“บิ๊กตู่” เผย รทสช.จัดโผปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว อาจแก้ไข ยึดหลักคนทำงานมาก ยันให้ความเป็นธรรม เผย 3-4 เมษายน พาผู้สมัครสส.ไปเอง
“บิ๊กป้อม” โชว์ฟิต ลงตรวจ“ประจวบฯ–เพชรบุรี”ศุกร์นี้พปชร.จัดใหญ่เปิดตัว 492 ผู้สมัครสส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ คนแน่นบางกอกอารีน่า “ประวิตร”ประกาศลั่นก้าวข้ามความขัดแย้ง-ความยากจน อาสาประสานประโยชน์ทุกฝ่าย ปราบผู้มีอิทธิพล อาชญากรรมข้ามชาติ ปลุก 14 พฤษภาคม กา 2 ใบทั้งคนทั้งพรรค

‘สนธิรัตน์’ลั่นทีมเศรษฐกิจ พปชร.พร้อมทำงานทันทีเป็นรบ. ขณะที่ ปชป.ติวเข้มผู้สมัคร ส.ส.กทม.33เขต เตรียมใช้รถEVขนสมัคร 3เม.ย.‘จุรินทร์’นำทีมปาร์ตี้ลิสต์สมัคร4เม.ย. ‘องอาจ’โวหลัง‘อภิสิทธิ์’ขึ้นเวที กระแสปชป.มีแต่เพิ่ม ไม่มีลด มติ พท.เล่นใหญ่ ประกาศร่าง รธน.ใหม่ ชู 4 ประเด็นหลัก ลั่นถ้าได้เป็นรัฐบาลทำทันที ด้าน กกต.แต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 423 คน ทั้ง77จว. ช่วยตรวจสอบทุจริต-ทำผิดกม.เลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯจะเข้าร่วมประชุม เพื่อสรุปลำดับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในเวลา16.00น.วันเดียวกันนี้ เนื่องจากจะต้องให้เสร็จเรียบร้อย

‘บิ๊กตู่’นำทัพรทสช.ไปสมัคร3-4เม.ย.

ก่อนที่วันที่ 4 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์จะไปให้กำลังใจ และนำผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อไปที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง กทม. เนื่องจากจะเป็นวันเปิดรับสมัครการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หลังจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติและแกนนำพรรคจะขึ้นรถแห่หลังจากที่ได้หมายเลขบัญชีรายชื่อเรียบร้อย กระทั่งเวลา14.00น.วันที่ 4 เม.ย.พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)

อย่างไรก็ตาม สำหรับในวันที่ 3 เม.ย.ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งวันแรก พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ พร้อมแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ จะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง33เขตไปสมัคร ที่ศูนย์กีฬาเวสน์ เขตดินแดงด้วยเช่นกันและมีการวางกำหนดการไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะนำขึ้นรถแห่เพื่อรณรงค์เลือกตั้งด้วย

จัดคิวเปิดปราศรัยใหญ่กทม.7เม.ย.

นอกจากนี้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังได้เตรียมจัดตารางรณรงค์หาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ และแกนนำของพรรคไว้ด้วยว่าจะเริ่มเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ กทม.เป็นแห่งแรกในวันที่ 7 เม.ย.นี้ จากนั้นจะเดินสายหาเสียงไปตามภาคต่างๆควบคู่ไปกับการลงพื้นที่ในภารกิจของนายกฯที่จะสลับกันไป โดยจะเน้นงานตรวจความคืบหน้านโยบายของรัฐบาลเพื่อไม่ให้ข้าราชการเกิดเกียร์ว่างและในช่วงท้ายก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งมีการวางแผนไว้ว่าจะจัดเวทีปิดการปราศรัยในพื้นที่ กทม.เช่นกัน

‘เอกนัฏ’ชี้ปาร์ตี้ลิสต์เสร็จก่อน4เม.ย.

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)กล่าวถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคว่าขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยดี กำลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)เพื่อพิจารณาเป็นรอบที่2 การจัดลำดับต้องคำนึงถึงความเหมาะสม จึงทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม จะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 4 เม.ย.อย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ส่งตัวแทนพรรคเข้าร่วมพิธีลงนาม“จรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566”ที่จัดโดยภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ภาคประชาสังคม องค์กรสื่อและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเอกนัฏ กล่าวชี้แจงว่า ไม่เห็นมีใครติดต่อและไม่ทราบว่างานดังกล่าวกกต.ร่วมจัดด้วย หากมีการเชิญมา ทางพรรคก็ต้องส่งตัวแทนไปอยู่แล้ว การลงนามเป็นเพียงแค่การเขียนชื่อลงไป ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าพรรคการเมืองที่ร่วมลงนาม จะปฎิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง สุดท้าย ก็ยังเห็นบางพรรคซื้อสิทธิ์ ขายเสียงกันอยู่

‘บิ๊กป้อม’ฟิตลง‘ประจวบฯ-เพชรบุรี’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 31 มี.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง และการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ จ.เพชรบุรีและ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเขาแหลม จ.นครนายก จากนั้น พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปจุดแรก ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณสันเขื่อนปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามการดำเนินการอ่างเก็บน้ำห้วยมงคล อ.หัวหิน และเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและแผนการผลิตน้ำประปาเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งในเขตพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี มอบนโยบายและพบปะประชาชน ช่วงบ่าย พล.อ. ประวิตร จะเดินทางไป จ.เพชรบุรี สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วย แล้วประชุมติดตามแผนงานและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ที่เทศบาลตำบลบางตะบูน อ.บ้านแหลม พร้อมกล่าวมอบนโยบายและพบปะประชาชน

พปชร.จัดใหญ่เปิดตัวผู้สมัครยิ่งใหญ่

เวลา 14.30น.ที่บางกอก อารีน่า เขตหนองจอก กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 400 คน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 92 คน รวม 492 คน และเปิดนโยบายพรรค นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง โดยบรรยากาศมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่หลายพันคนบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกระบองลม เชียร์ ทั้งนี้ ยังมีแฟนคลับแต่งคอสเพลย์อนิเมะ รวมถึงมีศิลปินดารา อาทิ กิ๊ก ดนัย จารุจินดา, โก้ บีมิ๊กซ์, ป๊อก โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว, นิรุติ สาวสุชาติ, กลุ่มนางงาม นายแบบ อินฟลูเอนเซอร์จากหลากหลายอาชีพ, กลุ่ม LGBTQ,กลุ่มนักกีฬาอีสปอร์ต มาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค พปชร.ด้วย

บิ๊กป้อมย้ำเป็นรบ.พร้อมทำตามหาเสียง

ต่อมา เวลา16.10 น.พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงงาน พร้อมกล่าวกับผู้สมัคร ส.ส.และประชาชนว่า ขอบคุณที่ให้การต้อนรับ ขอให้ทุกคนโชคดีจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ก่อนที่เราจะทำอะไรต่อไป ตนอยากให้ดูว่าทีมเศรษฐกิจของ พปชร.ได้ทำอะไรให้กับประชาชน เราเตรียมไว้หากเราเป็นรัฐบาล เราจะทำตามที่เราได้หาเสียงไว้กับประชาชน จากนั้น ได้เปิดวิดีทัศน์นโยบายพรรค พปชร. ด้วย”นโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด” โดย 3 นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ 1.แก้หนี้ประชาชน ผู้ประกอบการให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนด้วยวิธีใหม่ ควบคู่สร้างโอกาสใหม่ โดยทำทันที 2.ดูแลสวัสดิการ เสริมทักษะ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย พร้อมวางรากฐานเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน 8 นโยบายเร่งรัด

เปิดตัว492ผู้สมัคร สส.-ปาร์ตี้ลิตส์

จากนั้น ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รวม 492 คน เริ่มจากภาคเหนือที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค รับผิดชอบ ภาคกลางที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะแกนนำพรรค รับผิดชอบ ภาคอีสานที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ที่นายชัยวุฒิและน.ส.ตรีนุช รับผิดชอบ ภาคใต้ที่นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรคและนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรครับผิดชอบและกทม. ที่นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค รับผิดชอบ

ปลุกคนไทยร่วมก้าวข้ามความขัดแย้ง

จากนั้นพล.อ.ประวิตรขึ้นกล่าวบนเวทีว่า วันนี้ตนรู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศทั้ง 400 เขตและว่าที่ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 92 คนของพรรค ขอยืนยันกับพี่น้องทุกท่านว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐพร้อมแล้วที่จะ เข้ามารับใช้ประชาชนทุกคน และอยากบอกว่าคนไทยทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีสายเลือดเดียวกัน ที่ผ่านมาประเทศของเราพัฒนาได้ยาก เพราะความขัดแย้งและแตกแยก จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมใจกันก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยความรักความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

ลั่นอาสาประสานประโยชน์ทุกฝ่าย

“ผมพร้อมที่จะประสานประโยชน์กับทุกฝ่ายพร้อม ที่จะนำความรักความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเราคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป คนไทยทุกคนต้องรักกันสามัคคีกัน เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างความสงบสุขความเจริญรุ่งเรืองให้กับ ประเทศชาติและประชาชนของเรา เมื่อเราก้าวข้ามความขัดแย้งได้เราก็จะมีพลังที่จะก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน จะก้าวทั้งความขัดแย้งและความยากจน”พล.อ.ประวิตร กล่าว

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของท่านทั้งหลายที่จะให้พรรคใดมาบริหารประเทศ พรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทีมเศรษฐกิจของเราคิดไว้มากกมาย ถ้าเราได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที ขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้ทั้งหมด ทั้ง นโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท ต่อเดือน การลดราคาน้ำมัน ลดราคาแก๊ส และ ลดค่าไฟฟ้า การดูแลคนไทยทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยประชาชน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปมารดาที่ตั้งท้องตั้งแต่เดือนที่ 5 จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจนถึงวันคลอดและดูแล ทารกหลังคลอด จนถึง 6 ขวบ

ปลุกกางพปชร.ก้าวข้ามขัดแย้ง-ยากจน

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า นโยบายในเรื่องน้ำ มีเราต้องไม่มีแล้ง โดยจะพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานแก้ปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรส่งเสริม ตนยืนยันว่ามีเราจะไม่มีแล้งอีกต่อไป ส่งเสริมสิทธิที่ดินทำกิน มีเราต้องมีที่ดินทำกิน ถ้ามีที่ทำกินไม่มีจน จะก้าวข้ามความยากจนได้ เราจะแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงาน สร้างรายได้ยกระดับ การศึกษา เศรษฐกิจฐานรากภาคอุตสาหกรรม การคมนาคมและนโยบายอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงการแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกันปราบปรามและบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจัง เราจะปราบปรามผู้มีอิทธิพล อาชญากรรมข้ามชาติการฉ้อโกงออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ และหนี้นอกระบบ เราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราคือครอบครัวเดียวกัน เราจะรักสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว

“พี่น้องครับขอให้เชื่อมั่นผม เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครฯ ทั้ง 492 คน ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมขอประกาศกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่าพวกเราทำได้และพร้อมแล้วที่จะรับใช้ประชาชนพี่น้องครับวันอาทิตย์ที่14 พ.ค.นี้โปรดกาบัตรเลือกพลังประชารัฐ ทั้ง2ใบ เลือกทั้งคน เลือกทั้งพรรค เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน”พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำ

ปชป.ติวเข้มผู้สมัครสส.กทม.33เขต

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป.ดูแลกทม.พร้อมด้วยน.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ได้เชิญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.และผอ.ศูนย์เลือกตั้งกทม.ทั้ง 33เขตร่วมประชุมวางแผนการเลือกตั้งครั้งนี้และซักซ่อมความเข้าใจก่อนเดินทางไปรับสมัครเลือกตั้ง ในวันที่ 3 มี.ค.นี้

โดยนายองอาจกล่าวว่าได้นัดว่าที่ผู้สมัครมาที่พรรคฯตั้งแต่เวลา 05.30น.วันที่ 3เม.ย.โดยใช้รถบัสพลังงานไฟฟ้าหรือรถ EVเดินทางไปยังสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงเพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าพรรคเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาฝุ่นPM 2.5หากได้เป็นรัฐบาลจะหาโอกาสผลักดันให้กทม.มีอากาศสะอาด เวลา 10.30 น.แกนนำพรรคฯจะพาผู้สมัครทั้ง 33 คน ไปสักการะศาลหลักเมืองและเดินเท้าไปยังวัดพระแก้วเพื่อสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

‘จุรินทร์’นำปาร์ตี้ลิสต์ยื่นสมัคร4เม.ย.

นายองอาจ กล่าวว่าในวันที่ 31มี.ค.เวลา 09.30 น.ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ผ่านการรับรองทั้ง 100 รายชื่อ จะมารวมตัวกัน ที่พรรคฯ สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่จะเดินทางไปสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 เม.ย.โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคฯเป็นผู้นำผู้สมัครไปยื่นสมัครด้วยตนเอง

โว‘มาร์ค’ขึ้นเวทีกระแสปชป.มีแต่เพิ่ม

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป.ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยพบปะประชาชนที่ใต้สะพานพระราม 8 จะยิ่งเสริมพลังของปชป.มากขึ้น นายองอาจกล่าวว่าคิดว่าบุคคลากรของพรรคฯล้วนแล้วแต่มีคุณค่า มีความหมาย ดังนั้นท่านใดก็ตามที่เข้ามามีส่วนช่วยก็ถือว่าช่วยเพิ่มความนิยมในพรรคมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ทุกท่านล้วนแล้ว แต่มีผู้สนับสนุนหรือมีFCของท่านจึงมีแต่บวกมีแต่เพิ่มไม่มีลดแน่นอน

มติพท.ชูร่างรธน.ใหม่แก้4ประเด็นหลัก

ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการด้านยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทยและประธานกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรมและความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย,นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค รองประธานฯ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและกรรมการด้านประชาธิปไตยฯร่วมแถลงมติคณะกรรมการด้านประชาธิปไตยฯกระบวนการยุติธรรม

โดยนายชูศักดิ์สรุปมติการประชุม 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ที่ประชุมมีมติว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล จะเร่งดำเนินการให้ มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้มีการทำประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของพี่น้องประชาชนก่อน 2.จะฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง บรรจุเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หลังจากศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เคยบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญปี2540 เมื่อถูกรัฐประหาร ไม่มีบรรจุเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับต่อมาอีกเลย ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิเสรีภาพและการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติ หากเรื่องใดที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต้องได้รับการแก้ไข ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ถือเป็นเรื่องใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นหลักประกันให้กับพี่น้องประชาชนว่า บุคคลใดจะละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นไม่ได้

3.ศึกษาโครงสร้างที่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม เพราะขณะนี้ความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องใหญ่ในทางกฎหมาย และในทางปฏิบัติ ความเหลื่อมล้ำเป็นหนึ่งในหลักนิติธรรม (Rule of law) รวมถึงการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องมีการยกเลิก แก้ไข ปรับปรุง อย่างเร่งด่วน 4.จะปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือป.วิ.อาญาฯเพื่อให้เป็นหลักประกันประชาชนในสิทธิเสรีภาพโดยสิทธิการประกันตัวต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันตัวต้องเป็นข้อยกเว้นที่เขียนไว้โดยชัดเจน ว่าไม่ให้ประกันตัวในเรื่องใดบ้าง ควรละเว้นการใช้ดุลยพินิจที่กว้างขวาง โดยเราจะหลีกเลี่ยงการเขียนกฎหมายที่ตีความได้กว้างขวางเพราะที่ผ่านมาประชาชนต้องเผชิญกับการถูกคุมขังในศาลโดยไม่ได้รับการประกัน จากการใช้เหตุผล และดุลยพินิจที่กว้างขวาง

ประกาศลั่นพท.เป็นรัฐบาลทำทันที

นายชัยเกษม กล่าวว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความเห็นว่า8ปีที่ผ่านมา ประชาชนมีความรู้สึกอย่างไรต่อการบังคับใช้กฎหมายที่รังแกประชาชนเป็นอย่างมาก จึงมีความเห็นว่าต้องมีการฟื้นฟูกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องพี่น้องประชาชนให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียมและเปลี่ยนโครงสร้างกฎหมายให้ความเหลื่อมล้ำจางไป โดยเฉพาะหลักนิติธรรม ( Rule of law )หลักประชาธิปไตย และการจับกุมคุมขัง

“มติที่ประชุมวันนี้จะเป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ถ้าเราได้จัดตั้งรัฐบาล ไม่ต้องห่วง ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ทุกเรื่องที่เราออกมา ไม่ใช่เราคิดเองเพราะเราได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เรารวบรวมมาเป็นนโยบายเพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป” นายชัยเกษม กล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่าภารกิจของเพื่อไทย ในสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ผู้ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้คือประชาชน ส่วนพรรคเพื่อไทย เป็นเครื่องมือและกลไกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ปัญหาสำคัญของประชาชนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ กฎ ระเบียบ ที่ทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่เราจะทำควบคู่กันไป พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องวางนโยบายหลักไว้ให้ผู้ที่เห็นด้วย เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับเรา และเราพร้อมทำทันที

‘เพื่อไทย’โวอีสานกวาดสส.เกิน100คน

นายสมคิด เชื้อคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า จาการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงทั่วประเทศของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพร้อมผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรค พบว่าประชาชนให้ความสนใจเข้ามาฟังปราศรัยเป็นจำนวนมาก แสดงถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งต้องยอมรับว่ากระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยดีขึ้น เพราะประชาชนตอบรับนโยบายของพรรค และพบว่าประชาชนตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกผู้สมัคร จากพรรคการเมืองใด ดังนั้นจากกระแสที่เกิดขึ้น เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ส.ส.เกินกว่า ครึ่งของจำนวน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่อีสานเชื่อว่าผู้สมัครจะได้ส.ส.เกิน 100 คน จากจำนวนส.ส.ทั้งหมดในพื้นที่อีสานจำนวน132 คน

‘หญิงหน่อย’ปั้น‘Thainess’สร้างรายได้

ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดเวทีให้พรรคการเมือง 10 พรรค ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นประเด็นเศรษฐกิจที่ภาคธุรกิจอยากเห็นและเสนอนโยบายพรรค

โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ตอบคำถาม : แนวทางในการผลักดันการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อช่วยกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำของสังคมพรรคไทยสร้างไทยมีแนวคิดอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นจึงอยากมองการท่องเที่ยวในส่วนรวมว่าไทยต้องเป็นเวิลด์คลาส (world class designation)และต้องยกระดับการท่องเที่ยว โดยนำจุดแข็งประเทศไทย ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ศาสนา ธรรมชาติ ต้องส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวท้องถิ่น ซึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นจุดเด่นคือ‘Thainess’จะขายความเป็นไทยที่ดึงดูดจากภาคการท่องเที่ยว พรรคจะส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นไทย จัดอีเวนต์ใหญ่ 12 เดือน สร้างรายได้ตลอดทั้งปี ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ 2.5ล้านล้านบาทต่อปี ที่สามารถทำได้จริง

เลือก’ทสท.’ไม่มีการทำรัฐประหาร

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นได้เลย ถ้ายังมีความขัดแย้งทางการเมืองและต้องเกิดการยุติความขัดแย้ง หรือเรียกว่าสงครามการเมืองสองขั้ว 17ปีมานี้ เกิดรัฐประหารไป 2 ครั้ง เรื่องฝั่งหนึ่งก็ติดลบ เรื่องฝั่งหนึ่งก็ติดล็อก ดังนั้นอยากมาชวนคิดให้ทุกคนออกจากความขัดแย้งนี้และสร้างทางรอดให้กับประเทศไทย หากเลือกแบบเดิมจบการเลือกตั้ง แล้วอาจเกิดความขัดแย้งและเกิดการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง พรรคเราคิดนอกกรอบต้องสร้างทางเลือกใหม่ทางรอดประเทศให้เลือกไทยสร้างไทยที่มีความพร้อมเป็นรัฐบาล

กกต.ตั้ง423ผู้ตรวจการเลือกตั้ง77จว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้จัดให้มีการจับสลากรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้ง76จังหวัด และ กรุงเทพมหานคร เพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด สำหรับปฏิบัติงานในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 77 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2566 ถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด รวมจำนวน 423 คน ประกอบด้วย ภาคเหนือ 85 คน ภาคใต้ 80 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 119 คน และภาคกลาง 139 คน สามารถดูบัญชีรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th

ช่วยตรวจสอบทุจริต-ทำผิดกม.เลือกตั้ง

สำหรับการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะแต่งตั้งจังหวัดละไม่น้อยกว่า 5คน แต่ไม่เกิน 8 คน โดยใช้เขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดเป็นเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนผู้ตรวจการเลือกตั้ง คือ 1.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งไม่เกิน 5 เขต จะต้องมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 5 คน 2.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 6-8 เขตเลือกตั้ง มีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 6 คน 3.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 9-11 เขต จะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 7คน 4.จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งตั้งแต่12เขตขึ้นไป จะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด 8 คน

ทั้งนี้ในแต่ละจังหวัดจะต้องมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น จังหวัดละ 2 คน แต่งตั้งจากผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดอื่นให้ครบตามที่กำหนด โดยผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ที่ดำเนินการเลือกตั้ง ตรวจสอบการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง รวมทั้งลงพื้นที่หาข่าวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง