อย่าใช้การเมืองกำหนดอนาคตกัญชา ‘ประสิทธิ์ชัย’ร่อนหนังสือถึง‘พิธา’ ยันไม่หยุดเคลื่อนไหวถ้ายังดึงดันเอา‘กัญชา’กลับไปเป็นยาเสพติด แต่จะไม่ประท้วงจนกว่าจะตั้ง‘รัฐมนตรีสาธารณสุข’เสร็จ เสนอ 3 ขั้นตอนทบทวนรอบด้านจากหลักฐานข้อเท็จจริง ตามวิถีประชาธิปไตย
25 พฤษภาคม 2566 นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กฝากข้อความถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยใช้หัวข้อว่า “หนังสือถึงพิธาและความในใจของผม” ระบุว่า ตนเคลื่อนไหวเรื่องกัญชามาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และไม่เคยเขียนถึงพรรคก้าวไกลก่อนเลยสักครั้ง ยกเว้นว่าพรรคพูดเรื่องกัญชากลับสู่ยาเสพติด เราเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจำเป็นต้องพูด
หลายคนบอกและเรียกร้องว่าให้หยุดก่อน ให้เขาทำเรื่องใหญ่ก่อน ประเด็นสำคัญคือเรื่องกัญชาสำหรับตนมันใหญ่มาก ถ้ามันถูกเอาไปเป็นยาเสพติด มันคือการทำลายความมั่นคงทางยาที่ใช้กัญชารักษาเยียวยาความทุกข์ยากของผู้คน
ถ้าจะเรียกร้องตนให้หยุดพูดก่อนการจัดตั้งรัฐบาล ทำไมประชาชนต้องหยุดพูดด้วย แต่ตนยืนยันหลักการเดิมว่าตนไม่พูดก่อน ตนจะพูดก็ต่อเมื่อฝ่ายการเมืองเคลื่อนไหว แต่ถ้าเห็นว่าฝ่ายการเมืองจะทำอะไรก็ได้ จังหวะนี้เราต้องหยุดก่อน มันใช่หลักการที่ถูกต้องหรือเปล่า
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ตนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะชวนพรรคการเมืองกลับมากำหนดนโยบายที่ข้อเท็จจริง ตนไม่ใช่นักการเมืองที่จะตัดสินตามภาวะการเมือง ตนยืนยันหลักการ และ พรรคการเมืองไม่ควรหวั่นไหวต่อการตั้งคำถามเพื่อหาข้อเท็จจริง พวกตนไม่ชุมนุมประท้วง จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง รมต.สาธารณสุข สิ่งที่พวกตนทำคือสิ่งที่ปรากฏในหนังสือที่ส่งถึงหัวหน้าพรรคก้าวไกล นั่นคือชวนทุกพรรคมาร่วมกันกำหนดนโยบายที่ข้อเท็จจริง
“ถ้าทำเท่านี้เพื่อนพี่น้องผมที่เคยคบกันมาแล้วหาว่านี่คือการทำลายพรรคก้าวไกล เราสามารถเลิกคบกันได้ครับ เพราะผมเป็นบุคคลเช่นนี้และผมก็เสียเพื่อนจากภาวะเช่นนี้ตลอดมา จะเสียเพื่อนอีกสักรอบก็ไม่เป็นไร ผมรับปากได้อย่างเดียวว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการหาข้อยุติร่วมกันให้ได้กับพรรคการเมือง ด้วยการใช้ข้อเท็จจริงมาร่วมกันพิจารณา ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่มีเบื้องหลัง จะอย่างไรคงคุยกันได้ แต่ถ้ามีประโยชน์เบื้องหลังก็ยากจะตกลงกัน” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
นายประสิทธิ์ชัย ยังได้เสนอแนวทาง สำหรับการกำหนดตำแหน่งแห่งที่ของกัญชาในประเทศไทยไว้ 3 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่1 คือ หัวใจสำคัญสุด กลับมาพิจารณาที่ข้อเท็จจริงของกัญชาอย่างรอบด้าน ปัญหาสำคัญที่สุดของกัญชาตอนนี้คือ ข้อมูลที่สาธารณชนรับรู้ห่างไกลจากข้อเท็จจริง เหตุเพราะพรรคการเมืองนำกัญชามาปั่นกันจนเลยเถิด โดยเฉพาะสองพรรคใหญ่ ที่ได้รับความนิยมสูง คำพูดของสองพรรคนี้ยิ่งตอกย้ำว่ากัญชาเลวร้าย
หากเราไม่กลับมาสู่ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ไม่มีทางที่จะกำหนดกติกาที่มีประสิทธิภาพ และทุกเรื่องของประเทศนี้เวลาจะกำหนดนโยบายต้องกลับมาที่ข้อเท็จจริง ฉะนั้นขั้นตอนแรกทุกภาคส่วนต้องกลับมาที่จุดพื้นฐานสำคัญที่สุดคือข้อเท็จจริง
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์จากฐานข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านแล้วมากำหนดว่า เราจะใช้เครื่องมือใดในการกำหนดกลไกที่มีประสิทธิภาพที่สุด เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน เมื่อถึงขั้นนี้เราจะมองเห็นภาพร่วมกันว่า เครื่องมือแบบ พระราชบัญญัติ หรือ กฎหมายยาเสพติด
ขั้นตอนที่3 ต้องสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างกลไกเรื่องกัญชา และออกแบบกลไกร่วมกัน จนกลายเป็นกฎหมายที่ใช้กำกับและบริหารกัญชาของประเทศ
“หากเริ่มจาก 3 ขั้นตอนนี้ จะสง่างาม เป็นประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ควรเลือกวิธีการของประชาธิปไตย ไม่ใช่รวบรัดตัดตอน เอาไปสู่กฎหมายยาเสพติด ซึ่งเป็นกฎหมายที่จำกัดการใช้ จำกัดเสรีภาพ จำกัดการออกแบบกลไก กลับมาสู่การแสวงหาข้อเท็จจริงเถอะครับ อย่าใช้วิถีการเมืองในการกำหนดนโยบายกัญชา เพราะมันจะผิดแล้วผิดอีก” เลขาธิการเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี