เฉลย‘ประชาธิปไตย’ของใคร นักการเมืองหลอกลวงวนเวียนซ้ำซาก
18 เมษายน 2566 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” หัวข้อ “ประชาธิปไตยของใคร” มีรายละเอียดดังนี้...
ประชาธิปไตยของใคร
"ราษฎรไม่ได้เลือกผู้แทนของตน เพราะรู้แน่ว่าเป็นคนดี สมควรจะเป็นผู้แทน ด้วยประการทั้งปวงฉนี้เลย ตามจริงเลือกบุคคลผู้นั้นผู้นี่ เพราะมีผู้บอกให้เลือกฤาติดสินบนให้เลือกเท่านั้น"
พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
ไม่น่าเชื่อว่าจนถึงยุคปัจจุบัน ทั้งประชาชนและสถานการณ์ทางการเมืองก็ยังคงเป็นเช่นในพระราชดำรัสนี้
ได้มีความพยายามของข้าราชการที่ได้รับทุนหลวงจากพระเจ้าอยู่หัวไปศึกษายังต่างประเทศ หลังจากสำเร็จการศึกษาและได้เห็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุโรป ก็เริ่มที่จะคิดเปลี่ยนหรือปฎิวัติระบอบการปกครองมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
ในทางเดียวกัน พระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่รัชกาลที่ 5, 6 และ 7 ก็ทรงได้รับการศึกษาสมัยใหม่เช่นกัน และทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักบริหารหัวก้าวหน้าและฝักใฝ่ประชาธิปไตย
ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 ได้เกิดกบฎ ร.ศ.130 จากกลุ่มนายทหารหนุ่มกลุ่มแรกที่คิดก่อการปฏิวัติซึ่งก่อการไม่สำเร็จ แต่มาสำเร็จด้วยคณะราษฎร์ในปี 2475
โดยในส่วนองค์พระมหากษัตริย์ทรงได้ตระหนักในพระราชหฤทัยดีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5, 6 และ 7 แล้วว่า การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้นจะต้องพ้นสมัยไป
จึงทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญให้ไทยมีการปกครองแบบประชาธิปไตย
แต่ก็ทรงมีความเห็นว่าราษฎรส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมกับการปกครองระบอบใหม่นี้
จึงทรงเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการให้การศึกษาแก่ประชาชน รวมทั้งฝึกหัดข้าราชการให้รู้จักการปกครองแบบประชาธิปไตยหลายๆ วิธี และวิธีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือการตั้งดุสิตธานี เป็นเมืองต้นแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย
แต่ในที่สุดคณะราษฎร์ก็ก่อการปฎิบัติ ที่เป็นเหมือนการชิงสุกก่อนห่าม ที่ต่อมาก็ส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเมือง และความขัดแย้งทางการเมืองมาจนทุกวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำรัสเมื่อร้อยกว่าปีก่อนที่ว่า...
"ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องประชาธิปไตย จึงถูกนักการเมืองหลอกลวง ชักจูง และติดสินบน ทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของประชาธิปไตย"
พระราชวินิจฉัยที่ว่าราษฎรยังไม่มีความพร้อม เพราะขาดความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยนี้ จะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชน
เพราะจะมีเพียงแค่กลุ่มคนเล็กๆ ที่ได้รับการศึกษาสูงที่พอจะเข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตย
และกลุ่มคนเหล่านี้ก็สามารถหลอกลวงและชักจูงให้ทำผิดวัตถุประสงค์ของประชาธิปไตยที่แท้จริง
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นความจริงตามพระราชวินิจฉัยทุกประการ และยังคงวนเวียนเกิดขึ้นซ้ำซากหลอกหลอนคนไทยและเมืองไทยมาจนปัจจุบัน
นักการเมืองยุคปัจจุบันประกาศว่า เราถูกปล้นประชาธิปไตย แต่เขาไม่พูดต่อไปว่า ประชาธิปไตยที่ว่านั้น เป็นประชาธิปไตยที่มีนักการเมืองเป็นใหญ่
รัฐบาลปัจจุบันมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนและรัฐสภา โดยมีสหประชาชาติและนานาชาติรับรองว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากครรลองประชาธิปไตยทุกประการ
ดังนั้น กลุ่มคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามหรือต่อต้านรัฐบาล จะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยไปได้อย่างไร !
ประชาธิปไตยเป็นของใคร ?
อัษฎางค์ ยมนาค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี