เคลียร์ปมร้อน!แจงลือ‘ระเบียบกรมราชทัณฑ์’ เอื้อ‘ทักษิณ’ติดคุกนอกเรือนจำ
สืบเนื่องจากวานนี้ (7 มิ.ย.66) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ “ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ. 2566” มีเนื้อหาน่าสนใจว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมระเบียบกรมราชทัณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน ให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักกันตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2510 อธิบดีกรมราชทัณฑ์จึงออกระเบียบไว้
อีกทั้งต่อมามีกระแสข่าวว่าการออกระเบียบดังกล่าวเปิดช่องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้ขาดย้ายผู้ถูกคุมขังนอกเรือนจำ อย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าตัวเคยระบุว่าจะกลับมายังประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนถึงอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยเนื้อหาของข่าวมีส่วนที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสาระสำคัญและผลบังคับใช้ของระเบียบดังกล่าวนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ.2566 ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2510 เพื่อกำหนดขั้นตอนและวิธีการดูแลสวัสดิภาพของ“ผู้ถูกกักกัน” ตามกฎหมาย โดยมาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้ใช้วิธีการกักกันกับผู้ที่เคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกหรือกักกันมาแล้ว และศาลเห็นว่า ผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิดติดนิสัย ซึ่งหากผู้นั้นยังมีโทษจำคุกหรือกักขังที่จะต้องรับอยู่ก็ให้จำคุกหรือกักขังเสียก่อน และให้นับวันถัดจากวันที่พ้นโทษจำคุกหรือพ้นจากการกักขังเป็นวันเริ่มกักกัน
ดังนั้น “การกักกัน” จึงมิใช่การจำคุกนอกเรือนจำแต่อย่างใดแต่เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยที่ศาลอาจมี คำพิพากษาเพิ่มเติมจากโทษทางอาญาที่ลงแก่จำเลย ส่วน “ผู้ต้องขัง” ซึ่งเป็นผู้ต้องโทษจำคุกตาม คำพิพากษาถึงที่สุดของศาล จะต้องถูกควบคุมตัวไว้ ในเรือนจำตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหน
ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีผู้ถูกกักกันอยู่ในความดูแล จำนวน 57 ราย (ชาย 51 ราย หญิง 6 ราย ) และจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ผู้ถูกกักกันเป็นบุคคลจรจัด ไร้บ้าน ทำความผิดซ้ำในคดีลักทรัพย์ (ลักเล็กขโมยน้อย) เป็นหลัก
นายสิทธิ กล่าวว่า ในปัจจุบันพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 กำหนดให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้รับผิดชอบในการบังคับตามคำสั่งคุมขังภายหลังพ้นโทษหรือคำสั่งคุมขังฉุกเฉินตามที่ศาลกำหนด โดยให้นำพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักกันตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2510 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ด้วยเหตุนี้ กรมราชทัณฑ์จึงจำเป็นต้องประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ.2566 เพื่อให้มีมาตรการในการดูแลสวัสดิภาพของผู้ถูกกักกันและบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้ใช้มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษหรือคำสั่งคุมขังฉุกเฉินให้เกิดความเหมาะสมและอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวลือที่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องผ่านเพจประชาสัมพันธ์ของกรมราชทัณฑ์
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี