เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป.มีความห่วงใยเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ช่วงนี้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกที่ทำให้ราคาปาล์มทะลายปรับตัวลดลงราวๆ กก.ละ 0.50 บาท จึงได้มอบหมาย พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการฯ ใน กนป.ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายภาคเอกชนในต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไทย อย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวลดลง รองนายกฯ ได้รับทราบและห่วงใยต่อสถานการณ์ที่อาจกระทบต่อราคาผลปาล์มน้ำมัน ได้เร่งรัดให้ยกระดับความร่วมมือด้านปาล์มน้ำมัน กับอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าปาล์มน้ำมันที่สำคัญของไทย โดยปี 2565 ประเทศไทยส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังอินเดียมากถึงร้อยละ 85 คิดเป็นมูลค่า 33,200 ล้านบาท จากมูลค่าส่งออกสินค้าน้ำมันปาล์มทั้งสิ้นประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยรองนายกฯ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ประมาทในความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก แม้ว่าในวันนี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศจะอยู่ที่ 2.2 แสนตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่สูงนัก ซึ่งเป็นผลจากการเร่งส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปกว่า 6 แสนตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เพื่อลดสต๊อกน้ำมันปาล์มลงจาก 3.96 แสนตันในช่วงต้นปี โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ครม.ได้รับทราบผลการประชุม กนป.มีมติเห็นชอบมาตรการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบโดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในอัตราไม่เกิน 2 บาทต่อกิโลกรัม ในวงเงิน 309 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเสนอขออนุมัติโครงการต่อ ครม.และ ขอความเห็นชอบจาก กกต.ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ได้มอบแนวทางให้ฝ่ายไทยพัฒนาความร่วมมือกับนักธุรกิจน้ำมันพืชของประเทศอินเดีย โดย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 นาย นาเกศ สิงห์ (H.E. Mr. Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ ทำเนียบรัฐบาล รองนายกฯ ในนามของรัฐบาลไทย ได้ขอบคุณนักธุรกิจชาวอินเดียที่ได้สั่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากประเทศไทยในปี 2565 มากเกือบ 1 ล้านตัน และขอให้ผู้ประกอบการชาวอินเดียนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มมากขึ้นในปี 2566 เพื่อระบายสต๊อกส่วนเกินที่เหลือใช้และรักษาเสถียรภาพด้านราคาปาล์มนำ้มันและน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศไทย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ฝ่ายไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อนักธุรกิจอินเดีย และสนับสนุนให้มีการประสานงานกับโรงสกัดน้ำมันปาล์มและหน่วยงานระดับปฏิบัติของไทยให้มากขึ้น โดยคณะนักธุรกิจอินเดียประกอบไปด้วยคุณ เซบาสเตียน เทเลอร์ (Mr.Sebastian Taylor) ผู้แทนของ Solidaridad ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศที่ดูแลการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในสินค้าที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม และ ดร. สุเรช ม๊อตวานิ (Dr.Suresh Motwani) เลขาธิการ Asian Palm Oil Alliance ได้หยิบยกประเด็นความร่วมมือในการส่งเสริมการปลูกปาล์มอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คณะนักธุรกิจจากอินเดียได้ยื่นข้อเสนอในการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านปาล์มน้ำมันกับอินเดีย พร้อมทั้งเชิญให้ฝ่ายไทยเดินทางไปร่วมงานนิทรรศการ GLOBOIL INDIA ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 กันยายน 2566 ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย และหารือถึงการจัดงานนิทรรศการ GLOBOIL ที่ประเทศไทยในปี 2567 ซึ่งนับเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการยกระดับความร่วมมือทางการค้าปาล์มน้ำมันกับอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ BRIC (Brazil Russia India China) ที่เป็นตลาดคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี