‘ประชาธิปัตย์’คึก!‘ขุนพลใต้’ประกาศขอทวงบัลลังก์‘ส.ส.ด้ามขวานไทย’คืน มั่นใจ‘สงขลา-ตรัง-พัทลุง’ยกจังหวัด แถม‘ยะลา’ลุ้น‘ปักธง’เขต3‘ณรงค์ ดูดิง’ กับสโลแกน‘คนบ้านเรา พัฒนาบ้านเรา’
“เจาะสนามเลือกตั้ง”
เที่ยวนี้ขอ “โฟกัส” ไปที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้แบบเป็นแพ็คเกจ กับ “ความหวัง”ของ “พรรคประชาธิปัตย์” ในการ “ปักธง” ทวงคืนพื้นที่ “ด้ามขวานทอง” ของประเทศไทย กลับมาอีกครั้ง
“เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายกชาย” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกวางตัวให้เป็นผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งภาคใต้ ร่วมกับ “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค อดีตรมช.มหาดไทย
ทั้ง “2 ขุนพล” จะรับผิดชอบ “ผู้สมัครส.ส.” ของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ จำนวน “40 เขตเลือกตั้ง” โดยนิพนธ์ จะดูแล “ภาพใหญ่” ของภาคใต้ และแบ่งความรับผิดชอบไป “20 เขตเลือกตั้ง”
ขณะที่ “นายกชาย” นอกจากจะเป็นพ่อทัพภาคใต้แล้ว ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะลงแข่ง ส.ส.ในเขต 5 สงขลา ได้แก่พื้นที่ “อ.รัตภูมิ ,ควนเนียง และ บางส่วนของ อ.สิงหนคร” อีกด้วย
“อย่านำเอาตัวเลขของความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มาประเมินกับการเลือกตั้งในปี 2566 เพราะในปี 2562 พรรคมีการเตรียมความพร้อมน้อยมาก และประเทศไม่มีการเลือกตั้งมา 4 ปี ทำให้ ส.ส.กับประชาชน ห่างเหิน จึงเป็นเหตุให้ประชาธิปัตย์ เสียที่นั่งให้กับ ส.ส.พรรคอื่นๆไปเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ในภาคใต้”…
คำลั่นวาจาของ “นายกชาย” เพื่อเป็นการ “ปลุกขวัญ” ประชาธิปัตย์กลับมาคว้าส.ส.ใต้ให้ได้
บรรดา “พ่อทัพ-นายกอง” ที่รับผิดชอบภาคใต้ของประชาธิปัตย์เที่ยวนี้ ต่างมั่นใจว่า “มีความพร้อมมากที่สุด” มีการเตรียมวางผู้สมัครเอาไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงวิกฤตที่มีบรรดาสมาชิกพรรคทยอยไหลออกไปอยู่ พรรคอื่นก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเป็นการ...
ส่งสาสน์ท้ารบ!!!
ไปยังบรรดาพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มาลงแข่งขันในสนามเลือกตั้งภาคใต้ ที่นั่งทั้ง 60 เขต ก็จะต้อง “ถูกแชร์” ออกไปแน่นอน จะมากจะน้อยขึ้นอยู่พลังแรง หรือกำลังภายในต่างๆ รวมทั้ง “ปลายปากกา” ของประชาชน ที่จะชี้ชะตา
เริ่มที่ “จังหวัดสงขลา”
แกนนำอย่างนายกชาย มั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะสามารถเหมา “ยกจังหวัด” แบบไม่เหลือพื้นที่แชร์ ให้พรรคอย่าง “รวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “ลุงตู่” ชูโรง หรือแม้แต่กระทั่ง “พลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม”
อาจรวมทั้ง “ภูมิใจไทย” ที่ก็มีแม่ทัพภาคใต้ อย่าง “เจ๊นาที รัชกิจปราการ” กุมบังเหียน หมายมั่นปั้นมือสานต่อคว้าส.ส.ใต้ให้ได้ต่อเนื่องเช่นกัน
“จังหวัดตรัง”
บ้านเกิดของอดีตหัวหน้าพรรคอย่าง “นายหัวชวน หลีกภัย” ก็หวังที่จะทวงบัลลังก์ส.ส.กลับคืนมาทั้ง 4 เขต
ไม่เว้นแม้กระทั่ง “จังหวัดพัทลุง”
ที่ต้องยอมรับว่าเป็นโซน “รัชกิจปราการ“ ของภูมิใจไทย เรียกได้ว่า “ของแข็งเขี้ยวลากดิน” ประชาธิปัตย์ก็มั่นใจพร้อมสู้
แต่อาจที่จะต้องต่อสู้กันอย่าง “หนัก” และ “เหนื่อย”เอาเรื่อง เพราะไม่ง่ายเลยที่จะเจาะฐานที่มั่นของ “ภูมิใจไทย” ในพัทลุง แต่เมื่อขุนภาคใต้ปชป. แสดงความมั่นใจว่า “เขต 1” และ “เขต 3” เป็นของประชาธิปัตย์แน่นอน
เหลือเพียง “เขต 2” ที่ยังต้องลุ้นหนักทั้งในส่วนของผู้สมัครและของพรรค สุดท้ายแล้วขอ “เหยียบจมูก” ถิ่นภูมิใจไทย ด้วย “ยกจังหวัด” ทำไมจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้
“วันนี้ประชาธิปัตย์ภาคใต้เราคาดหวังว่าจะเป็น แลนด์สไลด์ ของภาคใต้ เราไม่ได้หยุดอยู่ที่ตัวเลข 40 หรือ 45 อย่างที่เคยตั้งความหวังไว้ แต่เราตั้งเป้าไว้ที่ 50 ที่นั่ง...
เหลือเพียง 10 ที่นั่ง ให้กับพรรคคู่แข่ง ซึ่งทุกพรรคที่เป็นคู่แข่งกับ ประชาธิปัตย์ ต่างมีปัญหาภายในพรรคเช่นกัน นี่จึงเป็นจุดแข็งในการที่ประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.ภาคใต้แบบถล่มทลาย จากการเลือกตั้งครั้งนี้”…
เดชอิศม์ พ่อทัพขุนพลใต้ปชป. ลั่นทิ้งท้าย!!!
แถมให้อีก 1 จังหวัด ในแถบชายแดนภาคใต้ อย่าง...
“จังหวัดยะลา”
ที่ประชาธิปัตย์ “ตั้งความหวัง” ไว้กับ “ณรงค์ ดูดิง” ผู้สมัครส.ส.เขต3 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ชูสโลแกน “คนบ้านเรา พัฒนาบ้านเรา” ขอทวงเก้าอี้คืน เพื่อพี่น้องโดยเฉพาะชาว “อ.เบตง” มาขอความไว้วางใจให้ประชาธิปัตย์
ณรงค์ ได้หมายเลข1 ในการสู้ศึกเลือกตั้ง เดินหาเสียงในช่วง “เดือนรอมฎอน” ทักทาย “สลาม” พี่น้องชาวไทยมุสลิม “สวัสดี” พี่น้องชาวไทยพุทธทั้ง พ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย
การลงพื้นที่พบปะประชาชนชาวอำเภอเบตงในครั้งนี้ ถือเป็นพื้นที่ “บ้านเกิด” ของ ณรงค์ ในยุทธวิธี “คนพื้นที่” ยังไงก็เข้าใจ เข้าถึง และใช้ความได้เปรียบตรงนี้ แสดงความมั่นใจว่า “มัดใจ” ชาวบ้าน ปักธงซิวชัยในครั้งนี้
ด้วยผลงานสำคัญอย่าง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ“ ผลักดันระเบียงเศรษฐกิจไทย-มาเลเซีย ให้เดินหน้าต่อ ภายใต้บทบาทที่เคยเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย-มาเลเซีย การค้า-การท่องเที่ยวชายแดนใต้ เรียกได้ว่าเป็น “ของถนัด” ที่จะสานต่องาน
อีกทั้งยังเร่งขยายถนน 410 ยะลา-เบตง รองรับการเติบโตธุรกิจการท่องเที่ยว เศรษฐกิจและการขนส่งของเมืองชายแดน แก้ปัญหาสนามบินเบตง ที่ยังคงไร้เที่ยวบินพาณิชย์ แม้จะยังเปิดบริการปกติ รองรับเครื่องบินส่วนบุคคล และเครื่องบินของหน่วยราชการ พร้อมสนับสนุนด่านด่านการค้าชายแดนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ในเรื่องของความมั่นคง ชูเดินหน้าการเจรจาเพื่อสันติภาพ พูคุยกันเพื่อสร้างสันติสุขให้ได้ พร้อมเปลี่ยนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้เป็นพื้นที่ “ความมั่นคงทางอาหาร” หวังสร้างสันติภาพ สู่สันติสุขชายแดนใต้ เปลี่ยนนาร้างเป็นนาข้าว ดันอาหารฮาลาล ผลิตอาหารให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก
แต่ถึงอย่างไรแล้ว แม้ “ประชาธิปัตย์” จะแสดงความพร้อม-ความมั่นใจ “ทวงบัลลังก์” คืนในครั้งนี้ แต่ก็ต้องต่อสู้อย่างหนัก กับ “พรรคคู่แข่ง” ที่ส่วนใหญ่ เป็นแกน “ร่วมรัฐบาล” กันมาในรอบที่แล้ว
แต่ละพรรคก็มีความ “เขี้ยวลากดิน” ไม่ธรรมดา
เรียกได้ว่าไม่ใช่งานง่าย และทุกอย่างจะ “ตอบโจทย์” หลังหย่อนบัตร “14 พ.ค.66” นี้ เท่านั้น!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี