรัฐมนตรี และชุดความคิดที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าผมต้องหาเสียงให้คุณหญิงกับนโยบายบางอย่างที่ผมไม่เห็นด้วย ผมก็ไม่พร้อม เมื่อพี่นิพฏฐ์ “ไขก๊อก” พี่สุพล “เว้นวรรค” ประกอบกับผมไม่ได้รับคำตอบที่เป็นบวกในการปรับปรุงพรรค ผมจึง “ลาออก” ไม่มีอะไรติดใจส่วนตัวกับคุณหญิง และหวังว่าคุณหญิงคงเข้าใจ
ต่อไปนี้เป็นคำ “ขอโทษ”
ผมต้องขอโทษหลายคนในพรรค ผมเป็นคนที่พูดตรงและแรงในบางจังหวะ ผมอยากให้งานออกมาดี คิดแบบฝรั่งคือเถียงกันให้จบบนโต๊ะ แล้วไม่ต้องไปแทงกันข้างหลัง แต่ผมคงหลอกตัวเอง เพราะนี่คือ “การเมืองไทย” อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอโทษคุณนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค และน้องๆ รองโฆษกทุกคน หากผมพูดแรงและทำให้ไม่สบายใจ ผมขออภัย
อาจารย์อุตตมบอกผมว่า หากพูดแรงเป็น Disruption ผมกลับเห็นว่าถ้ายังทำกันไปเรื่อยๆ ก็ “ลงเหว” Disruption อาจจะ reset ทิศทางให้ดีขึ้นได้
ผมต้องขอโทษผู้สมัครและทีมงานภาค กทม. ทุกคนที่ผมนำทางไม่ถึงฝั่ง ได้แต่ฝากฝังคนอื่นไปต่อ ผมรักและเข้าใจทุกคน หวังว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
สุดท้าย และสำคัญที่สุด ผมต้องขอโทษประชาชนทุกคน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่ผมได้ลงพื้นที่ไปพบ ไปชักชวนให้มาร่วมงาน ชักชวนให้เป็นสมาชิก พูดคุยรับฟังความคิดเห็น และขอให้พิจารณาพรรคสร้างอนาคตไทย ขอให้สนับสนุน ดร.สมคิด เป็นนายกรัฐมนตรี
ผมไม่ทราบว่า ผู้บริหารพรรคจะมีการกลับซบพลเอกประวิตรและพรรคพลังประชารัฐ ผมรับไม่ได้ถ้าจะต้องอยู่ในสภาพของการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไม่มีความหวังใหม่อะไรให้กับประชาชน ดีที่ผมลาออกมาก่อน
แต่ผมไม่สามารถปฏิเสธที่จะไม่ขอโทษประชาชนที่ศรัทธาให้ความไว้วางใจกับพรรค กับตัวผม กับตัวผู้สมัครในภาค กทม. ที่ผมดูแล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี