25 พ.ค.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง แถลงข่าววิจารณ์ประเด็นทางการเมืองพร้อมจัดทำผังโควตาการแบ่งกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาล สูตรคำนวณ 8.5 สส. ต่อ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี โดยกระทรวงด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย จะได้กระทรวงเกรด A ไป อาทิ คมนาคม พลังงาน , เกษตรและสหกรณ์ , อุตสาหกรรม ,ท่องเที่ยว , สาธารณสุข ,พาณิชย์   ส่วนพรรคก้าวไกล จะได้กระทรวงเกรดบี คือ กลาโหม , มหาดไทย , ศึกษาธิการ, วัฒนธรรม ,ดีอีเอส

นายชูวิทย์ ระบุว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้จัดตั้งรัฐบาลในสูตร 1 คือ  พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคก้าวไกล เพื่อสร้างการเมทองในรูปแบบใหม่ แต่ขณะนี้มีคนพยายามทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องประธานสภา ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วจะไม่ใช้วิธีการโหวตเนื่องจากต้องมีการตกลงกันไว้ก่อน แต่ถ้าจะใช้วิธีการโหวตแสดงว่ามีความแตกแยกกันเกิดขึ้น

"ที่เขาต้องแย่งตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะเป็นผู้เสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมเชื่อว่า คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล แต่อาจจะไม่ได้ดำรตำแหน่งเพราะปมการถือหุ้นสื่อไอทีวี หากวุฒิสภาอ้างเหตุผลเรื่องนี้ พรรคร่วมก็ต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯลำดับถัดไป นั่นก็คือจากพรรคเพื่อไทย แต่ส่วนตัวมองว่าพรรคก้าวไกล เขายอมให้พรรคเพื่อไทยไปมากแล้ว ดังนั้นประธานสภา ควรเป็นของพรรคก้าวไกล"นายชูวิทย์ ระบุ

พร้อมอ้างว่า ตนได้ข่าวมาว่าขณะนี้มีการวางแผนสอง ไปคุยกันที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท เมื่อสองวันก่อน ลองเช็คกันดูว่าจริงหรือไม่ โดยแผนนี้จะให้พรรคก้าวไกล กับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นฝ่ายค้าน โดยให้พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านตามแผนที่วางไว้