'เสี่ยหนู'ปราศรัยทิ้งทวน สั่งผู้สมัครก้มกราบคนกรุงขอแจ้งเกิด 'ชูวิทย์'บุกป่วนเจอตะโกนโห่ไล่

'เสี่ยหนู'ปราศรัยทิ้งทวน สั่งผู้สมัครก้มกราบคนกรุงขอแจ้งเกิด 'ชูวิทย์'บุกป่วนเจอตะโกนโห่ไล่

วันศุกร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 20.44 น.

"ภูมิใจไทย"ปราศรัยใหญ่ทิ้งทวนเมืองหลวง ขอแจ้งเกิดเมืองกรุงฯ ไม่สน"ลุง-หลาน"ขัดแย้ง ขอทำงานลูกเดียว ด้าน"อนุทิน"แซะ"พ่อค้า"อย่ารีบร้อนเป็นนายกฯ สอนมวยต้องสะสมประสบการณ์ เปรียบกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียว ขณะที่"ชูวิทย์"มาตามนัดปักหลักป่วนบนทางด่วน "เสี่ยหนู"ปลุกชาวบ้านโห่ไล่ แฉรับจ้างถล่มพรรค

เมื่อเวลา 17.40 น.วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าโชว์ดีซี ถ.พระราม 9 นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคคนอื่นๆ อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้ง กทม.เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต พร้อมกับปราศรัยใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้


จากนั้น เวลา 17.45 น. น.ส.อิสราพร บูรณอรรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะคนรุ่นใหม่ของพรรค ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เมื่อตนตัดสินใจลงสนามการเมือง จำเป็นต้องเลือกพรรคที่มีวิธีคิดเช่นเดียวกับตัวเอง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นหนึ่งในพรรคที่ทำตามนโยบายได้มากที่สุด การเลือกตั้งครั้งนี้ก็เช่นกันที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง และเป็นหนึ่งในพรรคที่รับผิดชอบต่อคำพูดตัวเอง เราคิดก่อนพูด ไม่หลอกลวงประชาชน

ขณะที่ นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 15 ปราศรัยตอนหนึ่งว่า อาชีพที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้มากที่สุดคืองานการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองในอุดมคติของตน คือ พรรคภูมิใจไทยที่สามารถทำตามนโยบายที่พูดได้ วันนี้ประเทศต้องการคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งวันนี้นายอนุทิน คือคนๆนั้น วันนี้จึงขอเชิญชวนทุกท่านเลือกพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย

จากนั้น เป็นการปราศรัยของอดีตส.ส.ในพื้นที่ กทม. ประกอบด้วย นายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 22 สวนหลวง - ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) กล่าวว่า วันนี้ตนมีความสุขมากที่เห็นประชาชนมาให้กำลังใจ และรับฟังนโยบายของพรรค 3 ปีที่ผ่านมา เกิดการระบาดของโควิด - 19 ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รับผลกระทบ 4.5 แสนคน เสียชีวิต 3 หมื่นกว่าคน ตนมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน ช่วงนั้นตนไม่เคยทิ้งประชาชน แต่ลงไปช่วยเหลือตลอดมา อีกไม่กี่วันคือวันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเลือกให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 33 เขต โดยเฉพาะเขตสวนหลวง - ประเวศ ขอให้เลือกมณฑลคนเดิมได้กลับมารับใช้พี่น้องประชาชน

ขณะที่ นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 คลองเตย - วัฒนา กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค. เป็นวันที่ท่านจะกำหนดอนาคตของท่านเอง ขอฝากพรรคภูมิใจไทยไว้ในอ้อมใจ ส่วนที่ย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย เพราะช่วงที่อยู่ในสภาได้คุยกับหัวหน้า และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ก็มีความปลื้มอยู่ในใจ เพราะว่ามีเอกภาพ และสนับสนุนส.ส.ของพรรคในการทำงานอย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจไม่ยากในการตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ตนขอฝากชาวคลองเตย - วัฒนา ตนทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนมาตลอด ประเทศต้องเดินหน้า เราอยากให้พรรคภูมิใจไทยตอกเสาเข็มในพื้นที่ กทม. เราก็จะเห็นความเจริญอย่างยั่งยืนของ กทม.

ด้าน นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 ห้วยขวาง - วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) กล่าวว่า ตลอดเวลา 33 ปี บนถนนการเมือง ตนมีความตั้งใจที่จะทำงานให้พี่น้องประชาชนภายใต้จุดยืนของพรรค ส่วนการที่ตนตัดสินใจร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพราะตอนที่เป็นส.ส.ตนได้อภิปรายเรื่องทุจริตบัตรทองในพื้นที่ กทม.ซึ่งนายอนุทิน ในฐานะรมว.สาธารณสุข ได้ฟังตนอภิปรายกระทั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ท่านให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพของประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน

“หวังใจอย่างยิ่งว่า พี่น้องจะให้โอกาสผู้สมัครของพรรคทั้ง 33 เขต ที่ประกอบไปด้วยความหลากหลาย ขอให้พวกเราได้ปักธงในกทม.” นายประเดิมชัย กล่าว

จากนั้น เวลา 18.30 น.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้ง กทม.ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยมั่นใจมาก เราไม่สนกระแส เพราะเรามั่นใจในตัวพี่น้องประชาชน วันนี้อนุทินอยู่ตรงกลางเดินกน้าแก้ปัญหาไม่สนใจใครเลย วันนี้พี่น้องกลับไปขึ้นแฮชแท็กเลย “อนุทินไปต่อไม่รอแล้ว” ปล่อยให้ลุงกับหลานเขาทะเลาะกันไป เพราะวันนี้ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีเยอะ นายอนุทินจึงขอเดินหน้าทำงานให้พี่น้องประชาชนลูกเดียว

“มีคนปรามาสหัวหน้าพรรค และตน ว่าไม่เคยมี ส.ส.ใน กทม.อยู่บ้านนอกดีแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคบอกอย่าไปโต้เถียงหรือว่าใคร ให้ตั้งใจทำงานการเมืองแบบใหม่ คือพูดเรื่องที่อยากทำ อยากตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชน ขณะนี้มีบางคนอ้างว่าตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ แล้วขอให้เลือกเขา แต่จะใหม่ได้อย่างไร เพราะไปขึ้นเวทีไหนก็ไปด่าพ่อล่อแม่คนอื่น แต่คนที่ใหม่จริงๆคือเรา เพราะนายอนุทินสั่งทุกคนว่าเวลาขึ้นเวทีอย่าด่าคนอื่น แต่ให้พูดถึงสิ่งที่จะทำให้ประชาชน เราไม่เอาความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร แต่ก็มีคนมาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยอยู่กับใครก็ได้ ทำไมไม่ถามหัวหน้าของผมเลย ว่าไม่ใช่อยู่กับใครก็ได้ เพราะเราไม่เอาแก้มาตรา 112 เราต้องรู้คุณแผ่นดิน พวกเราภูมิใจไทยพร้อมยืนหยัดปกปักษ์รักษา 3 สถาบันหลัก ไม่มีใครชัดเจนกว่านี้แล้ว หัวหน้าผมไม่ค่อยพูดแต่ทำอย่างเดียว ไม่เหมือนใครบางคนที่พูดอย่างเดียว” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

จากนั้น เวลา 18.50 น. นายอนุทิน ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวว่า จากที่ตนต่อสู้มาตลอด เพราะอยากมี ส.ส.กทม.ในครั้งนี้ ตนก็กล้าๆ กลัวๆ มาตลอด แต่เห็นพี่น้องวันนี้แล้วมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้เกิดในพื้นที่กทม.แน่นอน ตนจะสวดมนต์ว่าขอให้พี่น้องเข้าคูหากาเบอร์ 7 และกาให้คนของพรรคภูมิใจไทย เราทำงานมา 4 ปีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าเรายึดกรอบเดิมๆว่าจังหวัดไหนไม่เลือกจะไม่ทำงานให้ แต่เราคิดตรงกันข้าม เพราะจังหวัดไหนไม่เลือกยิ่งต้องทำงานให้เขาเลือกเราจนได้ เรายึดคติตื๊ดครองโลก ตื๊อด้วยการทำงาน ไม่ใช่ตื๊อด้วยการด่าทอต่อว่าพรรคอื่น

“การทำงานเพื่อประชาชนต้องมีประสบการณ์ มีความตั้งใจ ไม่ใช่ขายของอยู่จะมาเป็นนายกฯได้อย่างไร กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว กรุงเทพฯยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต้องมีประสบการณ์มาทำงาน จึงขอให้ใจเย็นๆ เพราะจะมารับใช้บ้านเมือง ต้องอย่ามองประชาชนเป็นเสาไฟฟ้า วันนี้เขาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแยกแยะได้ เชื่อว่า ประชาชนเห็นการทำงานของพรรคภูมิใจไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ว่าพูดแล้วทำ” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย นายอนุทิน ได้สั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้งหมดของพรรคที่อยู่บนเวทีก้มกราบพี่น้องประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยเพื่อขอคะแนน พร้อมกับพูดว่าถ้าใครไม่กราบขอให้สอบตก

ต่อมา เวลา 19.05 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทิน กำลังปราศรัยอยู่บนเวทีนั้น ปรากฏว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมมวลชนบางส่วนขึ้นไปบริเวณทางด่วนถนนพระราม 9 เหนือลานโชว์ดีซี พร้อมชูป้าย ข้อความ "เราไม่เอากัญชา เอากัญชากลับไป" "กัญชาฆ่าเยาวชน" "ยกเลิกกัญชา" "บ้ากัญชาพาสังคมพัง" โดยชูไปยังเวทีปราศรัย จากนั้นเมื่อนายอนุทินหันไปเจอ จึงได้ปลุกประชาชนปรบมือให้กับนายชูวิทย์ ที่มาชูป้ายเชียร์พรรคภูมิใจไทย พร้อมตะโกนขอให้นายชูวิทย์ลงมา "ลงๆ ลงมาโดดมาๆ  อย่าลืมว่าเรานัดกินข้าวกันอยู่ แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันนะ" นายอนุทินกล่าวเพียงเท่านั้นก็กลับเข้าสู่การปราศรัยต่อ โดยระว่า มีกระบวนการขัดขวางรถไฟฟ้าสายสีส่ม กลัวว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนท่วมท้น จึงไปรับจ้างเขามาป่วน  ใครห้ามใช้สายสีส้มเป็นคนทำลายชาติ ขอให้พี่น้องโห่ใส่

จากนั้น 19.15 น. เจ้าหน้าตำรวจเข้าเจรจาให้นายชูวิทย์ และทีมงานออกจากบริเวณทางด่วนเนื่องจากกีดขวางการจราจร ซึ่งทันทีที่นายชูวิทย์เคลื่อนตัวออกไป นายอนุทิน ก็ตะโกนว่า "ออกไปไปไกลๆ" เช่นเดียวกับประชาชนที่มาฟังปราศรัยก็โห่ไล่ พร้อมตะโกนว่า "ไม่แน่จริงนี่หว่า ถ้าแน่จริงให้ลงมาข้างล่าง"

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top